ไปดูความคืบหน้าทางคดีการเสียชีวิต 6 ศพ ที่โรงแรมหรูในย่านราชประสงค์ วันนี้เริ่มมีความชัเเจนของคดีมาแล้ว ว่า เกิดจากปมปัญหาเรื่องหนี้สิน ที่คนฆ่าที่สันนิษฐานว่าเกิดจากการวางยา ก็คือ 1 ใน 6 ผู้เสียชีวิต
ช่วงเช้าวันนี้ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมชุดสืบสวนคลี่คลายคดี ร่วมประชุมคงามคืบหน้าทางคดีการเสียชีวิตของ 6 ศพ ชาวเวียดนาม ในโรงแรมหรูย่านราชประสงค์ พร้อมตรวจสอบพยานหลักฐานที่ตรวจสิลได้จากที่เกิดเหตุทั้งกล้องวงจรปิด และวัตถุพยานสำคัญ กระเป๋าเดินทาง 8 ใบ และกระเป๋าเป้ 1 ใบ รวมถึงผลการสอบปากคำญาติของผู้เสียชีวิตด้วย
โดย พล.ต.ต.ธีรเดช บอกก่อนประชุมติดตามความคืบหน้าทางคดีสั้นๆ ว่า เมื่อคืนได้เรียกลูกสาวของ 1 ใน 6 ผู้เสียชีวิต มาสอบปากคำ รวมถึงเรียกสอบพยานแวดล้อมเพิ่มเติมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยแต่ละคนให้การเป็นประโยชน์ ซึ่งตามข้อมูล เชื่อว่า มูลเหตุน่าจะมาจากเรื่องปัญหาหนี้สิน ไม่มีประเด็นอื่น โดยคนก่อเหตุ เป็น1ในผู้เสียชีวิต ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับบุคคลอื่นเพราะการตรวจสอบการเข้าออกห้องนี้ ยังไม่พบบุคคลอื่นเข้าออก มีแค่กลุ่มผู้เสียชีวิตเท่านั้น
ส่วนจะเป็นมูลเหตุเดียสที่ทำให้ถึงกับต้องฆ่าล้างหนีหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบเพิ่มเติม
ขณะเดียวกัน พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ เดินทาบมารายงานผลการจรวจพิสูจน์วัตถุพยานทีาเก็บได้จากที่เกิดเหตุด้วย โดยระบุในเบื้องต้นว่า ภายหลังเมื่อวานนี้ ได้เก็บวัตถุพยานและของกลางไปตรวจสอบ ทั้งแก้วกาแฟ และกระติกเก็บความร้อนอะลูมิเนียม 2 กระบอก ซึ่งไม่ใช่ของโรงแรม และเป็นของกลุ่มผู้เสียชีวิตเอามาเอง ซึ่งด้านในพบว่า มีของเหลวซึ่งคาดว่าเป็นกาแฟ ไปตรวจ รวมถึงเจ้าหน้าที่ได้เก็บตัวอย่างน้ำในอาหารที่เปิดแล้วคือต้มยำกุ้ง ผัดผักบุ้ง ประมาณ 3-4 อย่างไปตรวจ พร้อมเร่งกระบวนการตรวจสอบในห้อง lab คาดว่าผลอย่างเป็นทางการจะเริ่มทยอยออกมาในช่วงเที่ยงวันนี้
แต่ผลที่ออกมาแล้ว ณ ตอนนี้ คือผลของ ของเหลวคล้ายกาแฟดำในกระบอกสเตนเลส 1 กระบอก ที่ยืนยันว่าเป็นสารพิษแน่นอน แต่ขอรายงานกับทางชุดสืบสวนก่อน จะชี้แจงรายละเอียดทั้งหมดว่าเป็นสารพิษชนิดใด และมีผลที่ทำให้เสียชีวิตรุนแรงเลยหรือไม่ แต่สารพิษชนิดนี้จะทำให้คดีมีความกระจ่างขึ้นแน่นอน
ส่วนประเด็นที่ตำรวจได้ตั้งข้อสันนิษฐานเอาไว้ หลังจากทราบข้อมูลผู้เสียชีวิต 6 คน มีการจองเข้าพักมา 7 คน แต่เช็คอิน 5 คน พบศพ 6 ราย นั้น ทางสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองได้ตรวจสอบ หาเบาะแสบุคคลที่ 7 พบแล้วเป็นน้องสาวของ 1 ใน 6 คนที่เสียชีวิต แต่ได้เดินทางกลับประเทศเวียดนามไปตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค. และไม่ได้เข้ามาพักที่โรงแรม บุคคลที่7จึงไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตในครั้งนี้