svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ข่าวสถานการณ์

แฉโกดังนรก! ขังเหยื่อบัญชีม้าหลายสิบชีวิต ใกล้ "บ้านหนองจาน"

แฉโกดังนรก! ขังเหยื่อบัญชีม้าหลายสิบชีวิต ใกล้ "บ้านหนองจาน" 200 เมตร เผยถูกช็อตไฟฟ้า บังคับสแกนหน้าเปิดบัญชี เชื่อปราบแก๊งสแกมเมอร์ไม่หมด เพราะมีคนไทยร่วมขบวนการ ยืนยันข่าวค้าอวัยวะและเรียกค่าไถ่มีอยู่จริง!

22 ตุลาคม 2568 เมื่อช่วงเช้ามืด กองกำลังบูรพา ฉก.อรัญประเทศ กองร้อยทหารพรานที่ 1202 เข้าควบคุมตัวคนไทยที่ข้ามไปเป็นบัญชีม้า กำลังลักลอบเข้าเมือง 10 ราย เป็นชาย 6 คน หญิง 4 คน อายุตั้งเเต่ 35 ปี จนถึง 74 ปี โดยทั้งหมดเป็นเเก๊งบัญชีม้า ที่อ้างว่าถูกหลอกให้ไปเปิดบัญชีฝั่งปอยเปต เเละพาตัวมาขังไว้ตรงบริเวณโกดังเเห่งหนึ่ง ในหมู่บ้านโจกเจย ต.โอเบยเจือน ซึ่งเป็นดินเเดนของประเทศไทย บริเวณหลักเขตเเดนที่ 46 ที่มีบ้านเรือนชาวกัมพูชาบุกรุกอยู่ 135 หลังคาเรือน ซึ่งจากเเผนที่จะเห็นได้ว่า อยู่ในกรอบเส้นสีฟ้า พื้นที่ของป่าไม้ ที่ทางประเทศไทยกำลังทวงคืน 

จากนั้นทหารพรานควบคุมตัว บัญชีมาทั้งหมดมาสอบประวัติ  ทราบว่า คนไทยกลุ่มนี้ออกนอกประเทศไปในช่วงเวลาที่ต่างกัน บางรายเพิ่งจะออกไปได้เเค่วัน บางรายนานกว่า 1 สัปดาห์ ทั้งหมดให้ข้อมูลกับทหารพรานว่าถูกกักขังอยู่ ทหารจึงทำการตรวจสอบพิกัดจาก GPS พบว่าอยู่ห่างจากเเนวลวดหนาม "บ้านหนองจาน"  เพียง 200 เมตร เพราะขณะอยู่ในโกดัง "ได้ยินเสียงลำโพง เสียงผี จากฝั่งไทย" ดังเข้ามาอย่าง 

แฉโกดังนรก! ขังเหยื่อบัญชีม้าหลายสิบชีวิต ใกล้ "บ้านหนองจาน"

ทหารพรานตรวจสอบใน GPS โกดังหลังคาสีฟ้า มีกำแพงปูนสีเทา อยู่ห่างจากวัดฝั่งกัมพูชาที่เป็นสีอิฐเพียงไม่กี่สิบเมตร เเต่ปัจจุบันมีการต่อเติมเพิ่ม ซึ่งขบวนการยืนยันว่าเป็นโกดังที่ถูกกักขัง

จากนั้นทั้งหมดถูกนำตัว ส่งไปที่สถานีตำรวจภูธรคลองลึก เพื่อทำการตรวจสอบประวัติเเต่ละคน เเละเสียค่าปรับการเดินทางเข้าเมืองผิดกฎหมาย

จากการตรวจสอบประวัติเเต่ละคน ไม่พบว่ามีหมายจับ เเต่ปรากฏว่า พบเคสไอดี หรือการถูกเเจ้งความ เรื่องการฉ้อโกง เป็นจำนวนมาก มีรายหนึ่งถูกเเจ้งความ มากถึง 49 ครั้ง คือ น.ส.ศศิธร รองลงมา น.ส.ชลดา 28 ครั้ง  เเละนาย อิสรินทร์  21 ครั้ง

หนุ่มบัญชีม้า เผย ถูกไฟฟ้าช็อต บังคับสเเกนหน้า

นายเเดง (นามสมมติ) เป็นคนที่ถูกทำร้ายร่างกาย ด้วยเครื่องช็อตไฟฟ้า เพราะตอนเเรกไม่ยินยอมสแกนใบหน้า โดยนายเเดง เล่าว่า หากใครไม่ทำตามคำสั่ง จะถูกเครื่องช็อตไฟฟ้าทำโทษ ไม่มีใครหนีออกจากพื้นที่ได้ เนื่องจากกำแพงสูง และมีการ์ดคุมถึง 4 คน

นายเเดง เปิดรอยแผลถูกกระบองไฟฟ้าช็อตบริเวณหน้าอก ให้ทีมข่าวดู พร้อมเปิดใจทั้งน้ำตา ว่าไม่อยากให้ลูก ให้เมียรู้ ยอมรับว่า เข็ดแล้วกับการตัดสินใจเดินทางไปทำงานกัมพูชา ตนเองมีหน้าที่รวมถึงค่าใช้จ่ายที่ต้องดูแล เนื่องจากพ่อและแม่เป็นผู้สูงอายุและมีโรคประจำตัว จำเป็นต้องใช้เงิน และมองว่าการข้ามฝั่งไปทำงานเพียงไม่กี่วันกับค่าตอบแทนที่ค่อนข้างสูง จึงทำให้ตัดสินใจเดินทางไป 

ตนเองถูกบังคับให้เปิดบัญชีออนไลน์ และสแกนใบหน้า ขณะนั้นถูกผู้คุมจำนวน 3 - 4 คน ล็อกตัว และทำร้ายร่างกาย ซึ่งนอกเหนือจากตนเอง ก็มีคนอื่นที่ถูกทำร้ายร่างกายเช่นเดียวกัน 

นายเเดง เล่าอีกว่า สาเหตุที่ออกมาได้ และถูกส่งตัวกลับเนื่องจากบอกว่า มีโรคประจำตัว แม้จะได้เห็นข่าวอยู่เรื่อยๆ ว่าคนไทยถูกหลอกไปทำงานที่กัมพูชา แต่ด้วยค่าตอบแทนสูง ตนเองจึงตัดสินใจไป เพียงเพราะอยากหาเงินมาดูแลพ่อและแม่ที่ป่วยและพิการ ตนเองถือว่าโชคดีที่ยังได้กลับประเทศไทย และอยากเตือนคนไทยคนอื่นที่อาจจะกำลังหลงเชื่อ ทุกคนอาจไม่ได้โชคดีเหมือนที่ตนเองได้กลับมา

แฉโกดังนรก! ขังเหยื่อบัญชีม้าหลายสิบชีวิต ใกล้ "บ้านหนองจาน"

ปราบสแกมเมอร์ไม่หมด เพราะคนไทยร่วมขบวนการเพียบ!!

บัญชีม้าอีกราย อายุ 47 ปี เล่าว่า ตนเอง ถูกเพื่อนชวนผ่านเฟซบุ๊ก เป็นการโพสต์หางาน อ้างว่าเป็นงานสบาย ได้รับค่าตอบแทนสูง หลังจากนั้นมีการพูดคุยกับแอดมิน บอกรายละเอียดงานเพียงว่า ให้ตนเองมาทำงานเป็นการ์ดรักษาความปลอดภัย ทำงานเเค่ 15วัน ก็จะได้รับเงินค่าตอบเเทน  2 - 3 หมื่นบาท โดยให้ข้ามฝั่งไปทำงานอยู่ที่ประเทศกัมพูชา ขณะนั้นตนเองไม่ได้รู้สึกเเปลกใจอะไร 

หลังจากถึง "กัมพูชา" กลับถูกยึดโทรศัพท์มือถือไว้ทั้งหมด ถูกบังคับเปิดบัญชีธนาคารรวมทั้งหมด 4 บัญชี  เปิดบัญชีออนไลน์ทั้งหมด หลังจากนั้นก็จะให้ตนเองสแกนใบหน้า เพื่อรับและโอนเงิน หากขัดขืน ก็จะมีผู้ดูแลซึ่งเป็นชาวกัมพูชา คอยถือกระบองไฟฟ้า ประกบอยู่ตลอด 

ตนเองถูกส่งตัวไปกักขังไว้ในโกดัง ซึ่งด้านในมีคนอยู่มากกว่า 70 คน โดยมีผู้คุมเป็นคนไทย บางครั้งก็มีการทำร้ายร่างกายเกิดขึ้น เช่น การใช้กระบองไฟฟ้าช็อตตามร่างกาย ซึ่งโกดังที่ถูกกักขังตัวอยู่ในนั้น ก็อยู่ใกล้เคียงกับ "บ้านหนองจาน" วันที่รถเครื่องขยายเสียง เปิดเสียงอยู่บ้านหนองจาน ก็ได้ยินเสียงผี เสียงสารคดี อย่างชัดเจน

ปัจจุบันภายในโกดังหลังที่ตนเองถูกกักตัว ก็ยังมีคนไทยถูกกักขังอยู่ในโกดังอีกเป็นจำนวนมาก ส่วนที่ตนเองและกลุ่มคนไทยอีก 9 คน ได้กลับมาพร้อมกับชุดนี้ เนื่องจากว่าทุกคนมีโรคประจำตัว ตนเองต้องรับยารักษาตัว HIV บางคนเป็นโรคซึมเศร้า อีกทั้งยังมีผู้สูงอายุ ทางฝั่งกัมพูชาคงมองว่าทำประโยชน์อะไรไม่ได้มากมายนัก 

ยอมรับว่า ที่ตัดสินใจไปทำงานที่กัมพูชา ก็เพราะอยากมีรายได้ เพราะวิธีการที่ฝั่งนั้นใช้คือใช้ตัวเงินที่มากมาหลอกล่อ แต่เมื่อไปทำงานจริง จากที่บอกว่าจะได้ 20,000 บาท ตนเองกลับได้มาเพียงแค่ 2,000 บาท เท่านั้น  ยอมรับว่าเข็ดแล้ว อยากเตือนคนที่กำลังจะถูกหลอกเหมือนกับตนเอง ว่าอย่าไปเด็ดขาด! ตอนที่เดินทางออกมามีคนเดินนำทางพามาส่ง พอส่งเสร็จเขาบอกว่าโชคดีนะ แต่เมื่อออกมาก็โดนทหารพรานจับเลย 
 
ส่วนที่สังคมไม่เชื่อว่าคนที่ไปร่วมขบวนการบัญชีม้า ไม่ได้ถูกหลอก ก็ยอมรับว่าจริง เพราะคนที่เต็มใจไปก็มี แต่ว่าเต็มใจไปทำงาน ไม่ได้เต็มใจไปทำบัญชีม้า ได้เงินจริง ๆ ครั้งนี้แค่ 2,000 กลับมาเจอค่าปรับ 1,600 บาท ก็ต้องหยิบยืมที่บ้าน 

เมื่อถามว่า เวลานี้ประเทศไทยจริงจังในการปราบปราม "สเเกมเมอร์ คอลเซ็นเตอร์" คิดว่าจะปราบหมดไหม เหยื่อบัญชีม้า บอกว่าไม่หมดหรอก ในเมื่อคนร่วมขบวนการ และหัวขบวนการยังเป็นคนไทยที่ไปร่วมกับคนจีน และตอนนี้มันก็ฉลาดขึ้น

 

เรียกค่าไถ่ ขายอวัยมีจริง! 4 คนไทยหายสาบสูญ

นายสมชาย เล่าว่า ตอนนี้คนที่ถูกกักขังก็ยังรอความช่วยเหลือ ใครๆก็อยากจะกลับ แต่พอเป็นข่าว หลังจากนี้เชื่อว่ามันจะต้องขนย้ายคนที่เหลือหนีออกไป และก็ยังไม่รู้ชะตากรรม ถ้าเป็นคนของส่วนกลางทำยอดไม่ได้ เตรียมตัวเลย จะต้องโดนไฟฟ้าจี้ 

ส่วนกรณีชาวเกาหลีใต้ ที่หายตัวอยู่ในประเทศกัมพูชานั้น ยืนยันว่ามีจริง ถูกนำตัวไปเรียกค่าไถ่ บางคนก็หายสาบสูญไปแบบที่อวัยวะอยู่ไม่ครบ 32 บางคนโดนทรมานร่างกาย ถอดเล็บ เพื่อเรียกค่าไถ่ เเละก่อนหน้านี้ คนที่อยู่ข้างในเล่าว่า คนไทยหายไป 4 คน หลังจากถูกบังคับถอดเล็บ เเละนำร่างขึ้นรถกะบะไปทิ้ง 

"เกาหลีที่ถูกฆ่าตายก็ติดตามอยู่ รู้ว่าขบวนการนี้มันมีจริง จับเรียกค่าไถ่ดึงเล็บ บางครั้งก็ไม่ถึงตายเอาอวัยวะไปขาย เพราะคนข้างในเล่าให้ฟัง และก่อนหน้านี้เขาก็เล่าให้ฟังว่า ได้ทำร้ายคนไทย 4 คนจนถึงตาย ถอดเล็บ ถอดอวัยวะ และก็เอาขึ้นใส่รถกระบะเอาไปทิ้ง ตนเองถึงได้กลัว และเข็ดไปตลอดชีวิต

 

ยายวัย 74 เข็ดจนตาย หลังถูกหลอกไปเป็นบัญชีม้า

ส่วนบัญชีม้าอีกราย คือ หญิงสูงอายุอายุ 74 ปี นางน้อย (นามสมมติ) บ้านอยู่ภาคเหนือ ยอมรับว่า ตนเองถูกหลอกให้มาทำงานสระเเก้ว เเละข้ามไปทำงานที่กัมพูชาไม่กี่วัน ก็จะได้รับค่าตอบแทนสูง 1 - 2 หมื่นบาท ด้วยความที่เป็นผู้สูงอายุจำเป็นต้องใช้เงิน จึงหลงเชื่อและตัดสินใจเดินทางมาที่สระเเก้ว เเต่กลับถูกพาไปที่จังหวัดจันทบุรี เพื่อเข้าทางช่องผักกาด พอไปถึงก็พานั่งรถไปที่โกดัง ถูกบังคับให้เปิดบัญชี โดยเป็นการเปิดบัญชีออนไลน์เช่นเดียวกัน 

สแกนหน้า 3-4 ครั้ง เข้ามาในออมสิน ไม่รู้ว่าเท่าไหร่ แต่สแกน 2 บัญชี หัวหน้าขบวนการเป็นคนจีน คนไทยที่เป็นระดับหัวหน้าด้วย ต่อไปนี้ให้ 100,000 หรือ200,000 ก็ไม่ไปแล้ว สาเหตุที่ไปตอนแรก เพราะบอกว่ามาทำงานที่สระแก้ว และเราเคยมาช้อปปิ้งของแบรนด์เนมก็เลยนั่งรถทัวร์มา ตอนนี้ยังเหลืออีกกว่า 20 คน  ที่ผ่านมาได้ยินเสียง ก็รู้ว่าเป็นเสียงที่ "กันจอมพลัง" เปิด เพราะติดตามข่าว เข็ดหลาบจำไปจนตาย 

"อยากให้สิ่งที่ตนเองเจอเป็นกรณีศึกษาสำหรับผู้สูงอายุ อย่าหลงเชื่ออะไรง่ายๆ ไปแล้วก็รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก กว่าจะกลับมาได้แทบเอาชีวิตไม่รอด บางคนอาจไม่ได้โชคดีเหมือนตนเองที่ได้กลับมา เข็ดจนวันตาย ได้เงินเยอะเเค่ไหน บัญชีละ 1-2 เเสน ก็ไม่ไป" 


ตร.เผย "วิศวกรไทย" ไปวางระบบให้คอลเซ็นเตอร์

ขณะที่ ดาบตำรวจ กิติกูล ดงดินอ่อน ป้องกันเเละปราบปราม สภ.คลองลึก ได้ให้คำเเนะนำ เเละความรู้ กับเหยื่อบัญชีม้า ทั้ง 10 คน ก่อนจะส่งตัวกลับ บอกว่าที่ผ่านมา มีข่าวสารปรากฏออกมาทุกวัน จึงไม่เขื่อว่าทุกคนถูกหลอก เเละอย่าหลงเชื่อตกไปเป็นขบวนการอีก 

ดาบตำรวจ กิติกูล ยังให้ข้อมูลว่า เจอคนไทยที่ไปเป็นบัญชีม้า อ้างว่าถูกหลอกไปเปิดบัญชี เเต่พอไปตรวจสอบพบว่า เป็นถึงระดับวิศวกรคอมพิวเตอร์ มีความรู้ความสามารถ เเละเป็นถึงผู้ไปวางระบบการฉ้อโกงออนไลน์ให้กับขบวนการในฝั่งปอยเปต