
27 ตุลาคม 2568 ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมด้วย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก. พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.สอท. พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ รอง ผบช.สตม. ร่วมแถลงผลการกวาดล้างแก๊งฉ้อโกงออนไลน์ และ การไล่ตรวจยึด Sim box อุปกรณ์สำคัญของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ในช่วงวันที่ 1-26 ต.ค. ที่ผ่านมา
จากการระดมกำลังกวาดล้างอาชญากรรมทางเทคโนโลยีฉ้อโกงออนไลน์ต่างๆดังกล่าว เบื้องต้น สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้รวม 73 ราย แบ่งเป็นคนไทย 51 ราย ต่างชาติ 22 ราย รวมมูลค่าคความเสียหายกว่า 1,400 ล้านบาท พร้อมกันนี้ ยังสามารถติดตามยึดทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำผิดกว่า 522 ล้านบาท
นายไชยชนก ระบุว่า สืบเนื่องจากนายกรัฐมนตรีที่มีการยกระดับ ปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เป็นวาระแห่งชาติ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มีการประชุมกันอย่างต่อเนื่องในทุกมิติได้มีการยกระดับมาตรฐานการรับมือจัดการมากขึ้นกับปัญหาดังกล่าวในเชิงรุกมากขึ้น ส่วนการประสานงานเวทีนานาชาติได้ไปเป็นตัวแทนประเทศไทย ประชุมอาเซียนยูเนสโก ในประเด็นที่กฎหมายเกี่ยวกับแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยได้มีการหารือในส่วนของปัญหาสแกมเมอร์ ที่พบว่าเป็นปัญหาเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
“ขณะที่เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ที่ผ่านมา ได้เข้าร่วมพิธีลงนามอนุสัญญาสหประชาชาติ ว่าด้วยการต่อต้านอาชญากรรมไซเบอร์ และการประชุมระดับสูง ที่มี 68 ประเทศ และสหภาพยุโรป เข้าร่วม ที่ กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ทำให้เห็นว่าอาชญากรรมทางเทคโนโลยีถูกยกระดับเป็นวาระระดับโลกที่หลายประเทศให้ความตระหนักและแก้ไขปัญหา ซึ่งประเทศกัมพูชาได้เข้าร่วมประชุมดังกล่าวด้วย”
ด้าน พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า หลังจาก ได้รับนโยบายจากทางรัฐบาล ยอมรับ ว่า ปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สแกมเมอร์ คอลเซ็นเตอร์ มีเป็นจำนวนมากและเป็นภัยต่อโลก หลังจากได้รับภารกิจตั้งแต่หนึ่งตุลาคมที่ผ่านมา ได้มีการวางโครงสร้างระบบ และกำลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
จากการระดมกำลังกวาดล้างจับกุม ช่วงระหว่างวันที่ 1-26 ต.ค. ที่ผ่านมา สามารถจับผู้ต้องหา 73 คน คนไทย 52 คน ต่างชาติ 22 คน รวมมูลค่าคความเสียหายกว่า 1,400ล้านบาทยึดทรัพย์ได้ 522 ล้านบาท ช่วยเหลือเหยื่อได้ 7 เคส
เบื้องต้น ถือว่า ผลงานก้าวหน้าและเห็นผล แต่ก็ยังคงต้องทำต่อเนื่อง ที่ผ่านมามีหลายปฏิบัติการที่ตรวจจับ ทั้งมีคนไทยเข้าไปเกี่ยวข้องและต่างชาติเข้าร่วมในกระบวนการ ขณะเดียวกันมีความร่วมมือกับนานาชาติ เช่น ความร่วมมือกับสถานทูตเกาหลี ในการจับกุมผู้มีความเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์
ทั้งนี้ ในปฏิบัติการดังกล่าว พบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ในตำแหน่งรองผู้กำกับสอบสวน
ลักษณะ เกี่ยวข้องกับการร่วมเปิดบัญชีม้า มีเงินหมุนเวียนหลัก100 ล้านบาท โดยได้จับกุมและอยู่ระหว่างการดำเนินคดีทางกฎหมาย
เบื้องต้นมีรายงานว่า ตำรวจนายดังกล่าว เป็นรองผู้กำกับการสอบสวน อยู่ที่สถานีตำรวจนครบาลแห่งหนึ่งในพื้นที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 ตั้งอยู่ใกล้สถานที่สำคัญทางระบบคมนาคม
ทั้งนี้จากการสอบปากคำรองผู้กำกับการรายดังกล่าวให้การปฏิเสธว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเป็นเจ้าของบัญชีม้ารับเงิน และขอประกันตัวในชั้นสอบสวน แต่เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาต ผู้ต้องหาจึงไปขอประกันตัวในชั้นศาล แต่ล่าสุดได้รับการประกันตัวออกมาแล้ว
ทั้งนี้การจับกุมดังกล่าว ตำรวจได้ตรวจสอบเส้นทางการเงินจากกลุ่มเครือข่ายสแกมเมอร์คดีฟีนิกซ์แมกซ์ ซึ่งในข้อมูลเส้นทางการเงินพบชื่อของบุคคลดังกล่าวแต่แจ้งชื่อคำนำหน้าว่านาย
ต่อมาได้ตรวจสอบชื่อของบุคคลดังกล่าวอย่างละเอียดตามทะเบียนราษฎร์และฐานข้อมูลของหน่วยงานราชการ จึงทราบว่าเป็นตำรวจระดับรองผู้กำกับการ
จึงเสนอนำข้อมูลให้ศาลพิจารณาออกหมายจับ ยืนยัน หากพบข้าราชการรายเล็ก หรือรายใหญ่
หากมีความเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีไม่ว่าจะเรื่องใดก็ตาม ยืนยันจับกุมดำเนินคดีทุกราย
ในส่วนประเด็นการคัดกรองเข้มงวดรับมือต่างชาติหนีข้ามแดนแม่สอดพร้อมขยายผลแก๊งสแกมเมอร์ ช่วงที่ผ่านมาคนที่เข้ามาประเทศไทย ประมาณ 1,229 คน เป็นคนไทย 32 คน นอกนั้นเป็น ต่างชาติ. โดยได้ประสานงานกับประเทศต้นทางในการสืบสวนสอบประวัติอย่างละเอียด ขอประวัติอาชญากรรมหรือการต้องโทษ ส่วนการปิดกั้นแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ. ปิดกั้นไปแล้ว กว่า 2,754 URL
นอกจากนี้ยังมีการตรวจจับ ตัดวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทลายซิมบ็อกซ์ต่อเนื่อง ทั้งที่ใจกลางเมืองสระแก้ว หรือที่ บางบัวทอง นนทบุรี โดยสามารถจับกุมพร้อมอุปกรณ์โทรเพื่อไปหลอกเหยื่อ ปัญหาดังกล่าว ได้หารือกับ กสทช.และบริษัท เครือข่ายสื่อสารในการสกัดกั้น
อย่างไรก็ตามในช่วงที่ผ่านมามีประชาชนเข้าแจ้งความ คดีที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางออนไลน์ หรือถูกหลอกลวง คความเสียหายต่างๆ กว่า 1,000 คดีต่อวัน ความเสียหายกว่า หนึ่งร้อยล้านบาท เบื้องต้น ตั้งเป้า ภายในระยะเวลา6เดือนจำนวนคดีใหม่จะต้องลดลงจากเดิม และจะเห็นผลเป็นรูปธรรมถึงการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสแกมเมอร์ คอลเซ็นเตอร์ต่าง ๆ
ส่วนความร่วมมือกับต่างประเทศ ในการแก้ปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้มีการหารือ กับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในการตั้งศูนย์ เฉพาะกิจ ในการเชิญต่างประเทศ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียมาแลกเปลี่ยนข้อมูลร่วมกัน หาแนวทางปราบปรามอย่างเป็นทางการและจริงจัง