เมื่อวันที่ 2 ต.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา นายไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ อัยการสูงสุด
มีคำสั่งสำนักงานอัยการสูงสุด ที่ 2259/2567
เรื่อง การมอบหมายและมอบอำนาจให้รองอัยการสูงสุดปฏิบัติราชการแทนอัยการสูงสุด จึงมอบหมายและมอบอำนาจ ให้รองอัยการสูงสุดปฏิบัติราชการแทนอัยการสูงสุด ดังต่อไปนี้
1.นายจุมพล พันธุ์สัมฤทธิ์ รองอัยการสูงสุด รับผิดชอบ
1.1 งานทั้งปวงของสำนักงานต่างประเทศ สำหรับงานคดีส่งผู้ร้ายข้ามแดน งานมอบผู้แทนเข้าร่วมประชุมในต่างประเทศ ให้เสนออัยการสูงสุดพิจารณาสั่งการ
1.2งานทั้งปวงของสำนักงานการสอบสวน สำหรับงานสอบสวนคดีความผิดนอกราชอาณาจักร ให้เสนออัยการสูงสุดพิจารณาสั่งการ
1.3 งานทั้งปวงของสถาบันนิติวัชร์
1.4งานทั้งปวงของสำนักงานวิชาการ
1.5งานอื่นที่ได้รับมอบหมาย
2.นายอิทธิพร แก้วทิพย์ รองอัยการสูงสุด รับผิดชอบ
2.1งานทั้งปวงของสำนักงานคณะกรรมการอัยการ ทั้งนี้ ให้เสนออัยการสูงสุดพิจารณาสั่งการ
2.2งานทั้งปวงของสำนักงานชี้ขาดคดีอัยการสูงสุด (ยกเว้นงานสั่งคดีชี้ขาดความเห็นแย้งที่อยู่ในความรับผิดชอบของผู้ว่าราชการจังหวัด หรือผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค) ทั้งนี้ ให้เสนออัยการสูงสุดพิจารณาสั่งการ
2.3 งานทั้งปวงของสำนักงานคดีกิจการอัยการสูงสุด (ยกเว้นงานคดีร้องขอความเป็นธรรม และงานคดีกลับความเห็นและคำสั่ง) สำหรับงานการขออนุญาตฟ้องให้เป็นไปตามที่อัยการสูงสุดได้มอบหมายไว้เป็นการเฉพาะตัวแล้ว และให้ลงนามรับทราบรายงานผลการอนุญาตฟ้องแทนอัยการสูงสุดได้
2.4 งานทั้งปวงของสำนักงานคดีอาญา สำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ สำนักงานคดีอาญาธนบุรี สำนักงานคดีอาญามีนบุรี สำนักงานคดีอาญาพระโขนง และสำนักงานคดีอาญาตลิ่งชัน
2.5 งานอื่นที่ได้รับมอบหมาย
3.นายอดิศร ไชยคุปต์ รองอัยการสูงสุด รับผิดชอบ
3.1งานของสำนักงานชี้ขาดคดีอัยการสูงสุด เฉพาะงานสั่งคดีชี้ขาดความเห็นแย้งที่อยู่ในความรับผิดชอบของผู้ว่าราชการจังหวัด หรือผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค ในท้องที่ของภาค1-3ทั้งนี้ ให้เสนออัยการสูงสุดพิจารณาสั่งการ
3.2งานของสำนักงานเลขาธิการสำนักงานอัยการสูงสุด เฉพาะงานของสำนักบริหารทรัพยากรบุคคล สำนักวินัยและระบบคุณธรรม และสำนักนิติการ ทั้งนี้ ให้เสนออัยการสูงสุดพิจารณาสั่งการ
3.3งานทั้งปวงของสำนักงานคดีศาลสูง และสำนักงกงานคดีศาลสูงภาค
3.4งานอื่นที่ได้รับมอบหมาย
4.นายจิระประวัติ แบบประเสริฐ รองอัยการสูงสุด รับผิดชอบ
4.1งานของสำนักงานชี้ขาดคดีอัยการสูงสุด เฉพาะงานสั่งคดีชี้ขาดความเห็นแย้งที่อยู่ใน ความรับผิดชอบของผู้ว่าราชการจังหวัด หรือผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค ในท้องที่ขอของภาค 7-9ทั้งนี้ ให้เสนออัยการสูงสุดพิจารณาสั่งการ
4.2 งานทั้งปวงของสำนักงานคดีอัยการสูงสุด (ยกเว้นงานสั่งคดีความผิดนอกราชอาณาจักรทีเกิดในท้องที่ของภาค) ทั้งนี้ ให้เสนออัยการสูงสุดพิจารณาสั่งการ
4.3 งานทั้งปวงของสำนักงานคดีศาลแขวง
4.4 งานทั้งปวงของสำนักงานคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและสำนักงานคดีล้มละลาย
4.5งานอื่นที่ได้รับมอบหมาย
5.นางกอร์ปกุล วินิจนัยภาค ผู้ตรวจการอัยการ รักษาการในตำแหน่ง รองอัยการสูงสุด รับผิดชอบ
5.1งานทั้งปวงของสถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายอัยการ
5.2 งานทั้งปวงของสำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน และสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัด ทั้งนี้ หากงานดังกล่าวเกี่ยวกับหรือต้องประสานงานกับสถาบันนิติวัชร์ ให้เสนออัยการสูงสุดพิจารณาสั่งการ
5.3งานทั้งปวงของสำนักงานคดีภาษีอากร
5.4 งานทั้งปวงของสำนักงานคดีเยาวชนและครอบครัว
5.5 งานอื่นที่ได้รับมอบหมาย
6.นายอธึก คล้ายสังข์ ผู้ตรวจการอัยการรักษาการในตำแหน่ง รองอัยการสูงสุด รับผิดชอบ
6.1 งานของสำนักงานชี้ขาดคดีอัยการสูงสุด เฉพาะงานสั่งคดีชี้ขาดความเห็นแย้งที่อยู่ในความรับผิดชอบของผู้ว่าราชการจังหวัด หรือผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค ในท้องที่ของภาค4-6ทั้งนี้ ให้เสนออัยการสูงสุดพิจารณาสั่งการ
6.2งานทั้งปวงของสำนักงานคดีค้ามนุษย์งานสอบสวนและงานสั่งคดีความผิดนอกราชอาณาจักร ให้เสนออัยการสูงสุดพิจารณาสั่งการ
6.3งานทั้งปวงของสำนักงานคดียาเสพติดสำหรับงานสอบสวนคดีความผิดนอกราชอาณาจักร ให้เสนออัยการสูงสุดพิจารณาสั่งการ
6.4 งานทั้งปวงของสำนักงานคดีเศรษฐกิจและทรัพยากรและสำนักงามคดีพิเศษ
6.5 งานคดีอาญาทั้งปวงในสำนักงานอัยการภาค และงานคดีความมั่นคงในพื้นพื้นที่พิเศษชายแดนภาคใต้ ตามประกาศสำนักงานอัยการสูงสุด เรื่อง กำหนดสำนักงานอัยการในพื้นพื้นที่พิเศษชายแดนภาคใต้
6.6 งานอื่นที่ได้รับมอบหมาย
7.นายศรุต รัฐรพี ผู้ตรวจการอัยการ รักษาการในตำแหน่ง รองอัยการสูงสุด รับผิดชอบ
7.1 งานทั้งปวงของสำนักงานการยุติการดำเนินคดีแพ่งและอนุญาโตตุลาการ สำหรับงานการยุติการดำเป็นคดีแพ่งที่มีทุนทรัพย์ตั้งแต่ 100ล้านบาทขึ้นไป ให้เสนอ
อัยการสูงสุดพิจารณาสั่งการ
7.2งานของสำนักงานคดีกิจการอัยการสูงสุด เฉพาะงานคดีร้องขอความเป็นธรรมและ งานคดีกลับความเห็นและคำสั่ง
7.3 งานทั้งปวงของสำนักงานคดีแพ่ง สำนักงานคดีแพ่งกรุงเทพใต้ สำนักงานคดีแพ่งธนบุรี สำนักงานคดีแพ่งมีนบุรีสำนักงานคดีแพ่งพระโขนง และสำนักงานคดีแพ่งตลิ่งชัน
7.4 งานทั้งปวงของสำนักงานคดีแรงงาน และสำนักงานคดีแรงงานภาค
7.5งานทั้งปวงของสำนักงานคดีปกครอง สำนักงานคดีปกครองระยอง สำนักงาน คดีปกครองนครราชสีมา สำนักงานคดีปกครองอุบลราชธานี สำนักงานคดีปกครองขอนแก่น สำนักงานคดีปกครองอุดรธานี สำนักงานคดีปกครองเชียงใหม่ สำนักงานคดีปกครองพิษณุโลก สำนักงานคดีปคดีปกครอง นครสวรรค์ สำนักงานคดีปกครองเพชรบุรีสำนักงกงานคดีปกครองสุพรรณบุรี สำนักงกงานคดีปกครองนครศรีศรีธรรมราช สำนักงานคดีปกครองภูเก็ตสำนักงานคดีปกครองสงขลา และสำนักงานคดีปกครองยะลา
7.6 งานอื่นที่ได้รับมอบหมาย
8.นายโชคชัย สินศุภรัตน์ ผู้ตรวจการอัยการ รักษาการในตำแหน่ง รองอัยการสูงสุด รับผิดชอบ
8.1 งานทั้งปวงของสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต ทั้งนี้ ให้เสนออัยการสูงสุดพิจารณาสั่งการ
8.2งานทั้งปวงของสำนักงานเลขาธิการสำนักงานอัยการสูงสุด (ยกเว้นงานของสำนักบริหาร
ทรัพยากรบุคคล สำนักวินัยและระบบคุณธรรม และสำนักนิติการ) ทั้งนี้ ให้เสนออัยการสูงสุดพิจารณาสั่งการ
8.3งานทั้งปวงของสำนักงานการบังคับคดี
8.4 งานอื่นที่ได้รับมอบหมาย
9.งานซึ่งได้มอบหมายและมอบอำนาจให้รองอัยการสูงสุดตามข้อ 1-8หมายถึงงานที่สำนักงานนั้น ๆ เสนอให้อัยการสูงสุดวินิจฉัยสั่งการ โดยในกรณีต่อไปนี้ ให้รองอัยการสูงสุดเสนอให้อัยการสูงสุดพิจารณาสั่งการ แล้วให้รองอัยการสูงสุดเป็นผู้ลงนามแทนอัยการสูงสุดในคำสั่ง ประกาศ และหนังสือที่ออกในเรื่องนั้น ๆ ได้
9.1กรณีได้กำหนดไว้เป็นอย่างอื่นตามคำสั่งนี้แล้ว
9.2การใดซึ่งต้องได้รับอนุมัติงบประมาณ
9.3การแต่งตั้งบุคคลเป็นผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสูงสุด การธนุญาตให้เป็นกรรมการ อนุกรรมการ คณะทำงาน ที่ปรึกษา การอนุญาตไปศึกษา ดูงาน ฝึกอบรม ณ ต่างประเทศ การอนุญาตให้เป็น อนุญาโตตุลาการ และการอนุญาตให้ไปช่วยราชการ
9.4งานซึ่งได้มอบหมายและมอบอำนาจที่เป็นนโยบายหรืองานสำคัญ
10.งานอื่นใดซึ่งเสนออัยการสูงสุดเพื่อทราบโดยไม่ต้องมีการวินิจฉัยสั่งการอย่างหนึ่งอย่างใดอีกให้รองอัยการสูงสุดลงนามรับทราบแทนอัยการสูงสุด
11.หากมีงานอยู่ในระหว่างพิจารณาสั่งการของรองอัยการสูงสุดซึ่งได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติราชการ
แทนอัยการสูงสุดก่อนคำสั่งนี้ออกใช้บังคับ ให้ดำเนินการต่อไปจนแล้วเสร็จ โดยให้อยู่ภายใต้บังคับของข้อ 9
12.ในกรณีรองอัยการสูงสุดคนหนึ่งคนใดไม่อยู่หรือไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ให้รองอัยการสูงสุดที่อยู่ปฏิบัติราชการและมีลำดับอาวุโสสูงสุดในขณะนั้นมีอำนาจปฏิบัติราชการแทน เว้นแต่อัยการสูงสุดจะมีคำสั่ง
เป็นอย่างอื่น
13.ในการปฏิบัติตามคำสั่งนี้ หากมีปัญหาหรือเป็นกรณีต้องออกคำสั่งสำนักงานอัยการสูงสุด หรืออัยการสูงสุดมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น ให้นำเสนออัยการสูงสูงสุดพิจารณา
อนึ่ง ในกรณีอัยการสูงสุดไม่อยู่หรือไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ให้รองอัยการสูงสุดอาวุโสตามลำดับ
เป็นผู้รักษาราชการแทนอัยการสูงสุด เว้นแต่อัยการสูงสุดจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2567เป็นต้นไป