svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

ศาลสั่งประหาร อดีตรองสารวัตร ยิงเจ้าของ รง. ดับบนทางด่วน สารภาพลดโทษเหลือคุกตลอดชีวิต

ศาลสั่งประหาร อดีตรองสารวัตร สน.หัวหมาก ยิงเสี่ยเจ้าของโรงงานดับบนทางด่วน ปมขัดแย้งหนี้สินธุรกิจ เจ้าตัวสารภาพ ปรานีลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต ชดใช้ค่าเสียหายแก่ญาติผู้เสียชีวิต 13 ล้านเศษ

6 มิถุนายน 2567 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีฆ่าผู้อื่น ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 6 เป็นโจทก์ฟ้อง นายหรืออดีต ร.ต.ท.ณรงค์วัส (สงวนนามสกุล) หรือนัท อายุ 26 ปี ชาว จ.นครปฐม อดีตรอง สว.(สอบสวน) สน.หัวหมาก เป็นจำเลยในความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน  , พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนฯ คดีนี้ มีญาติผู้ตายซึ่งเป็นผู้เสียหายขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมในคดีรวม 3 คน

โดยอัยการโจทก์ระบุฟ้องความผิดจำเลยสรุปความว่า เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 66 เวลากลางคืน จำเลยได้ใช้อาวุธปืน ออโตเมติก ยิ่ห้อกล็อค (GLOCK)  ขนาด 9 มม. หมายเลขประจำปืน BPCM 975 ทะเบียน 03/6400069 ยิงนายกฤษฎิ์ (สงวนนามสกุล) เสี่ยนักธุรกิจเจ้าของโรงงาน 7 นัดที่บริเวณศรีษะ และอวัยวะส่วนอื่นจนถึงแก่ความตาย แล้วหลบหนีไป ต่อมา พนักงานสอบสวน สน.วังทองหลางได้ขออนุมัติหมายจับจากศาลอาญา ติดตามจับกุมจำเลยได้ที่ห้องพักรายวันแห่งหนึ่งย่านสีกัน เขตดอนเมือง  กรุงเทพฯ ส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สน.วังทองหลางดำเนินคดี 

เหตุเกิดบริเวณทางด่วนฉลองรัช (ลาดพร้าว ขาออก) แขวง-เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ

โจทก์จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33,91,288,289,371,376 ฯ

แฟ้มภาพ

ชั้นสอบสวนจำเลยให้การปฏิเสธ ต่อมาในชั้นพิจารณาของศาลจำเลยให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา อ้างว่า มีความขัดแย้งกับผู้ตายเรื่องหนี้สิน จากการทำธุรกิจร่วมกัน

จำเลยถูกคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ 

ศาลจึงให้สืบพยานโจทก์ประกอบคำรับสารภาพ

พิเคราะห์คำเบิกความ และพยานหลักฐานโจทก์ ประกอบคำรับสารภาพจำเลยแล้ว

ศาลพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 (4),371, 376 พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 8 ทวิ วรรคหนึ่ง, 72 ทวิ วรรคสอง

การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและฐานยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมนุมชน เป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน อันเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ให้ประหารชีวิต  ฐานพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตและไม่มีเหตุสมควร เป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามพ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด จำคุก 2 ปี 

จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ประกอบมาตรา 53 (2) ฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน คงจำคุกตลอดชีวิต ฐานพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองฯ คงจำคุก 1 ปี เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วให้จำคุกตลอดชีวิตสถานเดียว ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 (3) และให้จำเลยชำระเงินแก่โจทกก์ร่วมที่ 1  จำนวน 2,750,000 บาท ชำระเงินแก่โจทก์ร่วมที่ 2 จำนวน 4,600,000 บาท ชำระเงินแก่โจทก์ร่วมที่ 3 จำนวน 6,040,000 บาท รวมจำนวนทั้งสิ้น 13,390,000บาท ริบอาวุธปืนพร้อมซองกระสุนปืนของกลาง