svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

“ผกก.โจ้” เสียชีวิต ตร.เผยมีความเกี่ยวพันกับการทำร้ายร่างกาย

“ผกก.โจ้” เสียชีวิต ตำรวจเผยมีความเกี่ยวพันกับการทำร้ายร่างกาย เตรียมสอบต่อ หลังพบปมถูกทำร้าย มีมูลเข้าข่ายกฎหมายอุ้มหาย

17 มีนาคม 2568 ความคืบหน้ากรณีการเสียชีวิตของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ “ผู้กำกับโจ้” ในเรือนจำคลองเปรม ล่าสุดช่วงบ่ายวันนี้ การประชุมของคณะอนุกรรมการกลั่นกรองข้อเท็จจริง กรณีการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย นำโดย น.ส.เอมอร เสียงใหญ่ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เป็นประธานคณะอนุกรรมการฯ พร้อมด้วย 12 ผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม

ซึ่งการประชุมในวันนี้ มีการพิจารณาความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมาน และการกระทำให้บุคคลสูญหาย หรือ พ.ร.บ.อุ้มหายฯ กรณีการติดตามความคืบหน้า รายละเอียดข้อเท็จจริง การเสียชีวิตของ ผกก.โจ้ ภายในเรือนจำกลางคลองเปรม และกรณีร้องเรียนเรื่องถูกผู้คุมแดน 7 เรือนจำกลางคลองเปรม ทำร้ายร่างกาย กลั่นแกล้งรังแก ระหว่างรับโทษจำคุกภายในเรือนจำฯ
“ผกก.โจ้” เสียชีวิต ตร.เผยมีความเกี่ยวพันกับการทำร้ายร่างกาย

 

นายธีรยุทธ แก้วสิงห์ รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ในฐานะโฆษกกรมคุ้มครองสิทธิฯ เปิดเผยภายหลังการประชุมนานกว่า 2 ชั่วโมง ว่า วันนี้คณะอนุกรรมการกลั่นกรอง ได้มีการประชุมซึ่งเป็นการประชุมครั้งที่ 3 โดยได้มีพิจารณาเรื่องการเสียชีวิตของ ผกก.โจ้ แบ่งการพิจารณาออกเป็น 2 ประเด็นคือ การเสียชีวิตระหว่างการควบคุมตัวที่เรือนจำกลางคลองเปรม และประเด็นผู้คุมกลั่นแกล้งระหว่างควบคุมตัว

โดยประเด็นการเสียชีวิต มีเหตุอันควรสงสัยว่า มีการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.อุ้มหายฯ หรือไม่ ซึ่งขณะที่การผ่าชันสูตรศพยังไม่ถึงที่สุด แม้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ให้น้ำหนักไปที่การฆ่าตัวตาย แต่ต้องรอผลทางการ และยังรอผลการผ่าชันสูตรของนิติเวช รพ.จุฬาลงกรณ์ และรอผลการตรวจหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ทั้งวัตุพยานและผลของการตรวจสถานที่เกิดเหตุ จากกองพิสูจน์หลักฐาน ซึ่งจะต้องชะลอประเด็นการเสียชีวิตก่อน เพราะจะต้องรอผลทั้งหมดก่อน จึงจะมีการพิจารณาในประเด็นนี้
“ผกก.โจ้” เสียชีวิต ตร.เผยมีความเกี่ยวพันกับการทำร้ายร่างกาย

ส่วนประเด็นที่ 2 เรื่องการถูกทำร้ายร่างกาย เนื่องจากมีเหตุอันควรสงสัยว่า กระทำผิดตาม พ.ร.บ.อุ้มหายฯ หรือไม่ โดยคณะทำงานได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง จากบุคคลที่เกี่ยวข้องกับบุคคลที่กลั่นแกล้งและใช้ความรุนแรง 10 ปาก และได้ตรวจสอบข้อเท็จจรงจากน้องสาว และแม่ ของ ผกก.โจ้ ดังนั้นจึงเห็นว่า ควรมีการสืบสวนสอบสวนให้รอบด้าน และให้เกิดความยุติธรรมกับทุกฝ่าย และให้เกิดความโปร่งใส เป็นธรรม มอบหมายให้ พนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ดำเนินการต่อ และให้พนักงานอัยการร่วมสอบสวนตาม พ.ร.บ.อุ้มหายฯ

นายธีรยุทธ บอกด้วยว่า ขณะนี้ ยังไม่สามารถชี้ได้ว่าจะเข้าข่ายความผิด ตาม พ.ร.บ.อุ้มหาย ใน มาตรา 5 ว่าด้วยเรื่องการทรมาน หรือ มาตรา 6 ว่าด้วยเรื่องกระทำโหดร้าย เพราะ มาตรา 5 มีเกณฑ์อยู่ว่า จะต้องมีเจตนาพิเศษว่า ทำให้เกิดความเสียหายหรือการกระทำที่รุนแรง เจ้าหน้าที่รัฐเป็นผู้กระทำให้ได้มาซึ่งข้อมูลหรือผลการลงโทษหรือไม่

ส่วน มาตรา 6 ว่าด้วยเรื่องกระทำโหดร้าย อาจจะไม่ได้มีเจตนาพิเศษ แค่ทำร้ายร่างกายกัน ลดทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ทำให้อับอาย ก็เข้าข้อพิจารณานี้

ยืนยันว่าทุกเคสที่ร้องเรียนเข้ามา จะกลั่นกรองจ้อเท็จจริงและตรวจสอบทุกอย่างว่า เข้าข่ายตาม พ.ร.บ.อุ้มหายฯ หรือไม่ และคณะอนุกรรมการเป็นการกลั่นกรองเบื้องต้น หากเข้าข่ายก็จะส่งต่อให้หน่วยงาน ที่มีหน้าที่สอบสวนตามกฎหมายเพื่อให้ไปดำเนินการต่อ

ซึ่งที่ผ่านมา คณะอนุกรรมการส่วนใหญ่ ได้รับเรื่องร้องเรียนเคสที่เสียชีวิตในเรือนจำ และสถานที่ที่ใช้ในการควบคุมตัวที่หน่วยงานรัฐมีอำนาจ หลักร้อยเคส ตั้งแต่ ก.พ.ปี 66 แต่จะต้องนำมากลั่นกรองข้อมูลก่อนว่า เข้าข่ายหรือไม่อย่างไร ถ้ามีข้อมูลพบว่าเข้าข่ายก็จะทำการพิจารณา
ผกก.โจ้

ด้าน พ.ต.อ.สัญญา อุบลวิรัตนา ผู้กำกับ สน.ประชาชื่น บอกด้วยว่า พนักงานสอบสวนได้ทำหนังสือไปยังพนักงานอัยการ ให้เข้ามากำกับการสอบสวน ซึ่งได้ทำการสอบสวนญาติของ ผกก.โจ้ และแฟนสาวของ ผกก.โจ้ ไปแล้ว รวมถึงตรวจสอบที่เกิดเหตุ  ซึ่งจากการรวบรวมข้อมูล “มีส่วนที่น่าจะเข้าข้อกฎหมายตาม พ.ร.บ.อุ้มหาย” จึงต้องทำการสอบสวน เพราะ ผกก.โจ้ อยู่ในเรือนจำก็อยู่ในการควบคุมของเรือนจำ ส่วนเจ้าหน้าที่รัฐจะมีความผิดด้วยหรือไม่นั้น จะต้องดูผลการสอบสวนก่อน

โดยหลังจากนี้ก็ประเด็นเรื่องของการทำร้ายร่างกายและการทรมาน จะต้องต้องทำการสอบปากคำเพื่อนนักโทษในแดน 7 เพิ่มเติม ซึ่งจะมีอยู่ประมาณ 3-4คน และเพื่อนนักโทษในแดน 5 ด้วย รวมถึงจะต้องสอบปากคำ นายสิทธิพร ผู้คุมคู่กรณีอีกครั้ง

ผู้กำกับ สน.ประชาชื่น บอกด้วยว่า ทั้ง 2 ประเด็นคือ การเสียชีวิตและการทำร้ายร่างกาย มีความเกี่ยวพันกัน เพราะผู้กำกับโจ้เริ่มจากการถูกทำร้ายร่างกาย ที่แดน 7 แล้วถูกย้ายแดนมา แดน 5 จนมาทำร้ายตัวเอง ทั้งนี้จึงต้องดูพยานหลักฐานและคำให้การว่าเชื่อมโยงกันหรือไม่
“ผกก.โจ้” เสียชีวิต ตร.เผยมีความเกี่ยวพันกับการทำร้ายร่างกาย