
28 เมษายน 2568 กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย ผบช.ปส. สั่งการให้ พ.ต.อ.ฉัตรชัย ศิลลา ผกก.4 บก.สกส.บช.ปส., สนธิกำลังกับ ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., ว่าที่ พ.ต.ท.กล้า สมบัติพิบูลย์ สว.ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล.,ร.ต.ท.สมบัติ ปัตเมฆ, ว่าที่ ร.ต.ต.กุญชร บุญชัด, ว่าที่ ร.ต.ต.สุริยา ปลื้มใจ รอง สว.(ป.) สว.ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล. ร่วมจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 4 คน
พร้อมด้วยของกลาง
1.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน หรือไอซ์) ชนิดเกล็ดผงสีขาวขุ่น บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีเงินและสีทอง มีรูปดาวสีทอง 5 ดวง จำนวน 100 ห่อ น้ำหนักห่อละประมาณ 1 กิโลกรัม น้ำหนักรวมประมาณ 100 กิโลกรัม (ซุกซ่อนอยู่ในกล่องพัสดุจำนวน 6 กล่องวางไว้บริเวณช่องวางของท้ายรถยนต์ยี่ห้อ MITSUBISHI รุ่น XPANDER สีดำ ทะเบียน กรุงเทพมหานคร)
2.รถยนต์ยี่ห้อ MITSUBISHI รุ่น XPANDER สีดำ ทะเบียน กรุงเทพมหานคร (รถยนต์ที่ใช้สำหรับบรรทุกยาเสพติด มีนายณรงค์ศักดิ์ ผู้ต้องหาที่ 1 เป็นผู้ขับขี่)
3.รถยนต์กระบะยี่ห้อ ISUZU รุ่น D-MAX สีเทา ทะเบียน ประจวบคีรีขันธ์ (รถยนต์ที่ใช้ขับนำสำรวจเส้นทาง-คุ้มกัน รถบรรทุกยาเสพติด ซึ่งมีนายศิริศักดิ์ ผู้ต้องหาที่ 2 เป็นผู้ขับขี่ มีนางสาวพรเพ็ญ ผู้ต้องหาที่ 3 และนางสาวเอ ผู้ต้องหาที่ 4 นั่งโดยสาร)
4. โทรศัพท์มือถือ จำนวน 6 เครื่อง ที่ผู้ต้องหาใช้ในการสื่อสารระหว่างการขนย้ายยาเสพติด
พฤติการณ์ ก่อนการจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.สกส. บช.ปส. ได้สืบสวนจนทราบว่า มีกลุ่มผู้รับจ้างลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เตรียมไปส่งให้กลุ่มผู้ค้ายาเสพติดพื้นที่จังหวัดสงขลา โดยจะใช้รถยนต์ 2 คัน ในการลักลอบลำเลียงยาเสพติด ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมสืบทราบว่ารถยนต์ทั้งสองคันอยู่ระหว่างเดินทางผ่านจังหวัดชุมพร เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.สกส. บช.ปส. จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงชุมพร ให้ตั้งจุดสกัดกั้นรถยนต์เป้าหมายทั้งสองคัน บริเวณด้านหน้าหน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงหลังสวน ริมถนนเถนนหมายเลข 41 ฝั่งขาลงใต้ กม.ที่ 62 เมื่อรถยนต์ทะเบียน ประจวบคีรีขันธ์ ขับนำรถยนต์ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ได้ขับมาถึงบริเวณดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงชุมพรและเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.สกส. ที่ได้ติดตามรถยนต์เป้าหมายทั้งสองคัน พร้อมสกัดกั้นรถยนต์ทั้งสองคันไว้ได้
ผลการตรวจสอบ ภายในรถยนต์ทะเบียน กรุงเทพมหานคร พบกล่องพัสดุ จำนวน 6 กล่อง เมื่อเปิดออกมาพบเป็น ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) บรรจุอยู่ในกล่องพัสดุ ห่อด้วยพลาสติกสีเงินและสีทอง มีรูปดาวสีทอง 5 ดวง ซีลปากถุงด้วยพลาสใสอีกชั้นหนึ่ง (น้ำหนักก้อนละประมาณ 1 กิโลกรัม) จำนวน 100 ก้อน น้ำหนักรวมประมาณ 100 กิโลกรัม
สอบถามผู้ต้องหาที่ 1-3 ให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกันลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ไปส่งให้กลุ่มผู้ค้ายาเสพติดพื้นที่จังหวัดสงขลา ตามคำสั่งของผู้ว่าจ้าง ได้ค่าจ้างเที่ยวละ 100,000 บาท โดย นายศิริศักดิ์ ผู้ต้องหาที่ 2 ให้การว่า ตนใช้ให้ น.ส.พรเพ็ญฯ ผู้ต้องหาที่ 3 ซึ่งเป็นลูกเลี้ยงของตน ชวนเพื่อน คือ น.ส.เอ ซึ่งเป็นเยาวชนอายุ 17 ปี นั่งมาบนรถด้วย เพื่อให้ดูเหมือนว่าเดินทางกันเป็นครอบครัว เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ตำรวจ
สำหรับ นางสาวเอ ซึ่งยังเป็นเยาวชน ให้การปฏิเสธว่า ตนไม่มีส่วนรู้เห็นกับการลักลอบลำเลียงยาเสพติดในครั้งนี้ เพียงแค่ถูกชักชวนให้เดินมาด้วย โดยถูกหลอกจาก น.ส.พรเพ็ญ ว่าจะพาไปเที่ยวที่ จ.สงขลา
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันจำหน่ายโดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป” และแจ้งสิทธิให้ผู้ต้องหาทั้ง 4 คนทราบ เมื่อผู้ต้องหาที่ 1- 3 ทราบในข้อหาและสิทธิดีแล้วให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงได้ควบคุมตัวพร้อมของกลางนำส่ง พนักงานสอบสวน กก.4 บก.สกส. บช.ปส. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปส่วนนางสาวเอ เยาวชนนั้น ได้นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.สลุย จ.ชุมพร ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป