
30 เมษายน 2568 ความคืบหน้าการสอบสวนดำเนินคดี ตึก สตง.ถล่ม ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) รับเป็นคดีพิเศษ นั้น ล่าสุด นายศุภภางกูร พิชิตกุล รอง ผอ.กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ หนึ่งในคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยความคืบหน้าการสอบปากคำ 10 วิศวกรควบคุมงานของกิจการร่วมค้า PKW เป็นวันที่ 2 ว่า
วันนี้มีวิศวกรเข้ามาให้ปากคำรวมทั้งหมด 10 คน โดยมี 3 คนที่ยอมรับว่าเป็นลายเซ็นของตัวเองจริงที่ปรากฏรายชื่อควบคุมงานของกิจการร่วมค้า PKW โดยทั้ง 3 คนอ้างว่าไปควบคุมงานและปฏิบัติงานในไซต์งานจริง ซึ่งลายเซ็นของทั้ง 3 คนเป็นลักษณะการเซ็นรายงานประจำสัปดาห์
ส่วนจะมีการเซ็นทั้งหมดกี่ครั้งนั้น นายศุภภางกูร กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้สุ่มตรวจรายงานประจำสัปดาห์ ต่อคนประมาณ 2 สัปดาห์ ทั้ง 3 คนมีลายเซ็นอยู่ในรายงานของทั้ง 2 สัปดาห์ที่สุ่มออกมา โดยผู้ที่มีลายเซ็น ยืนยันว่า จะต้องตรวจสอบก่อนเซ็นทุกครั้ง ถ้าระหว่างการก่อสร้างพบความผิดปกติ จะมีการรายงานเป็นขั้นตอนตามลำดับชั้นไปถึงนายสมชาย ผู้จัดการโครงการ และหากเป็นปัญหาที่กระทบกับโครงสร้าง ผู้จัดการโครงการก็จะรายงานเป็นขั้นตอนไปถึงสตง. แต่ละคนมีหน้าที่ไม่เหมือนกัน อย่างบริษัท ว.และสหาย จะดูแลเรื่องของระบบ ส่วนเคพีดูแลเรื่องโครงสร้าง
“การก่อสร้างต้องรายงานเริ่มต้นจากผู้รับเหมาอยู่แล้ว คืออิตาเลียนไทย และไชน่า เรลเวย์ ซึ่งเป็นกิจการร่วมค้า เพราะเขาดำเนินการก่อสร้าง เขาต้องพบว่ามีปัญหาในการก่อสร้างออกแบบหรือไม่ อย่างไร”
นายศุภภางกูร ย้ำว่า หากเป็นงานหลักๆด้านโครงสร้าง จะต้องรายงานตามขั้นตอนจนถึงผู้ออกแบบ แต่หากเป็นปัญหาเล็กๆน้อยๆในการก่อสร้าง สามารถพิจารณาแก้ไขปัญหาตามหน้างานได้เลย
ส่วนวิศวกรอีก 7 คน ที่ปฏิเสธไม่ใช่ลายเซ็นตัวเองนั้น เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่จะส่งลายเซ็นตัวอย่างที่ให้วิศวกรเซ็นต่อหน้าพนักงานสอบสวน โดยทำการปกปิดลายเซ็นตัวปัญหา ก่อนส่งไปที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เพื่อทำการตรวจสอบว่าเป็นลายเซ็นจริง หรือมีการปลอมแปลงหรือไม่ โดยพนักงานสอบสวนจะรวบรวมลายเซ็นให้ใกล้กับเวลาที่เกิดเหตุ เพื่อส่งไปให้ผู้เชี่ยวชาญทำการตรวจสอบ
ทั้ง 7 คนที่ปฏิเสธว่าไม่ใช่ลายเซ็นของตัวเอง เจอลายเซ็นดังกล่าวในรายงานประจำสัปดาห์เมื่อปี 2563 ซึ่งเป็นเอกสารประกอบการเบิกเงินกับ สตง. ส่วนจะเซ็นเหมือนกันหรือไม่ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ แต่เอกสารที่สุ่มนำมาตรวจลายเซ็นใกล้เคียงกัน มีแตกต่างกันบ้างเป็นปกติของการเซ็นชื่อ แต่การเปรียบเทียบจะต้องเปรียบเทียบกับเจ้าของลายเซ็นจริงว่าตรงกับลายเซ็นที่เป็นปัญหาหรือไม่
ส่วนทั้ง 7 คนเกี่ยวข้องอย่างไรกับบริษัท กิจการร่วมค้า PKW นั้น นายศุภภางกูร ระบุว่า ทั้ง 7 คนอยู่ในบริษัท ว. และสหาย ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทของกิจการร่วมค้า PKW และมีตำแหน่งเป็นวิศวกรที่ทำงานระบบของบริษัท ว.และสหาย ซึ่งข้อเท็จจริงคือ มีการนำชื่อวิศวกร 7 คนนี้มาเบิกในงานของ PKW แต่เจ้าตัวไม่ได้ไปทำงาน และทั้ง 7 คนให้การว่าไม่ได้ไปไซต์งาน และไม่ได้ควบคุมงานตามวันและเวลาที่ปรากฎในเอกสารที่มีลายเซ็น
เมื่อถามว่า นอกจากวันและเวลาที่ปรากฎในเอกสารแล้ว ทั้ง 7 คนเคยเข้าไปที่ไซต์งาน สตง. ในช่วงเวลาที่มีการก่อสร้างตึกหรือไม่นั้น นายศุภภางกูร กล่าวว่า วิศวกร อ้างว่าช่วงเวลาการก่อสร้างอาคารสตง.ไม่เคยไปที่ไซต์งาน และบางคนก็ลาออกจากบริษัทไปแล้วด้วย แต่รายละเอียดยังอยู่ในการสอบสวนยังไม่แล้วเสร็จ ส่วนมีการนำชื่อไปแอบอ้างแล้วเจ้าตัวที่เป็นวิศวกรไม่รู้ตัวหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างการสอบสวน
ส่วนขั้นตอนการตรวจสอบลายเซ็นเมื่อสอบปากคำแล้วเสร็จ จะส่งลายเซ็นไปที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์เพื่อทำการตรวจสอบ แล้วนำข้อมูลมาพิจารณาว่าเป็นลายเซ็นของเขาจริงหรือไม่ ซึ่งจะต้องพิจารณาในโครงการ ของการจ้างควบคุมงานว่ามีการดำเนินการตามขั้นตอนจริงหรือไม่
ด้าน ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมถึงการสอบปากคำวิศวกรชุดแรก 7 คน เมื่อวานนี้(29เม.ย.68) ด้วยว่า ใน 7 คน มี 6 คนปฏิเสธว่าลายมือชื่อที่เซ็นในเอกสารควบคุมงานไม่ใช่ลายเซ็นของตัวเอง ซึ่งเมื่อวานนี้ทั้ง 6 คนได้เซ็นลายเซ็นเป็นตัวอย่างให้กับพนักงานสอบสวน ขณะนี้อยู่ระหว่างส่งให้กับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ทำการตรวจสอบเปรียบเทียบแล้ว
และวิศวกรทั้ง 6 คนยังให้ข้อมูลว่า ตามปกติการทำงานจะส่งรายชื่อเข้าไปเพื่อเสนอการคัดเลือกเข้าควบคุมงาน เพียงครั้งเดียว แต่เมื่อได้รับงานแล้ว จากนั้นก็มีการเปลี่ยนวิศกรที่ทำงานจริงๆเข้าไปแทน ซึ่งทั้ง 6 คนยังแปลกใจว่าทำไมถึงมีรายชื่อตัวเองเข้าไปควบคุมงานด้วย
ส่วนอีก 1 คน ยอมรับว่า เป็นลายเซ็นของตัวเอง และยอมรับว่า ทำงานอยู่หน้างานจริง และเป็นพนักงานอยู่ในบริษัทกิจการร่วมค้า โดยเจ้าตัวอ้างว่าทำหน้าที่ เป็นเจ้าหน้าที่ภาคสนามอยู่บริเวณไซต์งานก่อสร้างของอาคารสตง. ซึ่งมีการเซ็นลายเซ็นเป็นผู้ควบคุมงานในเอกสารหลายครั้ง
นั่นหมายความว่า 2 วันที่ผ่านมา สอบปากคำวิศวกรไปแล้ว 17 คน ยอมรับเป็นลายเซ็นจริง 4 คน ส่วนอีก 13 คน อ้างว่าไม่ใช่ลายเซ็นตนเอง และในวันพรุ่งนี้(1พ.ค.68) จะมีการเรียกวิศวกรชุดที่ 3 เข้ามาสอบปากคำอีก 10 คน