svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

เสรีพิศุทธ์ แจ้งจับ "ฮุนเซน" สั่งสังหารฝ่ายตรงข้ามที่อยู่ในไทย

'เสรีพิศุทธ์' แจ้งจับ 'ฮุนเซน' ปมคลิปเสียงสั่งสังหารนักเคลื่อนไหวทางการเมืองเห็นต่าง กลุ่มต่อต้านรัฐบาลกัมพูชา ลี้ภัยในไทย

23 มิถุนายน 2568 ที่บริเวณโถง ชั้น1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เวลา 10.00 น. พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เดินทางเข้าพบ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ สมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา (อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา) ความผิดต่อกฎหมายไทย

จากกรณี "สำนักข่าวอัลจาซีรา" มีการเผยแพร่คลิปเสียง ที่ระบุว่าเป็นเสียงของ  "ฮุนเซน" สั่งการให้สังหารนักเคลื่อนไหวทางการเมืองที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลกัมพูชา ซึ่งลี้ภัย หรือพำนักอยู่ในประเทศไทย ในส่วนนี้มีการเชื่อมโยงไปยังคดีการลอบสังหาร นายลิม กิมยา อดีต สส.กัมพูชา ที่กรุงเทพฯ ประเทศไทย เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2568 

 

เสรีพิศุทธ์ แจ้งจับ "ฮุนเซน" สั่งสังหารฝ่ายตรงข้ามที่อยู่ในไทย

 

ต่อมาทางการรัฐบาลกัมพูชา ปฏิเสธคลิปเสียงดังกล่าว โดยระบุว่าเป็นคลิปเสียงที่ทำโดยเทคโนโลยี AI แต่จากการยืนยันโดยผู้เชี่ยวชาญทางเทคโนโลยี บอกว่าคลิปเสียงดังกล่าวถูกยืนยันว่าเป็นคลิปเสียงสมเด็จฮุนเซนจริง 

และในวันที่ 22 สิงหาคม 2566 นายพร พันนา นักเคลื่อนไหวทางการเมืองฝั่งตรงข้ามสมเด็จฮุนเซน ที่ลี้ภัยอยู่ในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2565 ถูกชายแปลกหน้า 3 คน ที่พูดภาษากัมพูชา รุมทุบตีที่จังหวัดระยอง ได้รับบาดเจ็บที่หน้าและหน้าอก

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏเช่นนี้ ตนในฐานะอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ทราบกฎหมายว่าการกระทำดังกล่าว แม้จะเป็นการสั่งมาจากนอกราชอาณาจักร มาดำเนินการในประเทศไทย ก็ถือว่าเป็นความผิดในกฎหมายไทยด้วย วันนี้ (23มิ.ย.2568) จึงต้องร้องทุกข์ให้ดำเนินคดี "สมเด็จฮุนเซน"

โดยเอกสารที่ตนนำมายื่นให้ประกอบด้วยข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง อาทิ ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 85 ที่บัญญัติว่าผู้ใดโฆษณา หรือประกาศแก่บุคคลทั่วไปให้กระทำความผิด และความผิดนั้นมีอัตราโทษไม่ต่ำกว่า 6 เดือน ก็จะต้องรับโทษในความผิดบัญญัตินั้นเสมือนเป็นตัวการ

เสรีพิศุทธ์ แจ้งจับ "ฮุนเซน" สั่งสังหารฝ่ายตรงข้ามที่อยู่ในไทย

ตนเองเป็นอดีตตำรวจไม่ได้มีอำนาจตามกฎหมายที่จะไปเรียกใครมาสอบสวน จึงจำเป็นต้องให้ลูกน้องเก่า ซึ่งมีอำนาจตามกฎหมายไปดำเนินการติดตามจับกุม วันนี้ตนมาเสนอแนะ สิ่งที่เกิดขึ้นและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ตำรวจจะสอบสวนฝ่ายเดียวไม่ได้ต้องให้อัยการสูงสุดมาเป็นพนักงานสอบสวนร่วมด้วย

เมื่อถามย้ำว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สามารถดำเนินการได้จริงหรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยืนยันว่าสามารถทำได้ ถ้าเจ้าหน้าที่สามารถรวบรวมพยานหลักฐาน ก็สามารถนำไปสู่หมายจับได้เช่นกัน ขอให้อย่าดูถูกฝีมือของลูกน้องเก่าตน เพราะสมัยนี้มีเครื่องมือเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า

กรณีนายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) กรณีคลิปเสียงการพูดคุย ระหว่าง น.ส.แพทองธาร  กับ สมเด็จฮุน เซน ตนมองว่าเป็นการแก้เกี้ยว ไม่ได้เป็นการดำเนินคดีสมเด็จฮุนเซนจริง ในส่วนข้อความการแจ้งความตนกำลังหารายละเอียดเพิ่มเติม ทั้งนี้ การแจ้งความกับตำรวจไซเบอร์ยืนยันไม่มีความหมาย 

เสรีพิศุทธ์ แจ้งจับ "ฮุนเซน" สั่งสังหารฝ่ายตรงข้ามที่อยู่ในไทย

ส่วนข้อมูลที่นำมาร้องทุกข์กล่าวโทษวันนี้จะเป็นประเด็นนำไปปราศรัยสำหรับกลุ่มผู้ชุมนุมที่นัดหมายวันที่ 28 มิถุนายนนี้ หรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ระบุว่า ไม่มีความเกี่ยวข้องกัน เนื่องจากคดีดังกล่าว เป็นคดีความระดับประเทศ ที่ต้องมีอัยการสูงสุดเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน ส่วนกรอบระยะเวลาตนเองไม่ได้กดดันเจ้าหน้าที่ เพราะมีหลายขั้นตอนที่ต้องดำเนินการ แต่หากตำรวจไม่ทำก็จะเข้าข่ายความผิดมาตรา 157 ซึ่งตนเองจะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด