svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ข่าวสถานการณ์

เตรียมกำลัง คฝ. 6,000 นาย รับมือบ้านหนองจาน-หนองหญ้าแก้ว

ผบ.ตร. เตรียม คฝ. 6,000 นาย หนุนกองกำลังบูรพา รับมือบ้านหนองจาน-หนองหญ้าแก้ว พร้อมตั้งวอร์รูมผนึกกำลัง UNODC-FBI-อินเตอร์โพล ตั้ง กกล.ฉก.กวาดล้างสแกมเมอร์ ใน 2 สัปดาห์

24 ตุลาคม 2568 พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวภายหลังการประชุม ผบ.เหล่าทัพ ว่า ในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรณีการรับมือกับภัยคุกคามด้านตะวันออก มี 2 มิติ คือ มิติแรกที่กองกำลังบูรพา ขอรับการสนับสนุนกองร้อยควบคุมฝูงชน เนื่องจากมีการใช้ประชาชนในประเทศเพื่อนบ้านมาก่อความไม่สงบบริเวณบ้านหนองจาน บ้านหนองหญ้าแก้ว จ.สระแก้ว ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) สั่งการให้มีการเตรียมกำลังตำรวจ 6,000 นาย เพื่อที่จะรองรับเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดความรุนแรง และผบ.ตร.ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบความพร้อมของกำลังพล และอีกส่วนหนึ่งคือในด้านแนวหลังก็ได้มีการสั่งการให้ตำรวจพื้นที่ดูแลประชาชนในพื้นที่อย่างเต็มที่ และปฏิบัติตามแผนหากเกิดเหตุการณ์ที่จะสามารถย้าย อพยพประชาชนในพื้นที่ปลอดภัย

พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

 

และอีกมิติ คือ การรับมือไซเบอร์และสแกมเมอร์ ขณะนี้รัฐบาลได้ประกาศเป็นวาระแห่งชาติ และ ผบ.ตร. ได้มีการเรียกประชุมเตรียมความพร้อม และมีการเปิดศูนย์วอร์รูม และมีหน่วยงานต่างประเทศเข้าร่วม ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) สำนักงานสอบสวนกลาง (FBI)  อินเตอร์โพล ได้มีการนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (GBC)  ซึ่งมีข้อกำหนดกับตำรวจและรัฐบาลกัมพูชา ในเรื่องความร่วมมือทั้ง 2 ประเทศ และได้จัดทำแผนปฏิบัติการ และหลังจากนี้ไม่เกิน 2 สัปดาห์ จะต้องมีการจัดตั้งกองกำลังเฉพาะกิจ เพื่อที่จะทำการกวาดล้างแกนนำหรือผู้ที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับสแกมเมอร์ทั้งหมด

นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของการแลกเปลี่ยนข้อมูลในด้านต่างๆ โดยเฉพาะการถูกหลอกลวงไปทำงานประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ว่าจะถูกหลอกหรือสมัครใจก็ตาม แล้วจะมีมาตรการในการคุ้มครองพยานในเรื่องนี้ ซึ่งแผนปฏิบัติการเป็นเรื่องสำคัญ เป็นเครื่องมือให้ทั้ง 2 ฝ่ายร่วมกันในการการปราบปรามแก๊งสแกมเมอร์ ที่ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และลดความเสียหายในส่วนทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย และชาวต่างชาติที่ถูกหลอก หรือสมัครใจก็ตาม และมีมาตรการในการคุ้มครองพยาน  ซึ่งแผนปฏิบัติการเป็นเรื่องที่สำคัญ ให้เป็นเครื่องมือที่ให้ทั้ง 2 ฝ่ายร่วมกันในการที่จะทำการปราบปรามสแกมเมอร์ให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น และลดความเสียหายในส่วนของทรัพย์สินกับประชาชนชาวไทยและต่างชาติที่ได้รับผลกระทบ มีการปกป้องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน