
6 กุมภาพันธ์ เมื่อช่วงกลางดึก(วันที่ 5 ก.พ.68) ร.ต.อ.ชาย พลศรี พงส.สภ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งเหตุว่า
มีชายคุ้มคลั่งก่อนเหตุใช้มีดแทงแม่ และยังไล่แทงชาวบ้าน เหตุเกิดภายในชุมชน 40 ห้องซอยดิเรก แยกจากซอยสุขสวัสดิ์ 70 แยก 7 ตำบล บางครุ อ.พระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ
จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.ประภาส มั่งคั่ง รอง.ผบก. จ.สมุทรปราการ ปฏิบัติราชการแทน ผกก.สภ.พระประแดง เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจ ป้องกันและปราบปราม แพทย์เวรโรงพยาบาลบางจาก และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุบริเวณใต้ถุนบ้านบ้านหลังหนึ่ง ในย่าน ต.บางครุ พบร่างของ นางสมร อายุ 67 ปี นอนหงายจมกองเลือดอยู่สภาพมีบาดแผลถูกของคมมีดปลายแหลมแทงเข้าที่ลำคอลายแห่ง รวมถึงใบหน้ายังมีบาดแผลฉกรรจ์จากคมมีดอีกด้วย
เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยกันเร่งปฐมพยาบาลโดยทำ CPR เพื่อยื้อชีวิตนานกว่า 20 นาที แต่สุดท้ายไม่เป็นผลเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ส่วนผู้ก่อเหตุทราบว่า คือ นายศุภชัย อายุ 40 ปี เป็นบุตรชายแท้ๆของผู้ตาย ซึ่งหลังก่อเหตุใช้มีดคัตเตอร์แทงแม่ตัวเองจนเสียชีวิตแล้ว
ได้หลบหนีวิ่งไล่แทงลูกชายวัย 19 ปี ของตัวเองและชาวบ้านในละแวกที่เกิดเหตุ
แต่สุดท้ายถูกชาวบ้านและตำรวจช่วยกันล้อมจับกุมตัวเอาไว้ได้ภายในบ้านหลังหนึ่ง หลังผู้ก่อเหตุได้เข้าไปหลบในห้องน้ำ
พร้อมยังพบของกลางเป็นมีดคัตเตอร์เปื้อนเลือดและยาบ้าจำนวน 2 เม็ด
ซึ่งในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับคุมเจ้าตัวยังอยู่ในอาการคุ้มคลั่ง ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องจับตัวนอนคว่ำเอามือไพร่หลัง เพื่อพันธนาการล็อกตัวขึ้นเปลของเจ้าหน้าที่กู้ภัยเพื่อนำตัวไปยังสถานีตำรวจ เนื่องจากเกรงว่าผู้ต้องหาจะถูกชาวบ้านรุมประชาทัณฑ์
แต่ในระหว่างที่นำตัวผู้ต้องหารายนี้อกมาขึ้นรถพบว่าเกิดการชุลมุนกันเล็กน้อยเมื่อชาวบ้านที่ทราบข่าวมารอดูหน้าผู้ก่อเหตุแลพยามเข้ารุมประชาทัณฑ์จนตำรวจต้องกันตัวและรีบนำตัวขึ้นรถออกจากที่เกิดเหตุไป
ส่วนที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ปิดกั้นพื้นที่เพื่อตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมกับเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และแพทย์เวรจากโรงพยาบาลบางจาก ซึ่งในที่เกิดเหตุยังพบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 1 นาย
ทราบชื่อ จ.ส.ต. รัตนนท์ อินตา อายุ 34 ปี ผบ.หมู่. สส.สภ.พระประแดง ถูกปืนไฟฟ้าช๊อตเข้าบริเวณกลางหลัง ตอนเข้าไปจับกุมผู้ก่อเหตุ
สอบถาม นายนภัสกร แสงกัน 19 ปี ลูกชายผู้ก่อเหตุ เล่าให้ฟังว่า ขณะเกิดเหตุตนเองได้อาศัยอยู่ที่บ้านพักหลังติดกันโดยได้ยินเสียงพ่อซึ่งเป็น(ผู้ก่อเหตุ) ทะเลาะวิวาทโวยวายกับแม่ จากนั้นแม่ของผู้ก่อเหตุได้เข้ามาห้าม ตนเองเห็นว่าทะเลาะกันรุนแรงจึงวิ่งไปหายายพบยายนอนแน่นิ่งจมกองเลือดอยู่ใต้ถุนบ้าน ตนจึงรีบวิ่งไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้าน
โดยพ่อของตนเองไม่ได้มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง เคยติดคุกคดียาเสพติดมาหลายรอบแล้ว ล่าสุดเพิ่งออกมาได้ 3 เดือน แต่ยังไม่เลิกสักทีโดย หลังก่อเหตุพ่อได้วิ่งหลบหนีไปพร้อมกับน้องชายคนเล็กที่อายุ 12 ปี คาดว่าน่าจะเอาไปเป็นตัวประกัน ส่วนแม่ของตนเองวิ่งหลบหนีเพื่อเอาชีวิตรอด
ด้าน นางกิ่ง อายุ 65 ปี เพื่อนบ้านผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตนเองเห็นเหตุการณ์ตนผู้ก่อเหตุทะเลาะกับเมียเลยได้เข้าไปห้ามผู้ก่อเหตุว่าพอแล้วๆ จากนั้นแม่ของผู้ก่อเหตุ ได้เข้าไปห้ามและผู้ก่อเหตุได้พูดว่า มึงจะเอายังไงกับกู และได้ยินเสียงเก้าอี้ฟาดมาที่ตัวของแม่ผู้ก่อเหตุอยู่หลายครั้ง ตนเองจึงหันไปและเห็นคนเจ็บล้มลงไปนั่ง และพยายามลุกขึ้น แต่ผู้ก่อเหตุได้เอาเก้าอี้ตัวใหญ่ฟาด ซึ่งถ้าเป็นตัวเองคงตายเพราะโดนไปหลายที
ต่อมาผู้ก่อเหตุน่าจะวิ่งกลับมาอีกรอบและได้เอามีดไปกรีดแม่ของตนเอง ส่วนสาเหตุตนเองคาดว่าน่าจะมาจากปัญหาครอบครัวซึ่งทะเลาะกับเมีย และคนตายที่เป็นแม่ได้เข้าไปห้าม โดยผู้ก่อเหตุเป็นคนขี้เกียจและทะเลาะกับภรรยาอยู่บ่อยครั้ง โดยผู้ก่อเหตุได้เข้าและออกคุกมาหลายครั้งแล้ว
จากการสอบสวน นายศุภชัย ผู้ก่อเหตุ พูดจาวกไปวนมาพอจับใจความได้บ้างทราบว่า ตนเองมีอาชีพรับจ้างทั่วไปและขับรถรถจักรยานยนต์รับจ้างอยู่บริเวณหน้าปากทางหมู่บ้านของตนเอง
เคยติดคุกในคดีเสพยาเสพติดมาแล้ว 3 ครั้ง ล่าสุดเพิ่งพ้นโทษมาเมื่อ 3 เดือนก่อน วันนี้ก่อนเกิดเหตุ ตนเองและภรรยาได้มีปากเสียงกันเนื่องจาก ไม่ได้กินข้าวมาหลายวัน
ตนเองถูกแม่ยายด่าทุกวันจึงทำให้ทนไม่ไหว จากนั้นจึงได้นำมีดมาแทงแม่ยายของตน ส่วนเมียถูกผีเข้า บ้านหลังที่ตนเองอยู่มีแต่ผี
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวผู้ก่อเหตุไปดำเนินคดีตามกฏหมาย ส่วนร่างผู้เสียชีวิตให้เจ้าหน้าที่มูลนิธินำส่งสถาบันนิติเวชเพื่อผ่าพิสูจน์ต่อไป