"นก อุษณีย์" ควง "ม่วย นิธิตรา" ร้อง ปอท. ถูกตัดต่อภาพโปรโมทเว็บพนันออนไลน์

2 สิงหาคม 2567 ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นก อุษณีย์ วัฒฐานะ นักแสดงสาวชื่อดัง และ ม่วย นิธิตรา เชาว์พยัคฆ์ ผู้ประกาศข่าว เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.หญิง ธีรนาฏ ลิ่มสิริกุล รอง สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. เพื่อแจ้งความเอาผิดกับผู้ที่นำภาพไปใช้โปรโมทเว็บพนันออนไลน์ ตามสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ 


นก อุษณีย์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีเพื่อนในวงการมาบอกตนว่า เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา มีบัญชีแอคเคาท์แอปพลิเคชั่น tiktok รายหนึ่ง นำรูปภาพของตนไปแอบอ้างเป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณาเว็บพนันออนไลน์เว็บไซต์หนึ่ง ทำให้ตนได้รับความเสียหาย เพราะผู้คนในสังคมอาจเข้าใจผิดได้ จึงอยากให้ตำรวจช่วยตรวจสอบ และดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง 

“แม้คลิปหรือโพสต์ดังกล่าว จะถูกเผยแพร่ได้ประมาณ 2 วัน แต่ยอดวิวผู้เข้าชมมากกว่าล้านครั้ง ตนยืนยันว่า ไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวแต่อย่างใด และไม่เคยสนับสนุน การที่นำภาพตนไปโพสต์แบบนี้ ทำให้ตนได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก จึงต้องการให้คนทำผิดถูกลงโทษ อย่างไรก็ตามสำหรับแอคเคาท์ดังกล่าว ตอนนี้ก็ยังไม่ทราบว่า เป็นแอคเคาท์จริงหรือปลอม ต้องรอทางตำรวตตรวจสอบให้แน่ชัด”

 

ขณะที่ ม่วย นิธิตรา กล่าวว่า ในส่วนของตนก็ถูกกระทำในลักษณะใกล้เคียงเช่นเดียวกัน คือ นำภาพขณะรายงานไปตัดต่อเป็นภาพโปรโมทเว็บพนัน พร้อมกับข้อความในทำนองว่า ตกงานแต่ยังมีเงินทองใช้ชีวิตหรูหราได้เพราะเว็บพนัน ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า กรณีของตนนั้นเป็นเว็บพนันแพลตฟอร์มเดียวกับ ที่ “นอท ลอตเตอรี่พลัส” โดนแอบอ้าง

“ยอมรับว่าหลังทราบเรื่องค่อนข้างตกใจ เพราะอาจทำให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจผิดได้ ที่ผ่านมาเราเห็นเรื่องราว กลุ่มอินฟลูเอ็นเซอร์ ศิลปินดารา หรือ บุคคลมีชื่อเสียง ถูกนำไปแอบอ้างเช่นนี้เยอะมาก สิ่งที่เราควรทำคือต้องออกมาปกป้องตนเอง ด้วยการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดเหล่านี้ และ สุดท้ายนี้อยากให้ตำรวจช่วยเร่งกวาดล้างเว็บพนันเหล่านี้ให้หมดไป” 


เบื้องต้นพนักงานสอบสวน ได้ทำการสอบปากคำผู้ร้องทุกข์ทั้ง 2 ราย เพื่อนำไปประกอบการพิจารณาควบคู่พยานหลักฐาน ก่อนส่งต่อให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป
 

ด้าน พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง โฆษก ตร.กล่าวว่า การกระทำของเว็บไซต์พนันออนไลน์ ที่เอารูปของบุคคลอื่นไปตัดต่อ แอบอ้าง เพื่อการโฆษณา นอกจากจะเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478 มาตรา 12 แล้ว ยังจะเข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 16 ในความผิดฐาน นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ปรากฏเป็นภาพของผู้อื่น และภาพนั้นเป็นภาพที่เกิดจากการสร้างขึ้น ตัดต่อ เติม หรือดัดแปลงด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการอื่นใด โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นถูกเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท อีกด้วย

สำหรับพี่น้องประชาชนที่ถูกแอบอ้าง นำภาพไปใช้ในการสร้างบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ปลอม หรือนำไปใช้ในการโฆษณาโดยไม่ได้รับความยินยอม ให้ดำเนินการดังต่อไปนี้
1. แจ้งความ - แจ้งทันทีที่สถานีตำรวจใกล้บ้าน 
2. รีพอร์ต - รายงานไปยังผู้ให้บริการโซเชียล
3. บอกเพื่อน - ญาติสนิท มิตรสหาย เพื่อไม่ให้ถูกหลอก

สุดท้ายนี้ หากพี่น้องประชาชนได้รับความเสียหายจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สามารถแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่ศูนย์รับแจ้งความออนไลน์ บนเว็บไซต์ www.thaipoliceonline.go.th หรือสายด่วน 1441 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง