
30 ธันวาคม 2567 จากกรณีไฟไหม้โรงแรม ย่านถนนข้าวสาร ตั้งอยู่ริมถนนตานี แขวงตลาดยอด เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร เกิดกลุ่มควันที่บริเวณชั้น 5 ภายในโรงแรมดังกล่าวมีพนักงานและนักท่องเที่ยวติดค้างอยู่จำนวนมาก
เจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร ต้องใช้รถกระเช้า 3 คัน ลำเลียงผู้ประสบภัยลงมา กระทั่งควบคุมเพลิงได้ พบว่ามีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ 3 ราย โดยเป็นการเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย และไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลอีก 2 ราย ตามข่าวที่เสนอไปก่อนหน้านี้
นายเจฟ จอห์นสัน (Mr.Jeff Johnson) อายุ 34 ปี ชาวสหรัฐอเมริกา ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์เพลิงไหม้โรงแรมย่านข้าวสาร ถนนตานี เมื่อคืนนี้ เล่าว่า ตัวเองเดินทางมาที่ประเทศไทย ได้ 2 สัปดาห์แล้ว เป็นการมาครั้งที่ 2 โดยมาพักกับเพื่อนที่โรงแรมนี้ ห้องพักอยู่ที่ชั้น 4 ตอนนั้นได้กลิ่นควัน แต่คิดว่าเป็นควันบุหรี่ จึงเปิดประตูและหน้าต่างออกมาดู
เมื่อออกมาเห็นควันเป็นจำนวนมาก ตนกับเพื่อนจึงได้หนีขึ้นไปที่ชั้นดาดฟ้า ซึ่งทันทีที่ขึ้นไปก็เห็นว่ามีผู้หลบอยู่บนดาดฟ้าประมาณ 40 กว่าคนได้ ทุกคนอยู่ในสภาพที่หวาดกลัวอย่างมาก อีกทั้งยังเห็นคนที่กระโดดลงมาจากตึก ซึ่งตนและเพื่อนก็ไม่กล้าที่กระโดด เพราะกลัวได้รับอันตราย
หลังจากนั้นไม่นาน เจ้าหน้าที่กู้ภัยของไทยก็เข้ามาอย่างรวดเร็วและให้ความช่วยเหลือด้วยการนั่งกระเช้าเครนลงมาจากด้านล่าง ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ดับเพลิงรวมถึงเจ้าหน้าที่กู้ภัยของไทยที่เข้ามาช่วยได้ทันเวลา ทำให้หนีเอาตัวรอดจากเหตุการณ์ไฟไหม้ได้ เพราะตอนนั้นกลัวมากและสำลักควัน
เมื่อถามถึงความกังวลหลังจากเหตุการณ์เพลิงไหม้ นายเจฟบอกว่า ส่วนตัวไม่ได้กังวลกับความปลอดภัยและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แน่นอนว่าเมื่อคืนมีความหวาดกลัวและตกใจ แต่ตอนนี้รู้สึกสบายใจมากขึ้น ซึ่งตนรักประเทศไทย และยังคงจะมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทยต่อไป
ขณะที่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่ากทม. พร้อมด้วยนายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่ากทม. นายโกศล สิงหนาท ผอ.เขตพระนคร ฝ่ายวิศวกรโยธากรุงเทพ พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก.สน.ชนะสงคราม เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่ตรวจสอบอาคารที่เกิดเหตุ
นายชัชชาติ กล่าวว่า ต้นเพลิงคาดว่ามาจากชั้น 5 ห้องหมายเลข 511 แต่ยังไม่สามารถระบุสาเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ได้แน่ชัด เบื้องต้นเท่าที่ตรวจสอบ พบว่าอาคารดังกล่าวเป็นอาคารดัดแปลงจำนวน 11 ห้องแถว พื้นที่รวมประมาณ 1,500 ตารางเมตร มีการขอยื่นใบอนุญาตเมื่อปี 2563 ซึ่งเป็นช่วงหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 แล้วเปิดบริการให้บริการ เดือน เม.ย.65
จากการตรวจสอบทางหนีไฟเบื้องต้น พบว่ามีทางหนีไฟ 2 จุด มีถังดับเพลิงติดตั้ง ตามจุดต่างๆครบถ้วน แต่อาคารหลังนี้ไม่เข้าเกณฑ์ที่จะติดตั้งสปริงเกอร์ เนื่องจากเป็นอาคารขนาดไม่ใหญ่มาก ส่วนสัญญาณเตือนต่างๆติดตั้งได้มาตรฐาน
อย่างไรก็ตามสาเหตุเพลิงไหม้ต้องรอความชัดเจนจากฝั่งวิศวกรและพิสูจน์หลักฐานถึงสาเหตุเพลิงไหม้ที่แน่ชัด
สำหรับยอดผู้เสียชีวิตยืนยันอยู่ที่ 3 ราย เป็นผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย เพศหญิง สัญชาติบราซิล เพิ่งถูกแฟนขอแต่งงาน เมื่อสัปดาห์ที่แล้วและเดินทางมาเที่ยวด้วยกันแต่แฟนหนุ่มรอดชีวิต และเสียชีวิตที่โรงพยาบาล 2 ราย เป็นเพศชายทั้งคู่ เสียชีวิตที่วชิรพยาบาลและโรงพยาบาลสมิติเวช ไชน่าทาวน์
ส่วนยอดผู้บาดเจ็บเบื้องต้นมีทั้งหมด 5 ราย แบ่งเป็นบาดเจ็บเล็กน้อย 1 ราย เพศชาย ไม่ประสงค์ไปโรงพยาบาล ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย เป็นชาย 1 ราย สัญชาติแคนาดากระดูกซี่โครงหัก หญิง 1 รายมีอาการสำลักควัน ทั้งคู่นำส่งโรงพยาบาลกลาง และได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย เป็นชาย 1 ราย ส่งโรงพยาบาลกลาง กับหญิง 1 ราย ส่งโรงพยาบาลหัวเฉียว
นายชัชชาติ กล่าวต่อว่า เหตุการณ์เมื่อคืนมีผู้เข้าพัก 75 คน หนีขึ้นไปบนชั้นดาดฟ้า 34 คน ทางกรุงเทพมหานครใช้รถกระเช้าช่วยลงมาได้ ส่วนผู้รอดชีวิตที่เหลือที่พักชั้นล่างหนีออกมาทางปกติได้ทัน
นอกจากนี้ยังเน้นย้ำในเรื่องมาตรการการรักษาความปลอดภัยไม่ว่าจะเป็นอาคารโรงแรม หรืออาคารพานิชย์ต่างๆรวมถึงร้านอาหารร้านค้ายิ่งในช่วงใกล้เทศกาลส่งท้ายปีเก่าที่อาจจะต้องมีการเฉลิมฉลองขอให้ทางผู้ประกอบการเจ้าของธุรกิจตรวจสอบในเรื่องของความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในระยะแรกที่จะสามารถเรียกความเชื่อมั่น ต้องให้ผู้ประกอบการไปตรวจสอบในเรื่องของสัญญาณเตือนและป้องกันอัคคีภัยให้ได้มาตรฐานและใช้งานได้จริง ส่วนระยะยาว ต้องแก้ไขในเรื่องของกฎหมายควบคุมวัสดุภายในอาคาร
นายอมร พิมานมาศ นายกสมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากการตรวจสอบโครงสร้างเบื้องต้นพบว่าจุดเกิดเหตุอยู่ที่ชั้น 5 ห้อง 511 เหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ไม่กระทบกระเทือนกับโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด โดยเพลิงลุกไหม้เฉพาะภายในห้องเท่านั้น ฝ้าคดงอ ปูนฉาบเพดาน และผนังห้องหลุดร่อนบางส่วน สายไฟแค่ฉนวนละลาย ทองแดงยังไม่ถึงจุดหลอมละลาย เหล็กโครงสร้างยังไม่เสียรูป จุดที่เสียหายมากที่สุดในห้องคือ เตียงนอน เพลิงเผาจนเหลือแต่สปริง ซึ่งคาดว่าจุดเกิดเหตุน่าจะอยู่บนเตียงนอน ซึ่งจะต้องรอผลการตรวจสอบอย่างแน่ชัด
ทั้งนี้มีรายงานว่า สำหรับผู้เสียชีวิตที่เป็นหญิงชาวบราซิลที่พบในห้องเกิดเหตุ ปกติพักอยู่กับแฟนหนุ่มที่ห้องซึ่งไม่ห่างกัน ซึ่งห้องเกิดเหตุหนุ่มเกาหลี 3 คนเป็นผู้พักอาศัย ช่วงเกิดเหตุไม่ได้อยู่ในห้อง ภายหลังเกิดเหตุสัญญาณเตือนเหตุเพลิงไหม้ดังขึ้นที่ชั้น 5 พนักงานจึงขึ้นไปตรวจสอบ แต่เมื่อเปิดเข้าไปในห้องพบกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาอย่างหนาแน่น โดยที่ไม่สามารถทำอะไรได้ พนักงานจึงวิ่งลงมาขอความช่วยเหลือด้านล่าง ส่วนผู้ที่พักชั้น 5 ต่างวิ่งหนีตายเอาตัวรอด
แฟนหนุ่มของผู้เสียชีวิตจูงมือกันวิ่งออกมา แต่กลุ่มควันหนาแน่นจนมองทางไม่เห็นทาง มือผู้ตายพลัดหลุดกับแฟนหนุ่ม คาดว่าผู้ตายจะใช้มือรูดผนังเพื่อคลำทาง แล้วไปเจอประตูห้อง 511เปิดทิ้งไว้ จึงคิดว่าเป็นทางออก เผลอเข้าไปจนเสียชีวิตดังกล่าว ส่วนแฟนหนุ่มวิ่งลงมาที่ชั้น 3 แล้วกระโดดลงมาทางด้านหลังโรงแรมได้รับบาดเจ็บ
สำหรับผู้เสียชีวิตอีก 2 ราย ที่โรงแรมสมิติเวช ไชน่าทาวน์ 1 ราย คาดว่าเป็นชาวอเมริกัน อีก 1 รายที่โรงพยาบาลวชิระ เป็นชาวยูเครน ซึ่งจะต้องรอประสานสถานทูตให้ติดต่อญาติมาเพื่อยืนยันชื่อที่แท้จริงต่อไป
ขณะนี้ฝ่ายสืบสวนกำลังติดตามตัวหนุ่มเกาหลีทั้ง3คนที่พักในห้องเกิดเหตุมาสอบสวนและตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดภายในเพื่อหาสาเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ต่อไป