จากกรณี นช.วสันต์ อบนวล อายุ 32 ปี ผู้ต้องขังคดีวิ่งราวทรัพย์ ต้องโทษจำคุก 1 ปี 12 เดือน รับโทษมาแล้ว 9 เดือน เหลือ 1 ปี 3 เดือนจะพ้นโทษ ได้หลบหนีไปจากบริเวณงานก่อสร้างพิพิธภัณฑ์กรมราชทัณฑ์ หลังจากได้เบิกตัวจากเรือนจำจังหวัดนนทบุรี เพื่อมาช่วยทำงานตั้งแต่ 08.00 น. จนกระทั่งเวลาพักเที่ยง ทางเจ้าหน้าที่เรือนจำทราบว่า นช.วสันต์ ได้หลบหนีไป จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี ขอกำลังลงพื้นที่เร่งติดตามตัวนักโทษชายที่หลบหนีรายนี้ เหตุเกิดเมื่อวานนี้ ( 3 ก.พ.2568)
4 กุมภาพันธ์ 2568 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ ไปพบนางอ๋อย อายุ 51 ปี มารดาของนักโทษชายวสันต์ เปิดเผยว่า วันนี้เจ้าหน้าที่เรือนจำเชิญไปสอบถามข้อมูล เนื่องลูกชายที่หลบหนีได้กลับมาบ้าน ตนก็ตอบไปตามความจริง ว่าเขานั่งแท็กซี่มาขอเงิน โดยลูกบอกว่าจะไปศาลเพื่อติดกำไลEM แล้วก็ขอยืมกุญแจรถ จยย.ไป โดยบอกว่าจะขี่ไปศาลเดี๋ยวกลับมา ซึ่งตนก็ดูว่าลูกชายดูรีบๆ ซึ่งปกติเขาก็เป็นคนแบบนี้ลุกลี้ลุกลน ตนก็ไม่ได้สงสัยอะไร และตนก็ไม่ได้รู้เห็นเป็นใจกับลูก
ส่วนเส้นทางที่เขาหลบหนี ตนก็ไม่รู้เรื่อง เพราะตนอยู่แต่กับบ้าน รถจยย.ที่เขาเอาไปเป็นของพ่อ ส่วนโทรศัพท์เป็นของแม่ เขามาบอกว่า "ขอยืมแปปเดียวไปศาล เพราะศาลนัด 13.00 น." ตอนนี้ติดต่อลูกไม่ได้ โทรไม่ รับไลน์ก็ไม่อ่าน ตนเป็นห่วงลูกอยากให้เขากลับมามอบตัว โทษหนักจะได้กลายเป็นเบา เขาเป็นนักโทษชั้นดีเหลืออีกแค่ปีเดียวก็จะได้ออกมาแล้ว ปกติตนก็ไปเยี่ยมทุกอาทิตย์ ซึ่งเขาก็ดูปกติไม่ได้มีท่าทีว่าจะหลบหนี
"ส่วนสาเหตุ ตนคิดว่าน่าจะมาจากเขาทราบว่า น.ส.ไอซ์ อายุ 32 ปี แฟนสาวที่เคยอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้กับย้ายออกจากบ้านตนไปมีแฟนใหม่ ตั้งแต่ก่อนปีใหม่ พอลูกชายตนรู้เรื่องจากเพื่อนที่ถูกจับเข้าไปข้างในบอกเขา ตนกลัวว่าที่เขาออกมาจะไปหาแฟนจนมีเรื่องทะเลาะกัน เพราะลูกชายอารมณ์ร้อน ตนอยากฝากบอกให้ลูกกลับมามอบตัว โทษหนักจะได้เบาลง พ่อกับแม่เป็นห่วง ทำอะไรให้นึกถึงพ่อแม่บ้าง ผู้หญิงมีเยอะหาเอาใหม่"
ทางด้านนายเอ็ม บิดาของนักโทษ วสันต์ กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (3 ก.พ.2568) มีเพื่อนโทรมาบอกว่าลูกชายตนหลบหนีจากเรือนจำ ตนก็ใจคอไม่ดี ตอนแรกคิดว่าเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรมาหลอก ตนจึงเดินทางไปที่เรือนจำเพื่อสอบถามข้อเท็จจริง ตนพยายามโทรหาแฟนติดต่อไม่ได้ จึงให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดูที่บ้าน แล้วตนพาเจ้าหน้าที่เรือนจำมาที่บ้าน จึงทราบว่าลูกชายได้หลบหนีแล้วนั่งแท็กซี่มาที่บ้าน มาขอเงินจ่ายค่าแท็กซี่กับแม่เขา และเอารถ จยย.กับโทรศัพท์ไปด้วย
ตนได้พยายามโทรไปที่มือถือที่ลูกขายตนเอาไปด้วย แต่เขาไม่รับสาย ตนจึงได้ส่งไลน์ข้อความไปฝากไว้ให้เขามอบตัว เพราะตนอดเป็นห่วงไม่ได้ แต่เขาก็ไม่เปิดอ่านข้อความ ต่อมาตนจึงโทรไปบอกลูกสาวด้วยว่า ถ้าพี่มาขอเงินอย่าให้ เพราะเขาหนีจากเรือนจำมา
ส่วนสาเหตุที่เขาทำเช่นนี้น่าจะเป็นเรื่องแฟนเขาที่ไปมีแฟนใหม่ ตนเคยถามเคยบอกลูกชายไปแล้ว เขาก็บอกตนว่า "เขาทำใจได้" แต่ไม่รู้อะไรดลใจให้เขาทำแบบนี้ เวลาตนไปเยี่ยมลูกชายก็ดูแจ่มใส่คุยดี ที่ผ่านมาแม้ว่าลูกจะถูกคุมขัง ตนก็ไม่เคยทิ้งลูก ตอนที่ลูกมาบอกว่า จะได้ออกไปทำงานสาธารณะข้างนอก ตนยังดีใจอยู่เลย ว่าลูกชายเป็นนักโทษชั้นดีแล้ว จึงได้ออกมาทำงานข้างนอก คงเหลือโทษจำคุกอีกไม่มากก็จะพ้นโทษแล้ว ไม่น่ามาหลบหนีแบบนี้เลย ตนอยากให้ลูกชายที่ดูข่าวติดต่อมอบตัวเพราะจากโทษหนักจะได้กลายเป็นโทษเบา ตนเป็นห่วงเขามากเพราะเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของครอบครัว