16 พฤษภาคม 2568 พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รองผบช.น.) แถลงผลการสอบปากคำและการดำเนินคดี หลังศาลออกหมายจับ 17 ผู้ต้องหา เกี่ยวข้องกับตึก สตง.ถล่ม ที่ สน.บางซื่อ โดยระบุว่า ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ คือ กลุ่มผู้ออกแบบ ผู้ควบคุมการก่อสร้าง และผู้รับเหมาก่อสร้าง ได้เดินทางเข้ามามอบตัวแล้ว 15 ราย พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการแจ้งข้อกล่าวหา และพฤติการณ์การกระทำความผิด และทำการสอบปากคำ ซึ่งทั้ง 15 รายให้การปฏิเสธ แต่ยืนยันว่าหลังจากนี้จะไปเตรียมเอกสารคำให้การมาส่งมอบให้พนักงานสอบสวน ภายในวันที่ 23 พ.ค. 2568 นี้
ส่วนอีก 2 ราย บริษัท ว.และสหาย ติดต่อเข้ามามอบตัวตอนบ่ายแล้ว เบื้องต้นในชั้นพนักงานสอบสวน ได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ
ในส่วนของพนักงานสอบสวนจะทำงานอย่างต่อเนื่อง โดยคำให้การใดที่เป็นประโยชน์ หรือคำให้การใดที่เราสอบปากคำไปแล้ว เราจะเอาไปขยายผลต่อว่าจะมีผู้อื่นผู้ใดที่มีการกระทำความผิดหรือมีส่วนเกี่ยวข้องเพิ่มเติม ก็จะดำเนินการต่อเนื่อง
พล.ต.ต.นพศิลป์ ยังอธิบายถึง พยานหลักฐานตามความผิด ม.227 และ ม.238 การออกแบบ ควบคุม และการก่อสร้าง ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ เป็นเหตุให้ตึกถล่ม และมีผู้เสียชีวิต ด้วยว่า จากหลักเกณฑ์และการปฏิบัติมีการรวบรวมพยานหลักฐาน ในเรื่องของการออกแบบมีพยานผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่า สาเหตุมาจากแบบแปลนการก่อสร้างดังกล่าวไม่สอดคล้องกับกฎกระทรวงและไม่ได้มาตรฐาน
ส่วนการควบคุมงานและการก่อสร้างได้มีการตรวจพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุทั้งจากกองพิสูจน์หลักฐาน ดีเอสไอ กรมโยธาธิการ และผังเมือง โดยเป็นการตรวจสอบวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างทั้งปูนเหล็ก ปรากฏว่า ผลการตรวจสอบออกมาชัดเจนว่าไม่ได้มาตรฐาน โดยตาม TOR จะถูกกำหนดไว้แล้วว่าจะต้องใช้เหล็กเส้น ปูน ตามมาตรฐานแบบไหน แต่การก่อสร้างดังกล่าว ไม่เป็นไปตาม TOR ที่กำหนดหลักเกณฑ์ไว้ และต่ำกว่ามาตรฐานจึงถือว่ามีความผิด
รวมถึงยังมีการแก้ไขแบบแปลนในตัวของปล่องลิฟท์ และ คอลิฟท์ โดยใช้ลายเซ็นปลอม เพื่อปลอมวุฒิวิศวกร เพื่อใช้ยืนยันในการแก้ไขแบบ ซึ่งนายสมเกียรติ เป็นผู้เสียหาย อ้างว่าตัวเองถูกปลอมลายมือชื่อ ทางตำรวจจึงส่งลายเซ็นที่ถูกแอบอ้างไปตรวจที่กองพิสูจน์หลักฐานปรากฏว่าลายเซ็นดังกล่าวเป็นลายเซ็นปลอมจริง
ดังนั้น สรุปสาเหตุทั้งหมดจึงไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ และ ไม่ได้มาตรฐาน จึงใช้ทั้งหมดเป็นพยานหลักฐานเพื่อขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 17 คน
ส่วนความชัดเจนในการเอาผิดกับ เจ้าหน้าที่ สตง. พล.ต.ต.นพศิลป์ อธิบายว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผลและรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม เนื่องจาก เกี่ยวข้องกับกระบวนการตรวจรับงวดงานด้วย เพราะที่ผ่านมา สตง.ตรวจรับงานไปแล้ว 22 งวด จ่ายเงินไปแล้ว 900 ล้านบาท แต่งวดที่ 22 เมื่อมีการตรวจรับงานแต่งานคืบหน้าเพียง 33% จาก 80% ทำให้คณะกรรมการตรวจรับพัสดุ ได้ส่งหนังสือแจ้งไปยัง สตง. เพื่อจะให้เข้าคณะกรรมการและทำการบอกเลิกสัญญาตั้งแต่ 15 ม.ค. 2568 จนถึงวันที่ 28 มี.ค. 2568 ที่ตึกถล่ม ก็ยังไม่มีการบอกเลิกสัญญาดังกล่าว อาคารก็มาถล่มก่อน
ซึ่งพนักงานสอบสวนได้เรียกเจ้าหน้าที่ที่ทำการตรวจรับพัสดุมาสอบปากคำไปแล้ว ทั้งคณะกรรมการตรวจรับการออกแบบ การก่อสร้าง และการควบคุม แต่กระบวนการยังไม่เสร็จสิ้นทั้งหมด รวมถึงจะต้องรอผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่รัฐบาลตั้งขึ้นด้วย
“พนักงานสอบสวนทำงานอย่างตรงไปตรงมา ตามพยานหลักฐาน ไม่ได้มีการกลั่นแกล้งบุคคลหนึ่งบุคคลใด ทุกอย่างตรงไปตรงมา ใครกระทำความผิดเหมือนที่บอกว่า กรรมใครที่ไปก่อไว้ ย่อมสนองในชาตินี้แน่นอน เพราะฉะนั้นไม่พ้นกฎแห่งกรรมที่เกิดขึ้น ตอนนี้พบผู้เสียชีวิตที่เจอศพ 89 ราย
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีความกังวลใจ เพราะตึกสตง. ความสูงถึง 30 ชั้น และอยู่ห่างไกลจากจุดศูนย์กลางที่เกิดแผ่นดินไหวกว่า 1,000 กิโลเมตร ทำไมถึงพังถล่มมาในลักษณะแพนเค้กซีเมนต์ได้ เราจึงได้นำพยานแวดล้อม ทั้งคนที่ถ่ายคลิปไว้ในขณะที่อาคารยุบตัวว่า ยุบตัวอย่างไร มาประกอบทั้งหมด