svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

"คดีสังหารหมู่ 6 ราย" คาดให้น้ำหนัก "ยืมเงินลงทุน ขัดแย้ง หักหลังกัน"

เปิดข้อมูล-พยานหลักฐาน “คดีสังหารหมู่ 6 ราย” ญาติผู้เสียชีวิตบางส่วน มาให้ข้อมูลกับตำรวจแล้ว คาดบ่ายนี้ บช.น.เตรียมแถลงคืบหน้า

ความคืบหน้าเหตุการณ์ฆ่าหมู่ 6 ศพ ในห้องสวีท โรงแรมหรูกลางกรุง ปรากฏว่านาย ตร.ระดับสูงที่เข้าไปอำนวยการสืบสวนสอบสวนในที่เกิดเหตุ นำโดย พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางกลับจากโรงแรมช่วงเวลาประมาณ 24.00 น. 

 

แหล่งข่าวจากชุดสืบสวนนครบาล และทีมพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สรุปรายงานข้อสันนิษฐานในเบื้องต้นได้หลายประเด็นดังนี้ 

- ผู้ก่อเหตุทำให้คนนี้ัเสียชีวิต น่าจะอยู่ในกลุ่มผู้ตายด้วย เพราะจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดอย่างละเอียด ไม่มีคนลอบเข้า-ออกจากห้องหลังจากคนกลุ่มนี้เข้าไปในห้อง แต่ประเด็นนี้ยังสรุป 100% ไม่ได้ เพราะอาจมีซอกมุมที่กล้องจับภาพไม่ถึง  

- ค่อนข้างชัดเจนว่าการเสียชีวิตเกิดจากการวางยาพิษ หรือถูกทำให้เสียชีวิตด้วยยาพิษ 

- ตรวจสอบประวัติผู้เสียชีวิตทั้งหมดในเบื้องต้น ไม่พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวทางการเมือง ทั้งในเวียดนามและในสหรัฐ 

- เรื่องสาเหตุและแรงจูงใจ จึงต้องรอรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมอีกระยะหนึ่ง เพื่อความชัดเจน

สารพัดปมสุดประหลาด - เอฟบีไอขอแจม

ส่วนข้อสังเกตและความแปลกประหลาดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีดังนี้ 

- คนกลุ่มนี้เดินทางมาจากเวียดนาม แต่คนละเที่ยวบิน และเข้าห้องพักคนละเวลากัน 

- ข้อมูลการบุ๊กกิ้ง หรือจองห้องพัก จองสำหรับ 7 คน แต่เช็คอิน 5 คน และเสียชีวิต 6 คน 

- ทั้งหมดเสียชีวิตในห้องพักของคนเวียดนามสัญชาติอเมริกัน ในลักษณะเรียกให้ไปรวมตัวกัน แล้วฆาตกรรม 

- ตำรวจได้ข้อมูลพาสปอร์ต หรือหนังสือเดินทางทั้งหมดแล้ว กำลังตรวจสอบปูมหลังของแต่ละคน แต่เบื้องต้นชัดเจนว่าไม่ได้มาท่องเที่ยว และไม่ได้มาทำธุรกิจ เนื่องจากเข้าเช็คอินที่โรงแรมวันอาทิตย์ที่ 14 ก.ค. และกำหนดเช็คเอาต์ วันจันทร์ที่ 15 ก.ค. คาดว่าเสียชีวิตเวลาราวๆ หลัง 4 โมงเย็นของวันที่ 15 ก.ค. เพราะมีการใช้โทรศัพท์ครั้งสุดท้ายเวลาประมาณก่อน 16.00 น. ส่วนอาหารทั้งหมดสั่งมารับประทานตั้งแต่วันที่ 15 และมีร่องรอยการดื่มน้ำชา กาแฟ 

- คนทั้งหมดไม่ได้มาประเทศไทยเพื่อเสียชีวิต ไม่ได้ตั้งใจมาตายในไทย แต่น่าจะมีการทำให้ตาย 

- เอฟบีไอ หรือเจ้าหน้าที่จากหน่วยสอบสวนกลางสหรัฐ ได้เข้ามาร่วมตรวจสอบยังโรงแรมที่เกิดเหตุ ทั้งที่ตำรวจไทยไม่ได้แจ้งหรือร้องขอ โดยอ้างเหตุผลว่าเนื่องจากมีชาวอเมริกันเสียชีวิตด้วย และเจ้าหน้าที่เอฟบีไอต้องการขอดูที่เกิดเหตุ แต่ฝ่ายไทยยังไม่อนุญาต  

แหล่งข่าวระดับสูงจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับการท่องเที่ยว ไม่ใช่ประเด็นที่ว่ามาท่องเที่ยวในไทยแล้วไม่ปลอดภัย เพราะคนกลุ่มนี้นัดมาพบกัน แล้วก่อเหตุในห้องปิด ไม่ได้มีคนเข้าไปทำร้าย หรือประสงค์ต่อทรัพย์ ฉะนั้นจึงฝากให้ทุกฝ่ายช่วยกันสื่อสารเพื่อไม่ให้กระทบกับการท่องเที่ยวประเทศไทย 
 

ประเด็นสันนิษฐาน แต่ไม่มีใครกล้าฟันธง

สำหรับมูลเหตุเบื้องหลัง หรือแรงจูงใจในการก่อเหตุจนทำให้เกิดการสังหารหมู่นั้น ยังไม่มีข้อสรุปจากตำรวจผู้รับผิดชอบคดี ทั้งฝ่ายสืบสวนและสอบสวน แต่มีการตั้งประเด็นที่เป็นข้อสงสัยไว้หลายประการ เช่น 

- เป็นการไล่ล่า หรือตามเก็บกันของกลุ่มเห็นต่างทางการเมืองหรือไม่ 

- เป็นปฏิบัติการของสายลับที่เกี่ยวกับการจารกรรมใดๆ หรือไม่ 

- ทั้งหมดอาจเป็นเครือญาติกัน แล้วมีความขัดแย้งกันเรื่องมรดก หรือผลประโยชน์ จนนำมาสู่การสังหารหมู่หรือไม่ 


รายงานล่าสุดจากชุดสืบสวน ตร. เป็นผลการสอบปากคำเบื้องต้น จากญาติผู้เสียชีวิตบางส่วน ที่มาให้ข้อมูลกับตำรวจแล้ว ให้น้ำหนักว่า "เป็นเรื่องการยืมเงินลงทุนธุรกิจบางอย่าง แล้วมีความขัดแย้งหรือหักหลังกัน" 


นอกจากนี้ มีรายงานว่าในช่วงบ่ายวันนี้ (17 ก.ค.2567) พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล มือสืบสวนระดับพระกาฬของ ตร.จะมีการแถลงความคืบหน้าคดีดังกล่าว


ทิศทางการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ในคดีเสียชีวิตหมู่ 6 ศพ มีการให้น้ำหนักไปที่ประเด็นฆ่าล้างหนี้ แต่ยังมีคำถามและข้อสังเกตหลายประการ กล่าวคือ 

1.การหักหลังเรื่องกู้ยืมเงินลงทุน เป็นมูลเหตุหรือแรงจูงใจที่มีน้ำหนักมากพอในการสังหารหมู่ถึง 6 ศพจริงหรือไม่ หรือมีสาเหตุอื่นร่วมด้วย

2.ยาพิษ หรือวิธีการที่ทำให้ตาย ใช้วิธีอะไร ถ้าเป็นยาพิษ น่าจะเป็นยาอะไรที่มีฤทธิ์แรงมากขนาดนั้น 

3.ใครที่จะมีทักษะวางยาให้ตายพร้อมกันได้ 6 คน ในห้องเดียวกัน ไม่รอดเลยแม้แต่คนเดียว ต้องใช้ทักษะระดับไหน