23 มิถุนายน 2567 นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ และ นายแพทย์ ชัยวัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ รักษาการอธิบดี DSI ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายชนินทร์ เย็นสุดใจ อดีตผู้บริหารบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน (STARK) ผู้ต้องหาในคดีทุจริตหุ้น STARK หลังหลบหนีคดีอยู่ที่ เมืองดูไบ สาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์
นายจักรพงษ์ บอกว่า เรื่องดังกล่าว นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยให้ตนติดตามตั้งแต่รับตำแหน่ง รมช.ต่างประเทศ ซึ่งในขณะนั้นได้ดำเนินการในทางลับมาโดยตลอด เนื่องจากคดีหุ้น STARK สร้างความเสียหาย และผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทย ทั้งรายเล็กและรายใหญ่
ส่วนการติดตามตัว ตั้งแต่นายชนินทร์หลบหนีออกนอกประเทศ ก็ใช้เวลา 8 เดือน ในการติดตาม ตั้งแต่หาว่า หลบไปประเทศไหน เมื่อทราบว่าอยู่ที่ดูไบ ก็ได้ประสานกับราชการทางดูไบทันที จนกระทั่งมีการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน จากการคุยเบื้องต้น นายชนินทร์ มีการร้องขอความเป็นธรรม และกังวลเรื่องความปลอดภัย บอกว่า ตอนอยู่ที่ดูไบโดนคุกคาม และเมื่ออยู่ที่ดูไบ นายชนินทร์ก็ใช้ชีวิตแบบนักท่องเที่ยวคนหนึ่ง
ด้าน พันตำรวจตรี ยุทธนา กล่าวว่า ขั้นตอนหลังจากนี้ จะคุมตัวนายชนินทร์ ไปสอบปากคำที่ ตึกดีเอสไอ เพื่อแจ้งข้อหา แจ้งสิทธิต่างๆ และจะส่งตัวให้อัยการพรุ่งนี้ (24 มิ.ย.) ช่วงบ่าย เพื่อส่งฟ้องศาล ซึ่งดีเอสไอได้คัดค้านการประกันตัว
ขณะที่ นายเรืองศักดิ์ สุขเสียงศรี ทนายความของนายชนินทร์ กล่าวกับสื่อมวลชนว่า ความจริงแล้วนายชนินทร์ไม่ได้อยากหลบหนี ตั้งใจอยากจะกลับบ้าน และยืนยันว่า นายชนินทร์ไม่ได้ทำความผิดอะไร ส่วนที่มีข่าวบอกว่า มีการขนเงิน 8 พันล้านไปต่างประเทศนั้น ไม่เป็นความจริงไม่รู้ข่าวออกไปได้อย่างไร
การเดินทางกลับครั้งนี้ เพราะอยากจะกลับบ้าน จึงประสานกลับมาสู้คดี ไม่ใช่การจับกุม เพราะที่ดูไบมีนักโทษหนีคดีจำนวนมาก ถ้าจะจับทำไมไม่จับคดีอื่นด้วย เพราะคดีที่นายชนินทร์โดน มีอีกหลายคนที่มีพฤติกรรมแบบเดียวกัน แต่ทำไมถึงไม่โดนหมายจับ ไม่โดนฟ้อง ส่วนตัวนายชนินทร์ ไม่ได้กังวลอะไร พูดคุยปกติ คุยกันล่าสุดยังบอกว่า เจอกันเมืองไทย เดี๋ยวก็ได้กลับแล้ว
นายเรืองศักดิ์ ยังระบุอีกว่า ก่อนที่นายชนินทร์จะหนีออกไปต่างประเทศ ทางครัวครอบบอกกับตนว่า นายชนินทร์โดนคุกคาม อยู่ไทยไม่ได้แล้ว จึงจะหนี ซึ่งตนมาทราบทีหลัง ถ้าทราบก่อนก็จะบอกว่า อย่าหนีเลย ควรสู้คดี แต่ครอบครัวกลัวเรื่องความปลอดภัย เมื่อถามว่าใครคุกคาม ตนก็ไม่ทราบว่าใคร นายชนินทร์ไม่ได้บอก ซึ่งการคุกคามคนอื่นที่โดนคดีก็โดนเช่นกัน หลังจากที่หนีตนก็ไม่ได้คุย เพราะนายชนินทร์ไม่ได้ใช้มือถืออีกเลย
ตนยังทราบอีกว่า นายชนินทร์ได้ยื่นคำร้องขอความเป็นธรรม ให้กับดีเอสไอและอัยการ มีการชี้แจงรายละเอียดข้อเท็จจริงทั้งหมด ทั้งเส้นทางการเงินและข้อมูลต่าง ๆ แต่ทางดีเอสไอและอัยการ บอกตนกลับมาว่า จะรับเรื่องไว้เฉย ๆ แต่ไม่รับพิจารณา เพราะตัวผู้ต้องหาไม่ได้มายื่นด้วยตัวเอง
ทั้งนี้ทนายได้ตั้งคำถามทิ้งท้ายว่า ทำไมบุคคลที่มีพฤติกรรมเดียวกับนายชนินทร์ กลับไม่ถูกตั้งข้อหา หรือถูกออกหมายจับเลย ส่วนหลักทรัพย์ประกันตัวนั้น ยอมรับว่ากระทันหัน จึงยังไม่ได้เตรียมมา แต่ก็จะปฏิบัติตามกฎระเบียบทุกอย่าง หากศาลไม่ประกันก็จะยอมรับสภาพ ซึ่งตนเชื่อถึงความยุติธรรมของศาล แต่ก็ไม่รู้ว่าจะได้ประกันไหม เพราะคนอื่นที่โดนคดี ก็ไม่ได้ประกันเหมือนกัน