
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 18 มิ.ย.ห้องประชุม 120 ปี สำนักงานอัยการสูงสุด อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ถนนแจ้งวัฒนะสถาบันนิติวัชร์ สำนักงานอัยการสูงสุด จัดสัมมนาวิชาการเรื่อง รู้ว่าหลอก จะได้ไม่โดน "คอลเซ็นเตอร์" หลอก
โดยมี พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รองผบช.น., "สารวัตรแจ๊ะ" พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สว.กก.3 บก.สส.บช.น. และนายณัฐพล กิตติตระกูล รองอัยการจังหวัดนครปฐม สำนักงานอัยการจังหวัดนครปฐม
ร่วมถ่ายทอดข้อมูลจากประสบการณ์ทำงานจริงในคดีที่เกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รวมทั้งผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อที่ได้มาเปิดเผยกลโกงของแก๊งคอลเซ็นเตอร์
โดยมีนางสาวกนกรัตน์ ธรรมพนิชวัฒน์ หรืออัยการเบอร์ดี้ เป็นผู้ดำเนินรายการ และถ่ายทอดผ่านเฟซบุ๊กของสถาบันนิติวัชร์ด้วย
นายบัญชา เขียวต่าย เลขาธิการสถาบันนิติวัชร์ สำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า จากสถิติที่ผ่านมาพบว่าในประเทศไทยมีผู้เสียหายจากอาชญากรรมการหลอกลวงของแก๊งคอลเซ็นเตอร์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นเหตุให้ประชาชนสูญเสียทรัพย์สินและก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจเป็นมูลค่ามหาศาล แม้จะมีความพยายามในการเผยแพร่ความรู้ นำเสนอข่าว และเตือนภัยเกี่ยวกับ “อาชญากรรมแก๊งคอลเซ็นเตอร์” อย่างแพร่หลาย แต่ประชาชนส่วนหนึ่งก็ยังขาดความรู้ ความเข้าใจ และทักษะในการป้องกันตนเอง โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง เช่น เด็กเยาวชน ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับเทคโนโลยี ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของกลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าว
สถาบันนิติวัชร์ สำนักงานอัยการสูงสุด ซึ่งจัดตั้งขึ้นมาโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนากระบวนการยุติธรรมของประเทศไทยในภาพรวมบนหลักการและแนวคิดที่สอดคล้องกับมาตรฐานสากล ไม่จำกัดแต่เฉพาะในส่วนของสำนักงานอัยการสูงสุด แต่มุ่งสร้างองค์ความรู้ ความเชื่อมโยง และประสานความร่วมมือของแต่ละองค์กรในกระบวนการยุติธรรมไทยเพื่อให้สามารถอำนวยความยุติธรรมแก่ประชาชนได้อย่างแท้จริง ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของปัญหาดังกล่าวจึงได้จัดโครงการสัมมนาวิชาการ เรื่อง “รู้ว่าหลอก จะได้ไม่โดน ‘คอลเซ็นเตอร์’ หลอก” ขึ้น เพื่อสร้างความตระหนักรู้และภูมิคุ้มกันให้กับประชาชน
พล.ต.ต. ธีรเดช รอง ผบช.น.กล่าวว่า ปัจจุบันแก๊งคอลเซ็นเตอร์มีการเปลี่ยนรูปแบบจากเดิมที่เคยหลอกส่งพัสดุปัจจุบันนี้มีการใช้รีโมทบังคับดูดเงินจากแอพพลิเคชั่น นำบัญชีม้าไปอยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้าน นำชาวจีนมาเปิดบัญชีในเมืองไทย วิวัฒนาการของแก๊งนี้เป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ การแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์มีเพียงกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เหมือนต้องทำงานไล่ตามหลัง แม้กระทั่งคุณแม่ตนยังโดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรหา แต่ได้มีการแนะนำจากแม่ไว้ก่อนหากจะให้เงินใครต้องให้กับมือ จึงไม่มีการโอนเงิน แม่จึงเสนอให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์มารับเงินกับแม่เพราะฉะนั้นแม่จึงไม่มีการโดนหลอก ทุกวันนี้มีผู้เสียหายถูกหลอกไม่น้อยกว่า 900 คดีต่อวัน ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมีกำลังพลเท่าเดิม สำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องอาศัยความร่วมมือของภาคประชาชนที่รวมกลุ่มกันเพื่อช่วยเหลือแจ้งเตือนภัยทางผ่านทางโซเชียลมีเดีย และที่สำคัญนโยบายรัฐบาลในการตัดน้ำตัดไฟตัดเน็ตในช่วง 7 วัน คดีจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ลดลง 20% และจากการปิดด่านชายแดนคดีคอลเซ็นเตอร์ ลดลง 30% เชื่อว่าถ้านโยบายภาครัฐจะช่วยสามารถลดคดีได้
พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์หรือสารวัตรแจ๊ะกล่าวว่า การแพร่กระจายของกลุ่มขบวนการคอลเซ็นเตอร์ในประเทศเพื่อนบ้านเป็นธุรกิจคล้ายลักษณะแฟรนไชส์เป็นบริษัทเอกชนบริษัทหนึ่งต่อแก๊งแก๊งหนึ่ง ต่อ 1 ตึก มีครบวงจรทั้งฝ่ายปฏิบัติการ ฝ่าย HR ในการหาคน ฝ่ายไอทีหลังบ้านในการเจาะข้อมูล ดึงข้อมูลเอาเบอร์โทรศัพท์ไป ฝ่ายทำอาหาร ฝ่ายรักษาความปลอดภัย โครงสร้างภายนอกมีการพัฒนาและระบบภายในก็มีการพัฒนาไปไกลเช่นระบบการปกครองพนักงานมีระยะสัญญาณ 6 เดือนไม่สามารถออกไปไหนได้จะอยู่แต่ในบริเวณในตึกของประเทศเพื่อนบ้านเท่านั้นใครทำยอดไม่ถึงใครจะมีจิตวิทยาในการกดดัน ขังในห้องน้ำ ไม่ให้ทานข้าว ไม่ให้ใช้โทรศัพท์ ใครแข็งข้อจะถูกทำร้ายร่างกาย ถูกช็อตไฟ ขายส่งต่อไปยังบริษัทที่ไกลขึ้นไปจังหวัดใกล้ประเทศที่ 3 หากได้ยอดครบ 10 ล้านบาทจะมีการตีระฆัง แจกโทรศัพท์ไอโฟน มีการพัฒนาในการจูงใจให้คนไปทำ มีการพัฒนาระบบการเงินไปด้วย เมื่อได้บัญชีม้าบัญชีเดียวถูกพัฒนาให้นำไปหลอกเป็นทุกรูปแบบทั้งการหลอกให้รัก หลอกให้ลงทุน โดยนำเงินจากผู้เสียหายที่หลอกได้ โอนไปยังบริษัทในกลุ่มพาร์ทเนอร์ นำเงินที่ได้รับจากการหลอกลวงไปซื้อเงินสกุลดิจิทัล เป็นการพัฒนาในการหลอกลวง
นายณัฐพลกล่าวว่า ปัจจุบันแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้เทคโนโลยี AI ปลอมแปลงเสียงให้คล้ายกับคนในครอบครัวเพื่อหลอกลวงให้โอนเงิน การปลอมแปลงใบหน้าเพื่อ วิดีโอคอล ว่าเป็นใบหน้าเหมือนที่คนรู้จักจริงๆ แต่ที่จริงเป็น AI การหลอกลวงมีความแนบเนียนยิ่งขึ้นปัญหาในการทำสำนวนคือ ปัญหาเรื่องพยานหลักฐานข้อจำกัดในแต่ละคดีมีข้อจำกัดความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ บัญชีม้า อัตราโทษไม่สูงมาก สำหรับผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมจะมีระยะเวลาการฟ้องในภายใน 48 วัน จะมีปัญหาว่าตั้งแต่การจับกุมและส่งสำนวนให้อัยการมีเวลาค่อนข้างจำกัดในการรวบรวมพยานหลักฐานอาจไม่ครบถ้วนหรือได้เพียงบางส่วน อาจไม่เพียงพอ ทำให้อัยการต้องยื่นฟ้องไปก่อน หรือบางครั้งต้องมีการสั่งสอบสวนเพิ่มเติม แต่ก่อนจำเลยจะรับสารภาพทันที แต่ปัจจุบันมีการสู้คดีว่า ไม่เกี่ยวข้องกับบัญชี ไม่รู้เห็นมีการหลอกลวง ทำให้ต้องมีการสืบพยานกันมากขึ้น พยานหลักฐานไม่เพียงพอศาลอาจพิพากษายกฟ้องได้
น.ส.เอ(นามสมมติ) ผู้เสียหายที่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงกล่าวว่า ตนถูกหลอกและแอพพลิเคชั่นหาคู่ เป็นช่วงที่เพิ่งเลิกกับแฟนคนเก่าไป กระทั่งไปเจอผู้ชายโปรไฟล์ดี หน้าตาดี เข้ามาทักทาย มีการพูดคุยกับทางคนร้ายเชิญชวนให้ติดต่อทาง LINE แทน กระทั่งมีความสัมพันธ์เป็นแฟนกันในช่วงระยะเวลาหนึ่ง พยายามถามถึงพื้นหลังมาทำอาชีพอะไร มีเงินเดือนเท่าไหร่ จากนั้นก็ใช้ AI วิดีโอคอลมาหา เมื่อตนนัดเจอก็ถูกปฏิเสธและบ่ายเบี่ยงอ้างว่า ติดภารกิจต่างๆ นานา สุดท้าย สุดท้ายจึงรู้ว่าถูกหลอกและเสียเงินไป