svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

ด่วน! ไล่ออก “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ชง ผบ.ตร.ลงนาม

ด่วน! เคาะแล้ว สั่งไล่ออก “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล คณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ชง ผบ.ตร. พิจารณาลงนาม

7 มีนาคม 2568 รายงานข่าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) มีความคืบหน้าการพิจารณาสอบสวนวินัยร้ายแรง พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล หรือ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ บิ๊กโจ๊ก อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (อดีตรองผบ.ตร.) กรณีถูกดำเนินคดีฐานพัวพันกับเว็บพนันออนไลน์ หลังจากครบกำหนดการพิจารณาวินัยร้ายแรง 270 วัน

 

โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง  พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้ประชุมพิจารณาร่วมกับคณะกรรมการ

 

โดยมีรายงานล่าสุดว่า คณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง มีมติ ไล่ออกจากราชการ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ซึ่งมีการลงนามเรียบร้อยแล้ว

 

จากนั้นขั้นตอนต่อไป จะเป็นไปตามมาตรา 125 พ.ร.บ. ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 ระบุว่า  ผบ.ตร.จะสั่งเลยไม่ได้ จะต้องตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองโทษ เพื่อเสนอแนะว่าต้องลงโทษสถานใด ซึ่งคณะกรรมการดังกล่าวประกอบด้วยรองผบ.ตร.ทั้งหมด มี พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง อาวุโสสูงสุดเป็นประธาน พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข พล.ต.อ.นิรันดร เหลื่อมศรี พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง ร่วมกันพิจารณาความผิดวินัยร้ายแรงโดยที่ประชุมเห็นควรให้ ไล่ออก

ก่อนมีการทำข้อเสนอแนะส่งให้ กองวินัย รวบรวมเสนอให้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์  ผบ.ตร.ในฐานะผู้มีคำสั่ง จากนั้น ผบ.ตร.จะต้องออกคำสั่งตามที่คณะกรรมการพิจารณาได้เสนอแนะไป

 

รายงานข่าวแจ้งว่า ล่าสุดขณะนี้ความเห็นของคณะกรรมการ กลั่นกรองโทษ เสนอถึง ผบ.ตร.แล้ว อยู่ระหว่างรอการลงนาม

 

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล

 

เปิดขั้นตอน “วินัยบิ๊กโจ๊ก” หลังข่าวหลุดเจอโทษสูงสุด “ไล่ออก”

 

โทษวินัยร้ายแรงตามข่าว ที่อ้างว่าเป็นผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองโทษ กรณี “บิ๊กโจ๊ก” เจ้าของฉายา “แมวเก้าชีวิต”

 

อัตราโทษมี 2 ระดับ คือ ปลดออก กับ ไล่ออก

 

ตามข่าวที่หลุดออกมา คือ “ไล่ออก” ซึ่งจะไม่ได้มีโอกาสได้รับบำเหน็จบำนาญเลยด้วย แตกต่างจากปลดออก

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล

 

หากเป็นไปตามข่าว แปลว่า โอกาสของการกลับมามี “ชีวิตที่ 10” ของเจ้าของฉายา “แมว 9 ชีวิต” ย่อมริบหรี่ลงไปอีก

 

โดยประเภทของความผิดวินัยร้ายแรง ประกอบด้วย ประพฤติชั่ว คือ ทำให้เสื่อมเสียเกียรติศักดิ์การเป็นข้าราชการตำรวจ และ ประพฤติชั่วร้ายแรง คือ ทำให้เสื่อมเสียเกียรติศักดิ์การเป็นข้าราชการตำรวจ และต่อหน่วยงานราชการ

 

สำหรับคณะกรรมการกลั่นกรองโทษ มี รองผบ.ตร. ทั้งหมดร่วมเป็นกรรมการ

 

โทษที่ออกมา “บิ๊กโจ๊ก” ยังสามารถอุทธรณ์คำสั่งได้ โดยยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ หรือ ก.พ.ค.ตร.

 

หาก ก.พ.ค.ตร. ยืนตามคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย และคณะกรรมการกลั่นกรองโทษ กระบวนการก็ยังไม่จบเสียทีเดียว เพราะ “บิ๊กโจ๊ก” ยังสามารถใช้สิทธิ์ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองสูงสุดต่อไป

 

หากศาลปกครองสูงสุดยืนตาม ก.พ.ค.ตร. ก็จะทำให้คดีในส่วนของ “โทษทางวินัย” ถึงที่สุด ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนของการพิจารณาถอดยศตำรวจ

 

สำหรับคดีของ “บิ๊กโจ๊ก” ในศาลปกครองสูงสุด ยังมีอีก 1 คดี คือ การร้องขอความเป็นธรรมกรณีถูก ผบ.ตร.สั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ซึ่งมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯไว้แล้ว แต่ “บิ๊กโจ๊ก” ยื่นคำร้องต่อ ก.พ.ค.ตร. ทว่า ก.พ.ค.ตร. มีมติว่า คำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ชอบด้วยกฎหมาย

 

“บิ๊กโจ๊ก” จึงยื่นฟ้องต่อศาลปกครองสูงสุด คดีอยู่ระหว่างการพิจารณา โดยก่อนหน้านี้ ที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุด ได้ตีตกคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวไปแล้ว