“อัยการดาว” เริ่มถอดใจ ปมยื่น ผบ.ตร.สอบ ตร.ไซเบอร์ ส่อช่วยแก๊งคอล

30 มิถุนายน 2568 น.ส.สุภาภรณ์ นิปวณิชย์ อัยการผู้เชี่ยวชาญสำนักงานคดียาเสพติด หรือ "อัยการดาว" เปิดเผยถึงเหตุผลที่ยื่นร้อง 18 ประเด็นให้ ผบ.ตร.ตรวจสอบ ตร.ไซเบอร์ ส่อช่วยกลุ่มรับเงินโรแมนซ์สแกม "แก๊งคอล" ที่หลอกเอาเงินเเม่ตัวเอง 7.6 เเสนบาท ว่า คดีเเจ้งความตั้งเเต่ พ.ค.จนตอนนี้สิ้นเดือน มิ.ย.เเล้ว ทราบว่ากลุ่มของ มิจฉาชีพที่ใช้ชื่อ "แฮร์รี่" ให้คุณเเม่โอนเงินเข้าบัญชี 2 คน ก็คือชื่อคนชื่อ “อัญชลี” กับ “ธนพล” ซึ่งเป็น2 บัญชีที่คุณแม่โอนไป 11 ครั้ง

ตอนแรกก็ต้องยอมรับว่า ตำรวจไซเบอร์คือโอเคเลย เเอคชั่นมีการอายัดบัญชีที่รับเงินต่อไปจากกลุ่มนี้ ซึ่งตามหลักคนที่รับเงินจากความผิดฉ้อโกง อย่างน้อยก็จะเข้าข่ายรับของโจร เพราะเป็นการรับเอาทรัพย์ของผู้เสียหายที่ได้จากการกระทําความผิดฐานฉ้อโกงฯ หรือถ้ามีการโอนต่อๆ กันอีกมันก็เป็นความผิดฐานฟอกเงินได้ ตามปกติทั่วไปที่ทุกคนรู้ ซึ่งตํารวจก็รู้ตัวหมดว่า เงินถูกโอนต่อไปที่ใคร พอทราบเราก็ดีใจ แต่พอไปได้สักพักเรื่องก็นิ่ง ที่ทราบส่วนหนึ่งเงินของคุณแม่ ถูกโอนจากบัญชีผู้ต้องหา ไปที่ประเทศกัมพูชา ซึ่งเราก็เข้าใจว่า ถ้าโอนที่กัมพูชาคงตามยากก็ทำใจ เเต่มันมีอีกเส้นที่โอนไปยังคนไทย เป็นคนรับผลประโยชน์ จึงคิดว่าเป็นคดีง่ายไม่มีอะไรซับซ้อน


 

อัยการดาว กล่าวว่า เเต่ตอนหลังตํารวจก็มาแจ้งว่า คนที่รับเงินคุณแม่เราไปมารายงานตัวหมด มีคนติดต่อจะเอาเงินคืน คนรับเงินเขาไม่รู้ว่าเป็นเงินแม่เรา จะประสานขอนัดพบกัน เราก็คิดไปต่อว่า คืนเงินแล้วอย่างไร เรารู้กฎหมายก็เลยเเจ้งปฏิเสธการนัดพบ เพราะเรากลัวว่า พอเรารับเงินคืน เราก็จะห่วงการทํางานของตํารวจ เพราะอยากให้ความจริงปรากฏ ถึงเหตุใดที่รับโอนเงินก้อนนี้ไป ให้มีการสืบสวนสอบสวนให้มันชัดเจน
 

“เราไม่ได้ซีเรียสเรื่องเงินมาก เท่าอยากให้ความจริงปรากฏว่า คุณรับเงินกลุ่มเเฮรี่ไปอย่างไร รู้จักกันหรือมีนิติสัมพันธ์อะไรกัน เราก็เปิดโอกาสให้ตํารวจสืบสวนสอบสวน เพื่อให้ได้ตัวผู้กระทําความผิดเต็มที่ ไม่เคยกดดันเจ้าหน้าที่ให้เวลา เเต่ปรากฏว่าทุกอย่างก็เงียบ พยายามติดตามเรื่องไปหลายครั้งมาก ทุกครั้งที่ไปเรารู้สึกแปลกใจ เพราะจะเจอคำอธิบายถึงสาเหตุยังไม่ดําเนินคดี  ถึงขนาดอ้างว่าเคยดำเนินคดีคดีลักษณะเเบบนี้เเล้วศาลยกฟ้อง เราก็งงว่าศาลยกฟ้องแล้วทำไม” 
 

อัยการดาว กล่าวว่า คุณก็ต้องแสวงหาพยานหลักฐานเพื่อสืบเพิ่ม เเละศาลที่ยกฟ้องกรณีเเบบนี้ใช่ศาลฎีกาหรือไม่  หรือเเค่ศาลชั้นต้น ไม่ใช่ว่าเเค่ศาลเคยยกฟ้องแล้วก็จบ คือเราอยากให้เขาทบทวน เคยได้ยินประโยคว่าทบทวนยุทธวิธี  แก้ไขสิ่งผิดพลาดหรือไม่  แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาก็คือตำรวจไซเบอร์มานั่งอธิบายว่า คนรับเงินต่อเป็นบริษัท แต่มีบริษัทที่ลาว เอาบัญชีไปรับโอนเงินจากคนลาวเข้ามา เราคำถามว่า หากบริษัทรับเงิน เเล้วไม่ต้องทําผิด ไม่ต้องรับโทษหรือ ยิ่งคุณรวยแล้วคุณให้บัญชีเขาไปทําไม ฟังแล้วมันย้อนแย้ง

อัยการดาว กล่าวว่า เรื่องนี้ขอให้ตำรวจไปสอบว่า ถ้าบริษัทที่รับโอนเงินจากการกระทำผิด มีเงินทุนหมุนเวียนจำนวนมากหลายร้อยล้าน เงินทุนคุณมาจากไหน กําไรเท่าไหร่ มันเป็นหลักง่ายๆ ที่ตํารวจทุกคนควรจะรู้ แต่ก็ไม่เข้าใจมาตรฐานหลักทำงานของตร.ไซเบอร์  อยากให้รู้ว่าเราเป็นผู้เสียหายนะ เข้าไปในฐานะประชาชน ทุกคนอาจจะมองว่า เราเป็นอัยการ เเต่ที่ไปติดตามคดีคือไปอย่างประชาชน ไปแบบแทบจะขอร้อง แล้วมันเกิดอะไรขึ้น
 

“ตอนนี้คุณแม่รู้สึกแย่มาก รู้สึกผิดและโทษตัวเองจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คุณแม่พูดกับเราว่า ดาว แม่สู้ตาย รู้หรือไม่ว่าคนฆ่าตัวตายจากเหตุการณ์เเบบนี้ไปกี่คนเเล้ว แม่พยายามอยู่ให้ได้  ถ้าเเม่เศร้ามากเเม่ก็จะล้ม ลูกก็จะลำบาก เเม่โง่เอง ตอนนี้คุณเเม่โทษตัวเอง เเล้วก็ร้องให้ สภาพจิตใจตอนนี้เเย่กว่าวันที่เกิดเรื่องอีกคุณเเม่บอกว่า ดาว คนเเก่มันไม่มีทางไปนะลูก ทำไมไม่ช่วยคนไทยด้วยกัน“ อัยการดาวระบุ
 

อัยการดาว ย้ำว่า คุณเเม่คิดตรงกับเราว่าไม่ใช่เเค่เรื่องเงิน แม่แค่อยากได้ความเป็นธรรม ทำไม่ตำรวจไม่สืบสวนให้มันชัดเจนประโยคที่เราเสียใจที่สุดคือ “เราเป็นผู้เสียหายอยากให้ความจริงกระจ่าง  เราไม่ได้หวังแต่อยากจะได้เงินคืน   ถ้าเงินนั้นไม่ใช่เงินปกติ แต่เป็นเงินที่มาจากการกระทําความผิด เราไม่อยากได้ เรายังไม่ได้ว่า คนรับเงินต่อเป็นผู้ร้าย แต่ถ้ามาแตะเส้นเงินซึ่งเป็นเส้นเงินที่มีปัญหา หากเอาเส้นเงินอันนี้มาจ่ายเรา ก็จะกลายเป็นการเอาเงินจากการกระทําความผิด เอาเงินของผู้เสียหายคนอื่นมาจ่ายเรา เราไม่ได้อยากได้เงินแบบนี้”
 

เเต่สุดท้ายถ้าคุณเข้าสู่กระบวนการเต็มที่ ตามที่เราขอให้ร้องไป ปปง.ก็จะตรวจสอบทั้งบัญชี ดูความผิดปกติ สุดท้ายมันก็จะมีกระบวนการยื่นคําร้องมันอาจจะช้าหน่อย เเต่มันให้คุณได้พิสูจน์ คุณต้องตอบได้ว่าคุณขาย ปุ๋ย ขายดิบดี แล้วคุณขายใคร ใครเป็นลูกค้าคุณบ้าง เรื่องที่ ปปง.ถ้าคุณตอบไม่ได้ทุกอย่างมันก็จะพิสูจน์ในกระบวนการชั้นศาล ก็สู้ในศาลเอา แต่ถ้าคุณพิสูจน์ไม่ได้เงินนั้นก็จะคืนกลับสู่เราในฐานะผู้เสียหายก็ไปขอรับเงินคืนตามกฎหมาย
 

เมื่อถามถึงบริษัทขายปุ๋ยที่จะมีการติดต่อขอคืนเงิน อัยการดาวตอบว่า คือเคยมีการจะนัดพบกัน แต่ว่าเราขอยกเลิก จําได้ว่าตอนนั้น ทางตํารวจประสานมาว่าเขาจะขอเข้ามาเจอ เขามาจากบุรีรัมย์มาไกล ต้องนัดล่วงหน้าตอนเเรกเราก็โอเค แต่พอจะไปเจอก็นึกขึ้นได้ว่า ถ้าเราไปรับเงินเขา การดําเนินคดีของตํารวจจะเป็นอย่างไร เเต่หากยังไม่รับ การสอบสวนมันก็จะดีกว่า กระบวนการมันเคลียร์ก็เลยตัดสินใจยกเลิก คือในความคิดของเรา อะไรที่มันยังไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ อยากให้ดําเนินการให้ถูกต้องก่อนไม่ใช่คํานึงถึงแต่เรื่องเงินอย่างเดียว เราไม่ได้ว่าคิดเเค่รับเงินแล้วมันจบ ถ้าสมมติถ้าเรารับเงินแล้ว เขาเป็นผู้กระทําความผิด เเล้วกลายเป็นจะไม่ดําเนินคดีหรือไม่ เราอยากให้กระบวนการมันสิ้นสุด บางอย่างเราก็ยังไม่อยากพูดมาก ที่ตัดสินใจต้องพูดเพราะเรารู้ว่าถ้าเราปล่อยเวลาให้เนิ่นช้าไป พยานหลักฐานมันจะค่อยๆหาย

คดีนี้คนที่มีเส้นเงินทุกคน  คงรู้ และติดต่อหน้ก็ยังงงว่า คุณไปบอกเขาหรือว่า เงินผู้เสียหายจากการกระทําความผิดฉ้อโกงเข้าบัญชีคุณ แล้วเขาก็โดนฟรีสบัญชีเขาเลยประสานมา ถ้าถามว่าถ้าเขาเป็นผู้กระทําความผิด พยานหลักฐานจะไม่ถูกทําลายไปแล้วหรือไม่ อย่างบางคนก็ลบมือถือข้อมูลหรือก็เอาออกไปไว้ที่อื่น เเต่ตอนนี้ที่ตำรวจไซเบอร์สอบมาคือ ทุกคนบริสุทธิ์หมดเลย ทุกคนเป็นคนดี  ก็ตั้งข้อสังเกตุแล้วพยานหลักฐานมีหรือไม่ คุณมีมาตรฐาน คุณมีดุลพินิจแบบไหน ดุลพินิจต้องชอบด้วยกฎหมาย การจะดำเนินคดีหรือไม่ดำเนินคดีใคร ต้องมีมาตรฐานและอยู่ในกรอบของกฎหมาย เรื่องนี้ ผบ.ตร. ได้ทราบปัญหานี้หรือไม่ หรือท่านทราบและเป็นเรื่องปกติ อยากให้ ผบ.ตร.มากำกับดูเเล อาชญากรรมออนไลน์เพราะเป็นปัญหาระดับประเทศ อยากได้คำตอบให้มีมาตรฐานที่ยอมรับได้

เพราะการทําคดี ตามหลักการตำรวจต้องเดินชนพยานหลักฐาน คุณต้องเดินไปหาคุณต้องไปสอบถามเงินเข้าเงินออก บริษัทนําเข้าส่งออก เอกสารการเสียภาษี  กี่ครั้งขายไปอย่สงไร  ต้องเข้าไปตรวจสอบสืบสวนต้องเข้าไปชน แต่เรื่องนี้ได้ทำหรือไม่ หรือว่ารับแต่เอกสารของอีกฝ่ายหนึ่งมา คือเราก็ไม่เข้าใจวิธีการทํางานของตำรวจไซเบอร์ถึงได้ร้องเรียนไปตามประเด็น

เมื่อถามว่า การร้องเรียนเช่นนี้จะเป็นความขัดแย้งระหว่างองค์กรหรือไม่ อัยการดาว ตอบว่า ตนอยู่ในระบบราชการเช่นเดียวกับทุกคน และเข้าใจดีว่าระบบต้องมีวินัยและหลักการ แต่ในกรณีนี้ดิฉันเป็นตัวแทนผู้เสียหาย และผู้รับมอบอำนาจจากแม่ที่ได้รับความเดือดร้อนโดยตรง การที่เราร้องเรียนถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญและที่สำคัญคือ เรามีข้อมูล ข้อกฎหมาย และหลักฐานรองรับ ไม่ได้ร้องเรียนโดยไร้เหตุผล เชื่อว่าหากทุกฝ่ายจริงใจ ตรวจสอบตามขั้นตอน จะไม่เกิดความขัดแย้ง แต่จะทำให้องค์กรมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น
 

การตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐเป็นเรื่องปกติ หากไม่มีการตรวจสอบ แล้วเราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าประชาชนได้รับความยุติธรรม
 

หลังจากยื่นหนังสือถึง ผบ.ตร.แล้วก็จะมีการดำเนินการต่อเนื่อง ทุกอย่างมีช่วงเวลาที่ผ่านมาเราให้เวลา หลังจากนี้ก็จะมีกระบวนการในส่วนของเรา เราวางไว้แล้วว่า จะต้องทำอย่างไรบ้าง เราทราบแล้วว่า มันเกิดอะไรขึ้นในการทำงานของพนักงานสอบสวน ก็อยากให้หน่วยงานอื่นเข้ามาตรวจสอบ 
 

เราก็ทำได้เท่านี้  เราไม่ได้ทำเพียงเพื่อคุณแม่ของเรา แต่ทำเพื่อผู้เสียหายอีกมากที่ไม่มีความรู้ทางกฎหมาย ไม่มีโอกาสหรือพลังพอจะเรียกร้องให้กระบวนการยุติธรรมทำงานอย่างเต็มที่  แต่ ตร.บอกว่า คดีรวบรวมหลักฐานยาก เราเองก็ถอดใจกับการทำงานของ ตร.คิดว่าประเทศชาติไม่ใช่ของเราคนเดียว ซึ่งเราคิดว่าส่วนตัวก็เต็มที่แล้ว หากวันนี้เรานิ่งเฉย พรุ่งนี้อาชญากรรมจะเฟื่องฟูบนหยาดน้ำตาของคนไทยอีกกี่คน