จากเหตุการณ์ญาติร่ำไห้ระงม หลังพบร่าง น.ส.ฐิติรัตน์ (สงวนนามสกุล) หรือกะทิ อายุ 47 ปี สาวทอมรุ่นใหญ่ ถูกลวงไปฆ่าชิงเก๋งยี่ห้อ "เอ็มจี" ใช้สายชาร์จมือถือรัดคอ หมกศพขึ้นอืด ในร่องน้ำริมถนนย่านนครชัยศรี เผยเป็นไดรเวอร์ขับรถรับส่งผู้โดนสารแอปพลิเคชันชื่อดัง เมื่อ 7 วัน ก่อนมีผู้โดยสารเรียกผ่านแอปฯให้ไปส่งนครปฐม ตำรวจเช็กวงจรปิดตามเส้นทางพบเบาะแสคนร้ายซิ่งรถเหยื่อลงภาคใต้ เร่งแจ้งด่านตรวจสกัดจับ ล่าสุดพบคนร้ายเป็นชายขับเก๋งผู้ตายผ่านด่านตรวจท่าฉัตรไชย จ.ภูเก็ต เร่งประสานล่าตัวแล้ว เหตุเกิดเมื่อ เช้าวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา
ต่อมาช่วงค่ำเมื่อวานนี้ (19 ก.ย.67) ชุดสืบสวนภาค 8 และชุดสืบสวนสภ.สาคู ได้ตรวจสอบ พบว่า มีการนำรถยนต์ดังกล่าวมาใช้ในพื้นที่บริเวณใกล้ๆ สนามบินนานาชาติจังหวัดภูเก็ต ตำรวจจึงได้เดินทางไปยังคอนโดแห่งหนึ่งในพื้นที่ตำบลสาคู และได้พบกับหญิงสาว ขณะกำลังขับรถยนต์คันดังกล่าวอยู่บนถนนใกล้สนามบินนานานาชาติจังหวัดภูเก็ต จึงได้ทำการติดตามรถคันดังกล่าว และได้ควบคุมตัวคนขับ มาที่ สภ.สาคู
เจ้าหน้าที่ชุดตรวจยึดจึงได้ทำการขอตรวจสอบรถคันดังกล่าว ปรากฏว่าเป็นรถคันเดียวดังกล่าวกันที่ ได้รับการประสานข้อมูลจากกองบังคับการตำรวจฎธธุรจังหวัดนครปฐม ซึ่งมี น.ส.หยาดฟ้า(สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี เป็นผู้ขับขี่ ก่อนเชิญตัวมาสอบปากคำ พร้อมอายัดรถดันดังกล่าว มาที่ สภ.สาคู
เบื้องต้น จากการให้ข้อมูล น.ส.หยาดฟ้า ให้การว่า ตนได้ทำการซื้อรถ มาจาก จ.นครสวรรค์ โดยมี ร.ต.ท.ธนิตศักดิ์ (สงวนนามสกุล) อดีตตำรวจ ซึ่งเป็นพี่เขย ทำการติดต่อขอซื้อรถยนต์ดังกล่าวมาใช้งานเป็นการชั่วคราวโดยครั้งแรก ร.ต.ท.ธนิตศักดิ์ ได้นำรถยนต์ ฮอนด้าซิตี้ มาให้ตน ซึ่งตนเห็นว่าสภาพไม่ค่อยน่าใช้ จึงแจ้งพี่เขยไปขอรถสภาพดีกว่านี้
ต่อมา ร.ต.ท.ธนิตศักดิ์ ได้ให้คนนำรถยนต์ MG สีดำ หมายเลขทะเบียน มาให้ตนแทนรถยนต์ ฮอนด้าซิตี้ ซึ่งตนได้ไปรับรถที่บ้านตน ในจังหวัดนครสวรรค์ และได้ขับกลับมาทำงานที่จังหวัดภูเก็ต โดยมาพร้อมพ่อและแม่ จนตำรวจมาพบและเชิญตัวมาสอบปากคำ
20 กันยายน 2567 ล่าสุด พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 8 พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 8 พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดภูเก็ตเดินทางมายัง สภ.สาคู ได้ทำการตรวจพิสูจน์รถยนต์ MG3 สีดำ เพื่อหาหลักฐานดำเนินคดี
ด้าน พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 8 เผยว่า ช่วงค่ำเมื่อวานนี้ (19 ก.ย.67) ลูกน้องแจ้งมาว่ารถคันนี้ของผู้ตายได้เข้ามาในจังหวัดภูเก็ตได้ 4-5 วันที่แล้ว ขอให้ทางเราช่วยติดตามรถคันนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลปรากฏว่ารถคันนี้มาวิ่งในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตจริง แต่ว่าผู้ขับขี่ กล้องบางตัวเราไม่ค่อยชัด จึงได้มีการระดมกันทั้งสืบสวนภาคและสืบจังหวัดภูเก็ตและสถานีของผู้กำกับสาคูระดมโดยใช้ตำรวจเยอะ เมื่อคืนเจอประมาณ 21.00 น.ขับอยู่บนถนนเราก็ติดตามและนำมาที่ สภ.สาคู
ด้าน พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต กล่าวว่า เบื้องต้น สาวที่ครอบครองรถคันดังกล่าวปัจจุบัน ให้ความร่วมมือดี ให้การตำรวจว่ามีญาติอยู่ต่างจังหวัด ญาติของเขาได้ซื้อมา และนำมาให้เขาใช้ ก่อนขับมากลับมาที่ภูเก็ต เมื่อวันที่ 14 ก.ย.67 เขาไม่ได้เอะใจและเขาไม่ได้รู้ว่ามีการกระทำความผิดที่กฎหมายมา เพราะป้ายทะเบียนอะไรยังไม่ได้เปลี่ยน ก็ใช้วิ่งปกติไม่ได้หลบหนีอะไร ตำรวจชุดสืบสวนตามไปเจอพอดี เค้าก็ตกใจ ทำการตรวจค้นเบื้องต้น
"ก่อนญาติเขาน่าจะโทรมาบอก แต่ญาติก็ซื้อมาอีกทีนึง ต้องดูเรื่องเจตนาอย่างที่เรียนให้ทราบ 1.รถที่เขาใช้ไม่ได้มีการปิดบังอำพรางอะไรใช้ในชีวิตประจำวันตามปกติ ตอนนี้เขาก็ให้การที่เป็นประโยชน์ต่อคดี และตอนนี้กำลังส่งไปที่ภาค 7 ตรวจสอบตอนนี้ตำรวจยังไม่ได้แจ้งข้อหาอะไรแค่กันไว้ให้เป็นพยาน" พล.ต.ต.สินเลิศ