อดีตสามีหึงโหด ควงปืนบุกบ้านสางแค้น โดนชายคนใหม่ของอดีตภรรยา รัวยิงดับ

27 มกราคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากลางดึก วันที่ 26 มกราคม 2568 พ.ต.ท.วุฒิ พุฒิพานนท์ สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้บาดเจ็บสาหัส บริเวณบ้านพัก ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต.แพรกษาใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ

 

หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อม พ.ต.อ.นพดล ช่างเรือน ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพเทศบาลเมืองแพรกษาใหม่ และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลสมุทรปราการ

 

ที่เกิดเหตุ เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น บริเวณลานจอดรถ พบนายสมเกียรติ อายุ 42 ปี นอนหมดสติหายใจรวยรินอยู่ที่พื้น มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่กลางหน้าอก 1 นัด แขนขวา 1 นัด และข้อมือซ้าย 1 นัด รวม 3 นัด เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือปั๊มหัวใจ นำส่งโรงพยาบาลเปาโลสมุทรปราการ แต่เนื่องจากผู้บาดเจ็บมีอาการสาหัส จึงเสียชีวิตในเวลาต่อมา

 

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบอาวุธปืนกึ่งออโตเมติก ขนาด 9 มม. ตกอยู่ 1 กระบอก ภายในมีกระสุนคารังเพิง และกระสุนบรรจุอยู่เต็มแม็กกาซีน และพบ ปลอกกระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 6 ปลอก และหัวกระสุน ขนาด 9 มม. จำนวน 2 หัว ตกเกลื่อนถนนรอบบ้านที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงปิดกั้นพื้นที่ เพื่อรอเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุอีกครั้ง ส่วนผู้ก่อเหตุทราบว่า หลังก่อเหตุได้ขับรถยนต์หลบหนีไป

 

นายวัชรพงษ์ แข่งขัน เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพเทศบาลเมืองแพรกษาใหม่ กล่าวว่า มาถึงเห็นผู้บาดเจ็บนอนอยู่หน้าบ้าน มีบาดแผลถูกยิงที่หน้าอกและแขน จึงได้ทำการปั๊มหัวใจ เพราะจับชีพจรแล้วไม่มี เบื้องต้นได้รับแจ้งจากญาติผู้บาดเจ็บว่า ผู้บาดเจ็บทะเลาะวิวาทกับอีกฝ่าย และมีการจะใช้อาวุธปืนยิง แต่โดนอีกฝ่ายยิงใส่ก่อน และขับรถยนต์หลบหนีไป

 

ขณะที่ นายโสรส เพื่อนบ้านผู้เสียชีวิต บ้านพักอยู่ฝั่งตรงข้าม ให้ข้อมูลว่า ขณะนั่งทำงานอยู่ แต่ได้ยินเสียง นึกว่าจุดประทัดไม่ต่ำกว่า 6 นัด แต่ไม่ได้ยินเสียงทะเลาะกัน ปกติเขาจะจุดประทัดในช่วงเทศกาลเป็นประจำ ไม่แน่ใจว่าสาเหตุเกิดจากอะไร เพราะต่างคนต่างอยู่ จึงนั่งทำงานต่อตามปกติ กว่าจะออกมาเห็นว่ามีคนถูกยิง ก็ผ่านไปประมาณ 3 นาที

 

 

ทั้งนี้ เวลาเที่ยงคืนเศษ นายฐิติวัชร์ อายุ 29 ปี ผู้ก่อเหตุ ได้ติดต่อขอมอบตัวกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองสมุทรปราการ โดยจอดรถรอที่หน้าหมู่บ้านที่เกิดเหตุ จากนั้น พ.ต.อ.นพดล ช่างเรือน ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ และฝ่ายสืบสวน จึงขี่รถจยย. ออกไปรับตัวเข้ามาในที่เกิดเหตุ โดย นายฐิติวัชร์ นั่งซ้อนท้ายรถจยย. ของ พ.ต.อ.นพดล

 

ส่วนรถยนต์ยี่ห้อ โตโยต้า อัลติส สีขาว ที่ นายฐิติวัชร์ ขับหลบหนี มีญาติขับตามหลังมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจค้นรถ พบอาวุธปืนกึ่งออโตเมติกขนาด 9 มม. ถูกเก็บอยู่ในลิ้นชักหน้ารถฝั่งซ้าย จากการตรวจสอบพบว่า มีกระสุนบรรจุอยู่ 2 นัด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะคุมตัว นายฐิติวัชร์ ไปสอบสวนเพิ่มเติมภายในบ้านพัก

 

 

สอบสวน นายฐิติวัชร์ รับสารภาพว่า ใช้อาวุธปืนกึ่งออโตเมติกขนาด 9  มม. ยิงใส่อดีตสามีของแฟนสาวจริง โดยอ้างว่าก่อนเกิดเหตุกลับมาถึงบ้านกับแฟนสาว ระหว่างนั้น สามีเก่าของแฟนสาวลงมาจากรถกระบะ แล้วเดินเข้ามาหาตน โดยถืออาวุธปืนมาด้วย แต่แฟนสาวได้เข้าห้ามและกันไว้

 

คู่กรณีได้เดินวนหลบแฟนสาว พร้อมกับขึ้นลำกล้องปืน จังหวะนั้นตนซึ่งอยู่ข้างรถจึงเปิดประตูหยิบปืนที่อยู่ในกระเป่าสะพาย วางที่เบาะด้านหลัง ชักออกมารัวยิงสวนกลับไป

 

 

ตอนนั้นจำไม่ได้ว่ายิงไปกี่นัดเพราะตกใจและป้องกันตัว แต่ทราบว่ายิงถูกคู่กรณี หลังเกิดเหตุด้วยความตกใจ จึงรีบขับหลบออกมา พอตั้งสติได้จึงตัดสินใจเข้ามอบตัวพร้อมกับอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ

 

ขณะที่ พ.ต.อ.นพดล ช่างเรือง ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ เปิดเผยว่า ขณะนี้อดีตสามี คือ นายสมเกียรติ  เสียชีวิตแล้วที่โรงพยาบาล ซึ่งจากการสอบสวนพยานแวดล้อมในที่เกิดเหตุ ทราบว่า ตัวของผู้เสียชีวิตเป็นสามีเก่าของ นางสาวจุฑาพร อายุประมาณ 40 ปี เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ ทราบว่าได้เลิกลากันไปราวเดือนเศษ

 

ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นแฟนใหม่ และเพิ่งคบหากันได้ไม่นาน ใช้อาวุธปืนก่อเหตุยิงสามีเก่า และได้หลบหนีไป

 

 

จากการสอบถามในส่วนของพยานคือ เจ้าของบ้าน ยืนยันว่า ผู้ก่อเหตุกับผู้เสียชีวิตขับรถเข้ามาที่บ้านในเวลาไล่เลี่ยกัน ผู้เสียชีวิตได้ชักอาวุธปืนเตรียมลงมือยิง ผู้ก่อเหตุจึงยิงสวนออกไป ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังพิสูจน์ว่า ผู้เสียชีวิตใช้อาวุธปืนยิงแล้วหรือไม่ ตอนนี้อยู่ในส่วนของการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ รวมถึงตรวจสอบพยานแวดล้อมต่างๆ

 

ทั้งนี้พบว่าผู้ก่อเหตุ ใช้อาวุธปืนยิงออกไป 6 นัด ขณะที่การตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบอาวุธปืน 2 กระบอก และปลอกกระสุนที่ใช้งานแล้ว 7 นัด ตกอยู่ ผู้ก่อเหตุอ้างว่าตกใจ และเป็นการป้องกันตัว เพราะผู้เสียชีวิตขึ้นลำปืน แล้วจ่อปืนมาที่เขา จึงนำอาวุธปืนออกมาก่อเหตุ

 

 

โดยอาวุธปืน ทั้ง 2 กระบอกมีทะเบียน และครอบครองอย่างถูกต้อง เบื้องต้นจะมีการแจ้งข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา , พกพาอาวุธปืน , ยิงปืนในที่สาธารณะ และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ชมคลิปข่าว