7 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 11.00 น. นายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช รรท.ผบก.ภ.จ.อุดรธานี พ.ต.อ.อนุศักดิ์ ศักดาวัชรานนท์ รอง ผบก.ภ.จ.อุดรธานี พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ท.ชัยรัตน์ ประสารพันธ์ รอง ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายพิพัฒน์ นนทะปัญญา หรือ "แม็ค" อายุ 33 ปี ชาว ต.โพนงาม อ.หนองหาน จ.อุดรธานี พร้อมของกลาง ยาบ้า 796,000 เม็ด รถยนต์เก๋งมิตซูบิชิ มิราจ สีเขียว ทะเบียน อุดรธานี โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง
โดยกล่าวหา “จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยฝ่าฝืนกฎหมาย มีสารเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน)” ในร่างกายขณะขับรถยนต์ โดยจับกุมได้ที่หน้าวัดสว่างสามัคคี บ้านสามพร้าว หมู่ 2 ต.สามพร้าว อ.เมือง จ.อุดรธานี
พล.ต.ต.สุวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช รรท.ผบก.ภ.จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า ตำรวจได้รับการประสานจากศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอุดรธานี ว่ามีประชาชนได้ร้องขอความช่วยเหลือด้านความปลอดภัยในทรัพย์สินและทรัพย์สิน บริเวณถนนบ้านดอนภู่- สามพร้าว ต.สามพร้าว ซึ่งเชื่อว่าเส้นทางดังกล่าวเป็นเส้นทางลำเลียงยาเสพติด หรือเส้นทางโจร พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผกก.สภ.เมืองอุดรานี จึงได้สั่งการให้ตำรวจสายตรวจ 191 ไปตั้งด่านในเวลากลางคืนบริเวณถนนสายดังกล่าว เพื่อป้องปรามอาชญากรรม และสกัดกั้นยาเสพติด เพิ่มความเข้มในการตรวจพื้นที่ และให้ความอุ่นใจกับประชาชน โดยให้ตั้งจุดตรวจจนสามารถยึดยาบ้า และจับกุมพ่อค้ายาบ้าได้เกือบ 8 แสนเม็ด ซึ่งเป็นการประสานความร่วมมือกันระหว่างฝ่ายปกครองและตำรวจ พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล
พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผกก.สภ.เมืองอุดรานี เปิดเผยต่อว่า สืบเนื่องจากคืนวันที่ 31 มกราคม 2568 ตำรวจได้รับแจ้งจากกำนันและผู้ใหญ่บ้านว่าพบยาบ้า 43,600 เม็ด บรรจุกระสอบถูกนำมาทิ้งไว้ริมถนนบ้านสามพร้าว-ดอนภู่ จึงออกไปตรวจยึด คาดว่าแก๊งค้ายาบ้าจะนำยามาส่งมอบ แต่ชาวบ้านมาพบก่อน จึงได้สั่งการให้มีการตรวจและตั้งด่านบริเวณถนนดังกล่าว
กระทั่งเวลา 23.00 น.วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2568 ร.ต.อ.สถาพร สวัสดี รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี ได้นำกำลังสายตรวจจำนวน 15 คน ไปตั้งจุดตรวจถนนสายดังกล่าว ขณะตำรวจสายตรวจขับรถตราโล่ไปตามเส้นทาง และใกล้ถึงจุดตั้งด่าน ก็ได้พบชายขับรถเก๋งมิตซูบิชิ มิราจ สีเขียว ติดสติกเกอร์กู้ภัย หลังคาติดไฟไซเรนจอดอยู่ริมถนนนึกว่าเป็นจิตอาสาจะมาช่วยตั้งด่าน แต่พอพบรถตำรวจรถเก๋งคันดังกล่าวกลับขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ตำรวจเห็นว่าผิดปกติ จึงได้ขับรถไล่ติดตามไป และสามารถสกัดจับรถคันดังกล่าวได้ พบว่านายพิพัฒน์ หรือแม็ค ซึ่งเป็นอาสากู้ภัยมูลนิธิแห่งหนึ่งเป็นคนขับรถ ตรวจค้นพบยาบ้า 3 กระสอบ หรือ 796,000 เม็ดอยู่เบาะหลัง จึงควบคุมตัวมาสอบสวนที่โรงพัก
จากการสอบสวนนายพิพัฒน์ หรือ "แม็ค" ให้การรับสารภาพว่า เป็นอาสากู้ภัยมูลนิธิแห่งหนึ่งมา 10 ปี แต่ตอนนี้ได้ลาออกแล้ว เมื่อตกงานก็ได้มารับจ้างส่งยาบ้านให้ นาย ย. (นามสมมุติ) ชาวอำเภอบ้านดุง จ.อุดรธานี โดยขับรถเก๋งมารับยาบ้าบริเวณถนนดอนภู่-สามพร้าว เพื่อนำไปส่งลูกค้าตามที่ นาย ย. สั่ง โดยจะได้ค่าจ้าง 4,000-5,000 บาท ตนเพิ่งทำเป็นครั้งแรกก็โดนตำรวจจับ
ทั้งนี้ ตำรวจไม่เชื่อคำให้การของนายแม็ค จึงได้ตรวจสอบโทรศัพท์ พบว่านายทุนชื่อ ย.มีการสั่งการให้นายแม็คไปรับยาบ้าตามจุด และนำยาบ้าไปส่งลูกค้าตามจุดที่กำหนด พร้อมโอนเงินค่าจ้างให้ จึงนำตัวนายแม็คไปตรวจค้นบ้านพัก และติดตามไปบ้านนาย ย. ปรากฏว่านาย ย. ไหวตัวทันได้หลบหนีไป ซึ่งตำรวจจะสอบสวนขยายผล เพื่อขออนุญาตศาลออกหมายจับเครือข่ายาบ้า "นาย ย." นายทุนหรือผู้ว่าจ้าง และเครือข่ายยาบ้าทั้งหมด ตลอดจนการยึดทรัพย์ขบวนการต่อไป
ด้านนายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผวจ.อุดรธานี กล่าวว่า ที่จริงเป็นหน้าที่ของภาคีเครือข่ายทุกๆ ฝ่าย ทุกด้านที่ช่วยกันระมัดระวัง ในการทำงานหรือการปฏิบัติหน้าที่ หรือแม้แต่การใช้เครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ บางครั้งในกิจกรรมเหล่านั้นมีโอกาสช่องทางของผู้ไม่ประสงค์ดี ใช้โอกาสช่องทางเหล่านั้นทำสิ่งที่ไม่ดี จึงขอฝากพี่น้อง โดยเฉพาะภาคประชาชน หรือประชาสังคม ร่วมกันทำงาน มาช่วยกันกลั่นกลอง ช่วยกันไตร่ตรองคัดเลือกผู้ที่มีเจตจำนง หรือมีจิตอาสาแท้ๆ อย่าให้คนไม่ดีเข้ามาใช้โอกาสที่ไม่ถูกต้อง