
14 กุมภาพันธ์ 2568 ความคืบหน้า "แก๊งโอริโอ้" ที่ สภ.ปากคลองรังสิต "กัน จอมพลัง" นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ ลงพื้นที่พร้อมตำรวจ ติดตามการจับกุม แก๊งโอริโอ้ หรือ แก๊ง Oreo หลังจาก สภ.ปากคลองรังสิต ออกหมายจับเพิ่มเติมอีก 4 ราย ประกอบด้วย ปอนด์ โอริโอ้, วินเนอร์ โอริโอ้, เสือ โอริโอ้ และ ไลก้า โอริโอ้
หมายจับดังกล่าว สืบเนื่องจาก นายฟลุ๊ค ผู้เสียหาย ถูก แก๊งโอริโอ้ อุ้มขึ้นรถและซ้อมทำร้ายร่างกาย จากนั้นพาไปเข้าป่าละเมาะ ข้างปั๊มแห่งหนึ่งใกล้กับมหาวิทยาลัยชื่อดัง บังคับให้ถอดเสื้อผ้า แล้วต่อมาอุ้มขึ้นรถอีกรอบ ซ้อมทำร้ายและให้เขี้ยวบุหรี่ สุดท้ายปล่อยนายฟลุ๊คทิ้งไว้ข้างทาง ในสภาพหน้าปูดบวม และมีแผลตามแขนตามขาเต็มตัว เหตุเกิดมาประมาณ 1 ปี
ต่อมา ตำรวจไซเบอร์จับกุม "ปอน โอริโอ้" ส่วน "วินเนอร์ โอริโอ้" ถูกตำรวจ สภ.คลองหลวง จับกุม ในวันนี้สามารถจับกุมอีก 2 ราย คือ เสือ โอริโอ้ และ ไลก้า โอริโอ้
ขณะที่ช่วงบ่าย นายฟลุ๊ค ผู้เสียหายที่ถูกแก๊งโอริโอ้ รุมทำร้าย เดินทางมาที่ สภ.ปากคลองรังสิต เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม พร้อมเล่าให้ฟังว่า เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา ตนได้ไปดื่มสังสรรค์ที่ร้านเหล้าแห่งหนึ่งย่านรังสิต ก่อนที่ตนจะถูกนางสมหญิง ซึ่งตนรู้จักอยู่แล้ว ชักชวนให้ไปดื่มกันต่อที่ร้านเหล้าแห่งหนึ่งภายในซอยวงศ์สว่าง 11
ทันทีที่ไปถึง ก็เจอเข้ากับผู้ชาย 4 คนที่เป็นสมาชิกแก๊งโอริโอ้ ประกอบไปด้วย ปอนด์ เสือ ไลก้า วินเนอร์ ซึ่งทั้ง 4 คนได้ลากตนขึ้นไปบนรถยนต์ พร้อมกับข่มขู่ด้วยอาวุธปืน บอกว่า ให้อยู่นิ่ง ๆ ถ้าไม่อยากโดนยิง ก่อนที่จะพาคนไปที่ซอยเปลี่ยวแห่งหนึ่งไม่มีบ้านคน ลากลงมาจากรถยนต์ บังคับให้แก้ผ้าและทำร้ายร่างกาย
จากนั้นสั่งให้ขึ้นรถอีกครั้งจนมาถึงย่านรังสิต ลากลงมาจากรถบังคับให้นั่งคุกเข่า คนที่ชื่อไลก้า กับวินเนอร์ เตะอกหลายครั้ง บังคับให้ตนเคี้ยวบุหรี่ และสมาชิกที่เหลือก็ถ่ายคลิปไว้ หลังทำร้ายเสร็จ ก็บังคับให้ตนบอกชื่อ นามสกุล เบอร์โทรศัพท์มือถือ หมายเลขบัตรประชาชน และข่มขู่ว่าถ้าหากแจ้งความครอบครัวของตัวเองจะไม่ปลอดภัย
เหยื่อรายนี้ยังบอกอีกว่า อยากให้ผู้ก่อเหตุถูกดำเนินคดีให้สมกับที่ตนต้องถูกทำร้ายร่างกาย
นอกจากนี้อยากให้ตำรวจดำเนินคดีกับนางนกต่อ กับคนที่ถอดเสื้อ และคนที่เอารูปตนไปโพสต์ลงโซเชียลด้วย ทุกวันนี้นางนกต่อยังเยาะเย้ย บอกว่าพวกกูไม่ได้ทำอะไรผิด สุดท้ายนี้ขอบคุณสื่อ ขอบคุณ "กัน จอมพลัง" และขอบคุณผู้กำกับการที่ช่วยดำเนินคดีให้
ขณะที่ "กัน จอมพลัง" ได้โทรศัพท์ไปพูดคุยสอบถามกับยายของนายเสือ ที่มีอาชีพเป็นแม่บ้านและทำนา เปิดเผยถึงภูมิหลังของหลานชายผ่านโทรศัพท์ ว่า ตอนหลานชายอยู่บ้านเขาไม่เป็นแบบนี้ ตอนนี้หลายชายยังเรียนหนังสืออยู่ ที่ผ่านมาเลิกเรียนก็กลับบ้านตามปกติ ไม่เคยกลับดึก
ตอนอยู่บ้านก็มีเถียงยายบ้างตามประสาเด็ก แต่ไม่ได้หยาบคาย ยืนยันว่าหลานชายไม่ได้เกเร ไม่ค่อยทะเลาะเบาะแว้งกับใคร และไม่ค่อยมีเพื่อนมาหาที่บ้าน ถ้ามาหาก็มีแต่เด็ก ๆ แถวบ้านเท่านั้น
ส่วนอาวุธมีดกับปืนก็ไม่เคยเห็นเลยสักครั้ง ที่ผ่านมาหลานชายไม่ค่อยมาเล่าหรือระบายปัญหาอะไรให้ตนเองฟังเลยสักครั้ง แต่เห็นว่าไปพูดคุยปัญหากับแม่เขาอยู่บ้าง ซึ่งแม่ก็คือลูกสาวของตนก็โทรมาเล่าปัญหาต่างๆให้ฟัง เมื่อยายทราบข่าวก็รู้สึกเสียใจ เพราะเลี้ยงหลานชายมาเองกับมือตั้งแต่เด็ก
หลังเกิดเรื่องตนโทรศัพท์ไปคุยสอบถามกับหลานชาย ซึ่งหลานชายก็ไม่ได้เล่าอะไรให้ฟังเลย
สุดท้ายนี้อยากฝากเตือนสติหลานชายว่า เลือกคบเพื่อนให้ดี กลางค่ำกลางคืนอย่าเที่ยวดึก ยอมรับว่า ตนก็อยากยื่นประกันตัวให้หลานชาย แต่ตนไม่มีเงินขนาดนั้น
กัน จอมพลัง บอกอีกว่า ก่อนที่ผู้เสียหายจะเดินทางมา ตนได้คุยกับนายไรก้า หนึ่งในผู้ต้องหาว่า อยากขอโทษผู้เสียหายหรือไม่ ตอนแรกนายไรก้า บอกว่าอยากขอโทษ แต่จู่ ๆ เปลี่ยนใจ ไม่อยากพูดคุย หรือขอโทษผู้เสียหายแล้ว จึงมองว่า ผู้ต้องหาทั้งสองรายยังไม่มีความสลด เพราะผู้เสียหายไม่ได้รู้จักกับกลุ่มผู้ก่อเหตุด้วยซ้ำ นี่เป็นสิ่งที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น
อีกทั้งผู้เสียหายถูกข่มขู่สารพัด กลัวจะถูกค้นทะเบียนราษฎร์ จึงไม่กล้าอาศัยอยู่ที่บ้าน และไม่กี่วันมานี้ก็มีคนทักไปหาพยานถามชื่อนามสกุลจริง แปลกเป็นอย่างมาก ขอตั้งคำถามว่า จะถามไปเพื่อเช็กทะเบียนราษฎร์หรือไม่ เบื้องต้นหากตำรวจสอบปากคำเพิ่มแล้ว หากเข้าประเด็นอนาจาร จะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมต่อไป
สุดท้าย กัน จอมพลัง ฝากบอกแก๊งโอริโอ้ ที่เหลืออยู่ว่าอย่าห้าว เมื่อถูกดำเนินคดีแล้ว ไม่มีใครช่วยเหลือหรอกนอกจากครอบครัวที่เหลืออยู่
จากนั้นกัน จอมพลัง หยิบถุงขนมโอริโอ้ขึ้นมาเคี้ยวโชว์ผู้สื่อข่าวด้วย