17 มิถุนายน 2567 ผศ.ดร.สานิต ศิริวิศิษฐ์กุล หัวหน้าแผนกวิจัย สำนักวิจัยมหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน จำนวน 1,500 ราย เกี่ยวกับโครงการหวยเกษียณ โดยพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่มองว่าเห็นด้วยกับนโยบายที่จัดทำขึ้น และเห็นด้วยว่ามีประโยชน์ โดยเฉพาะเรื่องการออมเงินไว้ใช้ยามหลังเกษียณ
โดยการสำรวจได้ถามถึงเห็นด้วยหรือไม่กับนโยบาย พบว่า ประชาชนเห็นด้วย 67.8% ไม่แน่ใจ 34% และไม่เห็นด้วย 8.2%
ส่วนคำถามว่าหวยเกษียณมีจะประโยชน์ต่อการออมเงินไว้ใช้ยามหลังเกษียณได้ มากน้อยเพียงใด พบว่า ช่วยได้มาก 70.2% ช่วยได้น้อย 24.07% และช่วยไม่ได้เลย 5.1%
สำหรับความเข้าใจต่อนโยบายนั้น ผู้ให้การสำรวจมีความเข้าใจ 40.7% ขณะที่ค่อนข้างเข้าใจ 43.7% และไม่เข้าใจเลย 15.6%
พร้อมกันนี้หวยเกษียณ จะเป็นการขายให้กับสมาชิก กอช. หรือผู้ประกันตนมาตรา 40 และแรงงานนอกระบบ (อาจมีกลุ่มเป้าหมายจะเพิ่มเติมภายหลัง) โดยมีเงื่อนไขดังนี้ 1.ผู้มีสัญชาติไทย อายุตั้งแต่ 15-60 ปี 2. เกษตรกร ค้าขาย รับจ้างทั่วไป 3. ผู้ประกันตน ม.40 ทางเลือก 1 (ผู้ประกันตนจ่ายเองเดือนละ 70 บาท) 4. ผู้ที่ไม่เป็นสมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) 5. ผู้ที่ไม่เป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ โดยตัวอย่างอาชีพที่สมัคร กอช.ได้ เช่น เกษตรกร ค้าขาย แม่บ้าน เจ้าของร้าน ฟรีแลนซ์ ขับรถรับจ้าง แท็กซี่ มอเตอร์ไซค์รับจ้าง เป็นต้น โดยข้าราชการ ผู้ประกัน ม.33, และ 39 ไม่สามารถสมัครได้
ส่วนเงื่อนไขในการซื้อหวยเกษียณนั้น กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ออกสลากขูดแบบดิจิทัล ใบละ 50 บาท และผู้ซื้อจะต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป โดยสลากที่ซื้อจะต้องถูกเก็บไว้จนกว่าจะอายุครบ 60 ปี รวมถึงซื้อได้ไม่เกิน 3,000 บาทต่อเดือนและซื้อสลากได้ทุกวัน พร้อมกันนี้หวยเกษียณ เปิดให้ซื้อผ่าน แอปพลิเคชั่น กอช. เบื้องต้นนโยบายดังกล่าวอยู่ระหว่างการแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย คาดใช้ระยะเวลาประมาณ 6เดือน - 1ปี เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน