
12 กรกฎาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดเชียงใหม่ว่า จุดเกิดเหตุที่มีการสังหาร ว่าที่ร้อยโทสุเทพ ชัยนันตา หรือโค้ชเทพ และเป็นจุดที่คนร้ายคือนายโอปอล ได้นำศพของโค้ชเทพลงจากรถไปทิ้งอำพรางภายในป่า ทางญาติของผู้เสียชีวิตก็ได้มีการทำพิธีกรรมตามความเชื่อของชาวล้านนา ในพิธีสูตรถอนเป็นการสื่อสารให้กับดวงวิญญาณได้รับรู้ว่าตนเองได้เสียชีวิตลงแล้ว และอัญเชิญดวงวิญญาณผู้ที่เสียชีวิตไปร่วมพิธีสวดอภิธรรมศพ และรับบุญกุศลที่ญาติพี่น้องได้ร่วมทำบุญอุทิศให้
พระครูโสภิตพัฒนโชติ เจ้าอาวาสวัดช่อแลพระงาม หนึ่งในพระสงฆ์ที่มาทำพิธีในวันนี้ เปิดเผยว่า วันนี้ก็เป็นการทำพิธีตามความเชื่อ แบบชาวล้านนา โดยสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ ที่ตัวของผู้เสียชีวิตไม่ควรจะมาจบชีวิตในที่แห่งนี้ ก็จะเป็นการบอกกล่าวให้ดวงวิญญาณของนายสุเทพ และขออนุญาตสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในบริเวณนี้ปล่อยดวงวิญญาณของผู้เสียชีวิตให้กลับบ้านและไปสู่ภพภูมิที่ดี
สำหรับการทำพิธีก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่ก็เต็มไปด้วยบรรยากาศที่หดหู่และโศกเศร้าเป็นอย่างมาก เมื่อเริ่มสวดคาถา ตัวของแฟนคนปัจจุบันของโค้ชเทพก็กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ ขณะที่ทำพิธีก็ร้องไห้อยู่เป็นช่วงๆ
น.ส.สุพัตรา แซ่เฮ้ง อายุ 48 ปี แฟนคนปัจจุบันของโค้ชเทพ เล่าว่า ได้คบหาดูใจกับโค้ชเทพมาประมาณ 4-5 ปี ตอนนี้ก็ยังรู้สึกเศร้าใจและหดหู่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก ซึ่งก่อนจะเกิดเหตุการณ์ ประมาณ 2 อาทิตย์ ตนมีลางบอกเหตุ เนื่องจากตนฝันว่าตัวของโค้ชเทพถูกยิงเสียชีวิตบนภูเขา โดยผู้ก่อเหตุเป็นวัยรุ่น แต่ไม่ทราบว่าเป็นภูเขาที่ไหน และตนก็ได้เล่าให้กับตัวของโค้ชเทพฟังแล้ว เพราะว่าตนเป็นคนที่ฝันแม่นมากเกี่ยวกับเรื่องราวที่ไม่ดี แต่ตัวของโค้ชเทพเป็นคนที่มองโลกในแง่ดีคิดบวก จึงไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องราวความฝันที่ตนเล่าให้ฟัง แล้วก็ออกไปทำงานตามปกติ เหมือนทุกๆวัน จนมาเกิดเหตุการณ์ที่คล้ายกับในความฝันขึ้น
การพูดคุยครั้งสุดท้ายคือช่วงกลางคืนวันอาทิตย์ที่ 7 กรกฎาคม ทางโค้ชเทพบอกว่า ช่วงเช้าวันที่ 8 จะออกไปรับส่งผู้โดยสาร หลังจากนั้นก็จะเข้าไปเรียนที่มหาวิทยาลัย และช่วงเย็นก็จะเข้าไปหาแม่ที่บ้าน ช่วงเช้ามืดของวันที่8 ไม่ได้คุยอะไรกันโค้ชเทพแค่ส่งอิโมจิมาในข้อความซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่แล้วเขาก็หายไปทั้งวัน และมารู้สึกผิดสังเกตคือช่วงเวลา 6 โมงเย็น เพราะส่วนใหญ่เวลานี้โค้ชเทพจะโทรมาหาตนอยู่เป็นประจำ พยายามส่งข้อความพยายามโทรแต่ก็ไม่ได้รับการติดต่อกลับมา จนมารู้ว่าโค้ชเทพได้เสียชีวิตแล้วจากการถูกฆาตกรรม เมื่อคืนนี้ตนเข้าไปนอนที่บ้านของโค้ชเทพและขณะที่นอนก็รู้สึกว่าโค้ชเทพได้เข้าหามานอนข้างข้างรู้สึกถึงลมหายใจ เหมือนตอนที่เคยอยู่ด้วยกัน
โค้ชเทพให้ความสำคัญกับ ครอบครัวเป็นอย่างมากทั้งแม่ป้าพี่สาวและลูกชาย เป็นคนที่วางแผนวางโครงการในชีวิตเอาไว้หลายอย่าง ก่อนที่จะเสียชีวิตก็เคยพูดคุยกับตนว่า รอพี่หน่อย เราจะทำงานหาเงินไปด้วยกัน และเราจะไปซื้อที่ เพื่อที่จะสร้างห้องแถวให้คนมาเช่า และเราจะแก่ไปด้วยกัน ขอให้พี่ไปสู่สุคติ ตอนนี้ไม่ต้องห่วงคนข้างหลังแล้วขอให้พี่ไปสบาย ส่วนคนร้ายก็ขอให้กฎหมายดำเนินการให้ถึงที่สุด ใครทำอะไรก็ต้องได้รับกรรมแบบนั้น
ต่อมาก็ได้เดินทางมาทำพิธีที่รถ ซึ่งโค้ชเทพใช้ในการวิ่งรับส่งผู้โดยสารและเป็นคันที่คนร้ายนำเอาไปไปใช้ในการชิงทอง ซึ่งจอดอยู่ที่ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ ทางญาติของโค้ชเทพก็ได้บอกกล่าวให้เดินทางกลับบ้านไปพร้อมกัน แฟนของโค้ชเทพก็ได้เดินเข้าไปที่รถพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาไม่หยุด หลังจากนั้นก็ได้เดินไปกอดกับน้องสาว และเดินทางกลับ