
22 กรกฎาคม 2567 ความคืบหน้ากรณี พ.ต.ท.กิตติ์ชนม์ จันยะรมณ์ หรือรองหรั่ง รอง ผกก.ป.สน.ท่าข้าม ถูกยิงเสียชีวิตขณะเข้าระงับเหตุ นายบุญมา หรือ เฮียตุ๊ง อายุ 49 ปี จับลูกเป็นยตัวประกัน ที่บริเวณหมู่บ้านแห่งหนึ่งซอย 2 ถนนพระรามสอง ซึ่งวันนี้ทางครอบครัวได้รับร่างรองหรั่ง จากนิติเวชศาสตร์ รพ.ศิริราช เพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลที่วัดยางสุทธาราม แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ
ต่อมาเวลา 15.35 น. หลังจากครอบครัวเคลื่อนร่าง รองหรั่ง มาประกอบพิธีที่วัดยางสุทธาราม แล้ว นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาเป็นประธานในพิธีรดน้ำศพ ซึ่งได้เปิดให้ครอบครัว ญาติ คนใกล้ชิด ร่วมรดน้ำศพ เพื่อแสดงความอาลัยเป็นการภายในก่อน จากนั้น เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวัง ได้มาเตรียมสถานที่ เพื่อพระราชทานน้ำหลวงอาบศพแก่รองหรั่ง ซึ่งถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่มีแก่รองหรั่งและครอบครัว
โดยภายในงาน มีบุคคลสำคัญทางการเมือง และตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายนาย มาร่วมในพิธี เช่น นายชัยชนะ เดชเดโช สส.พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานกรรมาธิการตำรวจสภาผู้แทนราษฎร , พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. , พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. , พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล , พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ประสงค์ อานมณี ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 ร่วมในพิธี
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีใช้เวลาร่วมรดน้ำศพเป็นเวลากว่า 10 นาที จากนั้นเดินทางกลับ โดยก่อนเดินทางกลับ ได้เรียกให้ พล.ต.ท.สำราญ ขึ้นไปพูดคุยเป็นการส่วนตัว ภายในรถของนายกรัฐมนตรี ใช้เวลาพูดคุยประมาณ 4 นาที ก็เสร็จสิ้นการพูดคุย จากนั้นได้ลงมาพูดคุยกับ ผบช.น. และขึ้นรถเดินทางกลับ โดยนายกรัฐมนตรี ปฏิเสธตอบคำถามสื่อมวลชน
พล.ต.ท.สำราญ เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีเป็นห่วงความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการปฏิบัติหน้าที่ และพร้อมสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ สิ่งไหนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติขาดเหลือ ก็พร้อมสนับสนุนให้ ทั้งอุปกรณ์กล้องไนท์วิชั่น และเงินรางวัลในการจับกุมยาเสพติดต่าง ๆ ก็จะเร่งรัดให้ ซึ่งส่วนใหญ่นายกรัฐมนตรี และตนเองในฐานะที่เป็นรอง ผอ.ศูนย์ปราบปรามยาเสพติด ซึ่งดูแลด้านการปราบปราม ดังนั้นท่านนายกจึงได้กำชับกับตน เน้นย้ำเรื่องยุทธวิธีและเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของผู้ใต้บังคับบัญชา
ส่วนเรื่องของเสื้อเกราะที่เป็นแผ่นไม้ ไม่ได้มีการพูดคุยในประเด็นนี้ ซึ่งส่วนตัวเห็นเพียงแค่ในโลกโซเชียลเท่านั้น พร้อมยืนยันว่า ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าผลจะออกมาสำเร็จ หรือผิดพลาดก็ต้องมีการถอดบทเรียนอยู่แล้ว ต้องมาทบทวนว่า สำเร็จเพราะอะไร ผิดพลาดเพราะอะไร เพื่อมาปรับปรุง ส่วนเหตุการณ์นี้ก็จะขอนำไปทบทวนก่อน
ขณะที่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ภายหลังรดน้ำศพเสร็จเสร็จ ก็ขึ้นรถเดินทางกลับทันที พร้อมกับภริยา โดยปฏิเสธไม่ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเช่นกัน
จากนั้นทางครอบครัวรองหรั่งได้เปิดให้คนใกล้ชิด และเพื่อนข้าราชการตำรวจ ร่วมรดน้ำศพ เพื่อแสดงความอาลัย บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า
ทั้งนี้มีรายงานว่า มีญาติเฮียตุ๊ง ผู้ก่อเหตุมาร่วมงานศพรองหรั่งด้วย
ภรรยา-ลูกสาว ผู้ก่อเหตุ ร่วมงานศพ ร่ำไห้ขอโทษครอบครัว "รองหรั่ง"
จากนั้นเวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวัง อัญเชิญน้ำหลวงอาบศพพระราชทาน มายังวัดยางสุทธาราม เพื่อเข้าสู่การประกอบพิธีหลวง และบรรจุร่างเข้าสู่หีบพระราชทาน โดยมี พล.ต.ต.ประสงค์ อานมณี ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 เป็นประธานในพิธี ก่อนจะมีการสวดพระอภิธรรมศพเป็นวันแรก โดยครอบครัวและกองบัญชาการตำรวจนครบาล มีผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เป็นเจ้าภาพในการสวดพระอภิธรรม โดยก่อนเริ่มพิธีสวดพระอภิธรรม ภรรยา และลูกสาวของเฮียตุ๊ง ผู้ก่อเหตุ เดินทางมาร่วมงานสวดพระอภิธรรมด้วย
นางสาวมินนี่ อายุ 19 ปี ลูกสาวคนที่ 3 มาถึงก่อน และเข้าไปแสดงความเสียใจ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยได้ยกมือไหว้ภรรยา และลูกของรองหรั่ง พร้อมกับร้องไห้ด้วยความเสียใจ โดยภรรยาของรองหรั่งได้ลูบแขนปลอบใจ ก่อนจะมาไหว้เคารพศพของรองหรั่ง
จากนั้น ภรรยาของรองหรั่ง พร้อมด้วย นางสาวมิ้ว อายุ 23 ปี ลูกสาวคนโต กับมิ้น อายุ 22 ปี ลูกสาวคนที่ 2 ของผู้ก่อเหตุ ได้เดินทางตามมา และได้ไหว้เคารพศพรองหรั่ง ก่อนเข้าฟังสวดพระอภิธรรม ซึ่งลูกของผู้ก่อเหตุทุกคน อยู่ในอาการโศกเศร้าเช่นกัน และปฏิเสธตอบคำถามบอกเพียงสั้น ๆ ว่า วันนี้ยังไม่พร้อมให้ข่าวกับสื่อมวลชน