
6 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 10.00 น. ที่กระทรวงกลาโหม ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง พานางจิราพร หรือเมย์ อายุ 31 ปี สาวสวย ภรรยาทหารยศสิบเอก (ส.อ.) สังกัดกรมสรรพาวุธ ค่ายศรีหราชเดโชชัย กรมทหารราบที่ 8 ขอนแก่น ร้องขอความเป็นธรรมกับกระทรวงกลาโหม กรณีถูกสามีทำร้ายร่างกายแม่ของตน และชอบใช้ความรุนแรงกับคนในครอบครัวมาโดยตลอด
โดย ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง เปิดเผยว่า ผู้เสียหายส่งเรื่องร้องเรียนมายังเพจเป็นหนึ่ง เนื่องจากมีความประสงค์จะร้องเรียนสามี เพราะถูกสามีทำร้ายร่างกายเป็นประจำ ทั้งๆที่ไม่ได้มีเหตุการณ์ทะเลาะ หรือ ไม่เข้าใจกัน แต่เป็นการใช้อารมณ์ อยู่ๆก็จะเข้ามาทำร้ายร่างกายโดยไม่มีสาเหตุ เธอก็อดทนให้อภัยเรื่อยมา เพราะคิดว่าอยากรักษาครอบครัว แต่เธอก็ถูกทำร้ายหนักขึ้น
รวมถึงสามีบุกไปที่บ้านแม่ของเธอ เพื่อไปเอาลูกกลับมาเลี้ยงดูที่ค่าย ซึ่งวันนั้นสามีได้ทำร้ายร่างกายแม่ของเธอ จนได้รับบาดเจ็บ โดยสาเหตุที่แม่ของฝ่ายหญิงไม่อยากให้สามีเอาลูกไปอยู่ที่ค่าย เพราะเธอเคยเล่าให้แม่ฟังว่าในค่ายสภาพแวดล้อมไม่ดี ในบ้านพักราชการมีแต่ยาเสพติด มีแต่ทหารที่ทำร้ายร่างกายภรรยาหลายครอบครัว ถึงไม่อยาก ให้ลูกไปอยู่ในสภาพนั้น
จากที่ได้สอบถามผู้เสียหาย มีจุดประสงค์อยากฟ้องหย่าสามี ซึ่งตนอยากให้จบกันด้วยดีไม่อยากให้ฝ่ายชายมาคุกคามฝ่ายหญิง ในส่วนของเรื่องของทำร้ายร่างกายก็ว่ากันไปตามกฎหมาย
ในเรื่องของบทลงโทษด้านวินัย ขอฝากทางกระทรวงกลาโหมให้ดำเนินการ อย่างเด็ดขาด เพราะเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับข้าราชการมากขึ้นทุกวัน เรื่องของทหารทำร้ายคนในครอบครัว
ทั้งนี้ หัวหน้าของฝ่ายชายได้โทรมากดดันผู้เสียหาย ขอให้ไม่เข้ามาเอาเรื่อง โดยบอกว่า สื่อหิวแสง ช่วยอะไรไม่ได้หรอก
ตนหวังว่าควรทำเรื่องที่ไม่ถูกต้องให้ถูกต้อง อย่างไรก็ตามอยากฝากกระทรวงกลาโหมช่วยดูแลค่ายทหารในพื้นที่ในเรื่องของยาเสพติด เรื่องของการทำร้ายกันภายในครอบครัว อยากให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการอย่างเด็ดขาด
ด้าน นางจิราพร ผู้เสียหาย เปิดใจเล่าถึงเหตุการณ์ทั้งน้ำตาว่า เคยมีสามี มีลูกมาแล้ว 1 คน และเลิกรากันไป จากนั้นสามีคนนี้ เป็นเพื่อนของเพื่อนเข้ามาจีบ และยอมรับตนเองได้ทุกอย่าง เห็นว่าเป็นคนดี จึงเริ่มคบกัน ตั้งแต่เดือน เม.ย.2564
แรกๆก็ปกติ ดูแลเอาใจใส่อย่างดี ต่อมาเดือน ก.ย.2564 ได้จดทะเบียนสมรสกัน แต่ไม่ได้จัดพิธีแต่งงาน หลังผ่านมา 8 เดือน ช่วงเดือน พ.ย.2564 แฟนตนเริ่มใช้ความรุนแรง ชกต่อย ทำร้ายร่างกาย จนได้รับบาดเจ็บใบหน้าบวมช้ำ ซึ่งตนให้อภัยมาตลอด จากนั้นก็คบหากันเรื่อยมา
ต่อมาได้ตั้งครรภ์กับสามี เมื่อปี 2565 ทุกครั้งที่มีปัญหาทะเลาะกัน สามีจะทำร้ายร่างกายตน รวมถึงลูกติดของตน คล้ายกับคนควบคุมอารมณ์ไม่ได้ เหมือนมีอาการทางระบบประสาท
รวมถึงสามียังเคยเล่าให้ฟังว่า ตัวของเขาถูกเลี้ยงดูมาแบบเก็บกด ตอนเด็กๆ ถูกพ่อบังคับ ตบตีมาตลอด บางครั้งนั่งดูทีวีอยู่ดีๆก็ลุกขึ้นมาทำร้ายร่างกาย ตนเคยแนะนำให้ไปหาหมอ แต่เขาไม่ยอมรับ แต่เวลาอยู่กับคนอื่น เขาจะเป็นคนอารมณ์ดี พูดจาไพเราะน่าฟัง
ที่ผ่านมาตนทำอะไรไม่ได้ เพราะสามีขู่ฆ่าตนและลูก รวมถึงแม่ของตนด้วย จากนั้นจึงตัดสินใจหนีออกมา และฝากลูกไว้ที่บ้านแม่ สามีรู้จึงบุกตามไปเอาลูกที่บ้านแม่ และเกิดการกระทบกระทั่งกัน สามีทำร้ายแม่ของตนเอง
ล่าสุด วันที่ 31 ม.ค. 2568 สามีเลิกงานไว จึงไปรับลูกที่บ้านของตน เพื่อมานอนด้วยในค่าย ถึงได้มีปากเสียงกับแม่อีกครั้ง โต้เถียงกันไปมา จนสามีเข้าไปทำร้ายร่างกายแม่ของตนต่อหน้าลูกคนเล็ก ทั้งๆที่แม่ของตนช่วยเลี้ยงดูลูกมาตั้งแต่เกิด สามีได้ต่อยที่ศีรษะแม่จนเลือดอาบ จากนั้นได้อุ้มลูกออกไป
ตั้งแต่วันนั้นที่สามีไปเอาลูกออกไป ตนพยายามติดต่อไปหาสามี แต่ก็ติดต่อไม่ได้ ตนไม่รู้จะทำยังไง จึงขอความช่วยเหลือจากทีมงานเป็นหนึ่ง รวมทั้งก่อนหน้านี้ ผอ.กองที่ค่าย โทรมาบอก ว่าไม่ต้องมาร้องเรียนที่กระทรวงกลาโหม บอกว่าเดี๋ยวย้ายสามีไปโคราชคืนนี้ นักข่าวหิวแสง ไม่ช่วยอะไรหรอก ซึ่งตนไม่ยอม จึงตัดสินใจมาร้องในวันนี้
โดยมี พ.อ.ณัฐวัฒน์ พรมฝาย หน.ศรท.กห หัวหน้าศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ รับคำร้อง เพื่อเสนอผู้บังคับบัญชาต่อไป