
30 พฤษภาคม 2568 ที่สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ ถนนพหลโยธิน กทม. ผู้เสียหายที่เสียค่าสมัครการจัดงานวิ่ง "Run For Destination 2025" ที่"สวนหลวง ร.9" เมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา เเต่พอถึงเวลาไม่มีผู้จัดงานจัดการวิ่งจริง ทำให้มีผู้เสียหายจำนวนมากกว่า 1 พันคน ที่เสียค่าสมัครไปแล้วมายื่นหนังสือขอความช่วยเหลือจากสภาทนายความ
โดย นายสุนทร พยัคฆ์ เลขาธิการสภาทนายความฯ รับมอบหนังสือพร้อมกล่าวว่า วันนี้มีตัวแทนผู้เสียหายจากงานดังกล่าวมาร้องขอให้สภาทนายความให้ความรู้ทางกฎหมายและขอให้ช่วยดำเนินคดีทั้งทางอาญา และทางแพ่ง กับบริษัทผู้จัด ทางสภทนายความจะขอฟังข้อเท็จจริงจากฝั่งผู้เสียหายเพื่อดูว่าการกระทำของผู้ก่อเหตุจะเข้าข่ายความผิดทางอาญาหรือไม่ ส่วนทางแพ่งนั้นไม่มีปัญหาอยู่แล้ว
นายซัน ตัวแทนผู้เสียหาย กล่าวว่า ในที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา เป็นวันนัดรับอุปกรณ์ในการวิ่ง ตนเห็นความผิดปกติหลายอย่าง และที่หน้างานก็ไม่มีการจัดซุ้มปล่อยนักวิ่ง และเจ้าหน้าที่คอยดูแลเท่าที่ควร ประกอบกับเสื้อนักวิ่งที่ไม่สัมพันธ์กับจำนวนคน ทำให้ในวันนั้นมีทั้งคนที่ได้เสื้อและป้ายชื่อบางรายก็ได้แค่ป้ายชื่อ แต่ไม่ได้เสื้อ ตัวแทนผู้จัดบอกว่าให้มารับก่อนวันงานวิ่งในวันที่ 25 พ.ค.แทน
ก่อนหน้านี้ก็มีการเลื่อนนัดงานแข่งวิ่งมาแล้ว เนื่องจากให้เหตุผลว่ามีผู้มาสมัครไม่เพียงพอจึงเปิดรับสมัครเพิ่ม ทั้งแบบระยะทาง 5 กิโล และระยะทาง 10 กิโล รวมทั้งยังแบบวีไอพีที่จะได้ของแถมอย่างเช่นรองเท้า นาฬิกา และเหรียญ ซึ่งกลุ่มของตนได้ติดตามเพจของผู้จัดงานโดยตลอดจนถึงวันงาน เพราะทางเพจได้ประกาศว่าจะมีการจัดงานขึ้นอย่างแน่นอน
จึงได้เดินทางไปที่หน้างานในวันดังกล่าวแต่ปรากฏว่าพอไปถึง พบว่าหน้างานไม่มีความพร้อมใด ๆ ทำให้นักวิ่งทั้งหมดไม่สามารถวิ่งได้ อีกทั้งยังมีนักวิ่งชาวต่างชาติจำนวนหนึ่งเข้ามาร่วมด้วยทำให้ตนเองและเพื่อนรู้สึกขายหน้าเป็นอย่างมาก อีกทั้งผู้จัดก็ไม่ชี้แจงปัญหาที่เกิดขึ้นให้กับนักวิ่งทุกคนทราบ พวกตนจึงรวมตัวกันไปแจ้งความที่สน.ประเวศ ทางพนักงานสอบสวนยังไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาแต่อย่างใด
หลังจากที่มีการปรากฏออกมาเป็นข่าว พวกตนได้ออกรายการดังรายการหนึ่ง ซึ่งตัวแทนผู้จัดได้โฟนอินเข้ามาในรายการ และพูดทำนองว่าจะเยียวยาผู้เสียหาย แต่กลับไม่มีความชัดเจนในการตั้งใจจะเยียวยา
เพราะต้องนำไปหักค่าใช้จ่ายบริษัท และเงินที่เหลือจึงนำมาเยียวยานักวิ่งได้ หลังจากนั้นก็ไม่มีการติดต่อพวกตนมาอีก หรือแม้กระทั่งการประกาศในเพจถึงการชดใช้ความผิดพลาดจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
พวกตนจึงได้ร้องทางสภาทนายความเพื่อช่วยให้ดำเนินคดีกับบุคคลดังกล่าวเพื่อดำเนินคดีอาญา และแพ่ง แต่พวกตนพร้อมที่จะไกล่เกลี่ยถ้าผู้จัดติดต่อขอเยียวยาจนพวกตนพอใจ
ด้าน นางสาวศรินทร เลืองวัฒนะวณิช อุปนายกฝ่ายต่างประเทศ สภาทนายความ กล่าวว่า เบื้องต้นต้องดูว่าคดีนี้จะเป็นข้อหาฉ้อโกงธรรมดาหรือว่าข้อหาฉ้อโกงประชาชน ซึ่งผู้เสียหายทั้งหมดได้พบพนักงานสอบสวนมาแล้ว
ทางสภาทนายความอาจจะประสานงานกัน เพราะสามารถเรียกพยานเอกสารมาครบถ้วนกว่าทางสภาทนายความ ส่วนคดีในทางแพ่งนั้นทางสภาทนายความสามารถที่จะดำเนินการได้ทันที ซึ่งอาจจะมีการไกล่เกลี่ยของทั้งสองฝ่ายในเบื้องต้นก่อน
ด้าน นายสุนทร เลขาธิการสภาทนายความฯ กล่าวว่า วันนี้จะให้ทางผู้เสียหายทั้งหมดเดินทางไปให้ข้อเท็จจริงกับทนายความอาสา และตั้งคณะทำงานขึ้นมา
และดูว่าเข้าองค์ประกอบความผิดใดบ้าง อาจจะเข้าข่ายฉ้อโกง ฉ้อโกงประชาชน และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ แต่อันดับแรกจะให้ทำการไกล่เกลี่ยกับผู้จัดก่อน โดยจะเรียกตัวแทนผู้จัดและผู้เสียหายไปพบกันที่ศูนย์ไกล่เกลี่ย โดยสภาทนายความจะเป็นตัวกลางของเรื่องนี้