
31 มกราคม 2568 ความคืบกรณีที่วันนี้ ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำสั่ง ในคำร้องขอปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ 2 - 3 คดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง บริษัท เคทูเอ็น โกลด์ จำกัด โดย นายกานต์พล เรืองอร่าม หรือ ป๋าเบียร์ , นางสาวกรกนก สุวรรณบุตร หรือ เเม่ตั๊ก เป็นจำเลยที่ 1 - 3 ฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน , ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน , ร่วมกันโฆษณาโดยใช้ข้อความที่เป็นการไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค
ซึ่งต่อมาศาลอาญา ให้ประกัน "เเม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์" วงเงิน 2 ล้านบาท หลังนอนคุก 4 เดือน มีเงื่อนไขติดกำไลอีเอ็ม ห้ามออกนอกประเทศ
ล่าสุด เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา นางสาวกรกนก หรือ แม่ตั๊ก จำเลยที่ 3 ได้เดินทางออกจากทัณฑสถานหญิงกลาง และ นายกานต์พล หรือ ป๋าเบียร์ จำเลยที่ 2 ได้เดินทางออกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร โดยนั่งรถยนต์หรูอัลพาร์ดกลับออกไป หลังศาลอาญา มีคำสั่งพิจารณาประกันตัว พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามจำเลยที่ 2 และที่ 3 นำข้อมูลเกี่ยวกับคดีนี้ออกสื่อสังคมออนไลน์และทุกช่องทางการสื่อสาร ห้ามมิให้จำเลยที่ 2 และที่ 3 กระทำการใดๆ ที่จะเป็นอุปสรรคหรือก่อให้เกิดความเสียหายแก่การดำเนินคดีในศาล
และเพื่อป้องกันไม่ให้จำเลยที่ 2 และที่ 3 หลบหนี จึงให้ติดอุปกรณ์กำไลอิเล็กทรอนิกส์ (EM) ติดตามตัว และนำหนังสือเดินทางประเทศที่ยังไม่หมดอายุมาวางศาล หากผิดเงื่อนไขศาลจะพิจารณาเพิกถอนคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว และห้ามจำเลยที่ 2 และที่ 3 เดินทางออกนอกประเทศ โดยให้แจ้งคำสั่งกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองทราบโดยเร็ว
โดยก่อนหน้านี้ทนายความของทั้ง 2 คน ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวชั้นพิจารณา โดยศาลอาญา มีคำสั่งว่าพิเคราะห์แล้วข้อหาที่จำเลยที่ 2 และที่ 3 ถูกฟ้องมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ระหว่างสอบสวนจำเลยที่ 2 และที่ 3 ถูกขังมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว ทั้งนำเงินมาวางศาลเพื่อบรรเทาความเสียหายเต็มตามฟ้อง ผู้เสียหายมีเพียง 36 คน พฤติการณ์แห่งคดีเปลี่ยนแปลงไป
เมื่อปรากฏว่าจำเลยที่ 2 และที่ 3 มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง และวางหลักประกันเป็นเงินสดคนละ 2 ล้านบาท อีกทั้งยินยอมปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ศาลกำหนด หากได้รับอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวเชื่อว่าจะไม่หลบหนี จึงมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ 2 และที่ 3 ระหว่างพิจารณา
ด้าน นายรัฐวิชญ์ อริยพัชญ์พล โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวถึงหลักการที่เกี่ยวกับการพิจารณาสั่งประกัน แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์ ว่า โดยหลักแล้วสิทธิในการได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างพิจารณา เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญ โดยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 29 วรรคสอง รับรองสิทธิในการได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างพิจารณาไว้ว่า “ในคดีอาญา ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหาหรือจําเลยไม่มีความผิด และก่อนมีคําพิพากษาอันถึงที่สุดจะปฏิบัติต่อบุคคลนั้นเสมือนเป็นผู้กระทําความผิดมิได้” ซึ่งหลักการนี้ก็ปรากฏอยู่ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาคดีอาญา มาตรา 107 ที่บัญญัติรับรองไว้อย่างชัดแจ้งว่า ผู้ต้องหาหรือจำเลยทุกคนพึงได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว
เว้นแต่กรณีใดที่มีข้อเท็จจริงเฉพาะเรื่อง ที่อาจกระทบต่อความปลอดภัยของสังคม หรือความต่อเนื่องของการดำเนินคดี กฎหมายจึงจะเปิดช่องให้มีการคุมขังระหว่างพิจารณาไว้อย่างจำกัด นอกจากนี้ การสั่งปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างพิจารณาของศาลยุติธรรมในปัจจุบัน ยังให้ความสำคัญกับการนำมาตรการทางเลือกมาใช้ แทนการนำเงินสดหรือหลักประกันมาวางศาล เช่น มาตรการตั้งผู้กำกับดูแล หรือการนำกำไลอิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว “EM” (Electronic Monitoring) เพื่อเพิ่มทางเลือกให้แก่ประชาชน และลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ ที่อาจเกิดขึ้นระหว่างผู้ต้องหาหรือจำเลยที่มีฐานะทางเศรษฐกิจแตกต่างกัน ให้สามารถเข้าถึงสิทธิในการได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างพิจารณาอย่างเท่าเทียมกัน อันเป็นมาตรการตามนโยบายของประธานศาลฎีกา ที่มุ่งสร้างสมดุลและอำนวยความยุติธรรม เพื่อคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนและความมั่นคงปลอดภัยของสังคมไปพร้อมกัน