svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

"ทนายตั้ม" จ่อแจ้งความ "บิ๊กต่อ-ภรรยา" ร่วมกันฟอกเงิน ยืนยันหลักฐานใหม่

30 มีนาคม 2567
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"ทนายตั้ม" เดินหน้าไม่หยุด เตรียมแจ้งความเอาผิด "บิ๊กต่อ-ภรรยา" พร้อม 2 บัญชีม้า ที่สน.เตาปูน ในฐานร่วมกันฟอกเงิน พบโอนเงินทำบุญวัดนครอินทร์รวม 8 แสนบ. ย้ำหลักฐานใหม่การโอนเงินใหม่ช่วงปี 2562-2566 ไม่เคยเปิดที่ไหนมาก่อน

30 มีนาคม 2567 ศึกสีกากี "บิ๊กต่อ" กับ "บิ๊กโจ๊ก" ยังไม่สงบลงง่ายๆ ซ้ำฉายภาพสงครามตัวแทนระหว่าง"ทนายตั้ม" และ "อัจฉริยะ" ไปแล้ว หลังจาก นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ออกมาแถลงข่าวแฉ  "เปิดโปงขบวนการส่วยตัวท็อปแบบม้วนเดียวจบ" เปิดเส้นทางการเงินจากบัญชี พิมพ์วิไล คดีเว็บพนัน BNK Master. อ้างว่ามีเส้นเงินไปถึงคนนามสกุลเดียวกับ "บิ๊กต่อ" 

ในเวลาต่อมา พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ได้มอบอำนาจให้ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ และทีมทนายดำเนินการแทน โดยไปยื่นศาลอาญากรุงเทพใต้ ฟ้องหมิ่น "ทนายตั้ม" แถลงข่าวโยงบัญชีม้า-รับส่วย เรียกค่าเสียหาย 5 ล้าน ยันข้อมูลที่ถูกนำมาแฉเป็นข้อมูลเท็จ ไม่มีไกล่เกลี่ยถอนฟ้อง ตามข่าวที่เสนอไปก่อนหน้านี้
 

ล่าสุด "ทนายตั้ม" เตรียมแจ้งความเอาผิด บิ๊กต่อ-ภรรยา และบัญชีม้า 2 คน วันที่ 1 เม.ย.ที่สน.เตาปูน ในฐานร่วมกันฟอกเงิน หลักพบหลักฐานการโอนเงินมาทำบุญ วัดนครอินทร์ รวมเป็นเงิน 800,000 บาท 

พร้อมเปิดหลักฐานใหม่ เส้นเงินจากบัญชีม้าโอนให้ภรรยาบิ๊กต่อ 38 เส้น ตั้งแต่ปี 2562-2566 หลายล้านบาทเป็นคนละเส้นกับที่ยื่นให้ "บิ๊กเต่า" พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ทำการตรวจสอบ พร้อมยืนยันไม่เคยดูทะเบียนราษฎร์ ผบ.ตร. ระบุนอนไม่หลับหลังทำเรื่องใหญ่ มีคนสะกดรอยตาม
 

ขณะที่บรรยากาศที่วัดนครอินทร์ วันนี้ (30 มี.ค.) นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เดินทางมาทำบุญวัดนครอินทร์ หลังจากได้แถลงข่าวเปิดหลักฐานเส้นทางการเงินส่วยจากบัญชีม้า ที่ชื่อ คชาชาญ โอนเข้ามาทำบุญ บัญชีทอดกฐิน สร้างวิหารวัดนครอินทร์ เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2566  ซึ่งมีชื่อ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เป็นประธาน พร้อมเตรียมเปิดหลักฐานแฉเส้นทางการเงินรับส่วยโยงบิ๊กตำรวจเพิ่มเติม

เมื่อทนายตั้มมาถึงพร้อมกับภรรยา ก็ได้เดินมาสักการะพระพุทธรูปหลวงพ่อทันใจสมปรารถนา บริเวณศาลาพิทักษ์สามัคคี และร่วมทำบุญด้วยเงินสดใส่ในตู้บริจาค จากนั้นได้เดินมาดูวิหารที่กำลังสร้างอยู่ภายในวัด

จากนั้นทนายตั้ม ให้สัมภาษณ์ สื่อมวลชน ระบุว่า วันนี้มาทำบุญและตั้งใจมาบริจาคเงิน เพื่อสร้างเจดีย์ทุเรียน ซึ่งเป็นเงินตัวเองที่ได้มาจากการทำงาน เป็นเงินบริสุทธ์ จำนวน 5,000 บาท พร้อมขอพรให้ครอบครัวมีแต่ความสุขความเจริญ รู้สึกทำแล้วจิตใจผ่องแผ้ว

ส่วนเหตุผลที่เลือกมาวัดนี้  เพราะได้รับข้อมูลว่ามีบุคคลที่นำเงินไม่บริสุทธิ์ มาถวายที่วัดแห่งนี้เพื่อที่จะให้สร้างวิหาร ซึ่งวัดคงไม่ทราบว่าเงินที่มาทำบุญนั้นมาจากที่ใด แต่คนที่ทำบุญซึ่งนำเงินมาจากการรับส่วยหรือขูดรีดประชาชน ก็คงจะได้บุญน้อยกว่า 

ที่วัดแห่งนี้ ตนเองได้ตรวจพบเส้นเงินสองเส้น ที่โอนจากบัญชีม้าของเว็บพนันเข้ามาทำบุญที่วัด โดยบัญชีแรกคือบัญชีของ "คชาชาญ" โอนมา 700,000 บาท และ ส่วนอีกบัญชี คือบัญชีของ "ณัฐพงษ์" โอนเข้ามาทำบุญ 100,000 บาท 

ตรงกับข้อมูลที่วัดได้ทำการโพสต์ไว้ทางเพจของวัด เพื่อชี้แจงยอดเงิน ทั้งสองยอด ว่า พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ ได้ร่วมทำบุญ ซึ่งถือเป็นหลักฐานเพิ่มเติมที่ตนเองเจอ และเตรียมที่จะนำหลักฐานดังกล่าวไปแจ้งความที่ สน.เตาปูน วันจันทร์ที่ 1 เม.ย. เวลา 10.00 น.  ในข้อหาร่วมกันฟอกเงิน จำนวน 4 คน ประกอบด้วย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และภรรยา นายณัฐพงศ์, นายคชาชาญ เพราะบัญชีม้าสองคนนี้ยังไม่เคยถูกดำเนินคดีมาก่อน 

ยืนยันว่า ตอนนี้ตนเองมีหลักฐานพร้อมแล้ว มั่นใจว่าสามารถแจ้งความดำเนินคดีได้ เพราะก่อนหน้านี้ตนเองรอหลักฐานจากการส่งบัญชีวัดไปแย้งสำนักงานพระพุทธศาสนา แต่ปรากฎว่าวัดไม่ได้ส่งบัญชีไป ดังนั้นจึงขอให้ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาเข้ามาตรวจสอบการโอนเงินทำบุญนี้ด้วย

ส่วนกรณีที่ตนได้โพสต์เฟซบุ๊ก เมื่อคืนที่ผ่านมา และระบุว่าเป็นหลักฐานใหม่นั้น เป็นเส้นเงินของภรรยาของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ที่ได้รับโอนจากบัญชีมาทั้งหมด 38 เส้นทาง มีการตรวจสอบย้อนหลังไปสามปีที่ผ่านมา ช่วงที่พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ปี2562)

ขณะนั้นได้มีบัญชีม้าของ นายณัฐพงศ์ โอนเงินให้กับภรรยา เดือนละหลักแสนบาท แต่เมื่อพล.ต.อ.ต่อศักดิ์มาดำรงตำแหน่ง ผู้ช่วยผบ.ตร และ รองผบ.ตร. พบว่า มีบัญชีม้าได้โอนให้กับภรรยาพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เดือนละ 59,000 บาท จนถึงเมื่อเดือนตุลาคมปี 2566 

ทนายตั้ม ยังอธิบายเส้นทางการเงิน เพิ่มเติมถึงขั้นตอนการโอนจากบัญชีม้าของเว็บพนันออนไลน์ กว่าจะไปถึงภรรยาของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ด้วยว่า มีการโอนกัน 4-5 รอบ โดยเริ่มจาก บัญชีพิมวิไล โอนไปให้คชาชาญ จากนั้น คชาชาญ โอนไปให้นายณัฐพงศ์ และนายณัฐพงศ์ โอนวนอยู่บัญชีม้าที่ตนเองถืออยู่ ก่อนจะโอนไปให้ภรรยาของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ โดยเป็นการโอนเงินช่วงปี 2562- ต.ค.2566

ในช่วงเวลานี้ จากหลักฐานที่ตนเองพบ 38เส้นทางการเงินนั้น มีบัญชีของนายณัฐพงศ์โอนตรงไปบัญชีภรรยาพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ 2บัญชี ซึ่งปี 2562 โอนเดือนละแสน จากนั้นวันที่ 8 มี.ค.2564 เหลือเดือนละ 59,000บาท จนถึง ต.ค.2566

"เส้นเงินนี้ เป็นคนละเส้นกับที่ได้ยื่นให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ให้ตรวจสอบ ซึ่งถือเป็นจำนวนเงินมหาศาลหลายล้านบาท เป็นเงินที่มาจากบัญชีส่วยและพนันออนไลน์ชัดเจน"

ส่วนกรณีที่ ทีมทนายความของ พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ ระบุว่า หลักฐานดังกล่าวของตนเองนั้น ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทนายตั้ม ระบุ ว่า หากชอบด้วยกฎหมายจริงก็ให้ไปฟ้องร้องดำเนินคดี แต่ที่ยังอยู่เฉย ก็เพราะเป็นของจริง และมองว่าที่ออกมาพูดนั้นเป็นการดิสเครดิต ซึ่งตนเองพร้อมจะเปิดหลักฐานทั้งในชั้นศาล และการแถลงข่าว

ส่วนที่ถูกมองว่าการที่ได้หลักฐานมานั้นมีส่วนรู้เห็นกับเจ้าหน้าที่ ทนายตั้ม ยืนยันว่า หากพบว่าใครไปดูทะเบียนราษฎร์ของผบ.ตร. ก็ให้ดำเนินคดีไปได้เลยแต่ยืนยันว่า ไม่ใช่คนของตัวเองอย่างแน่นอน 

ทนายตั้ม ยังบอกถึง การเดินทางมาที่วัดวันนี้ เพิ่มเติมด้วยว่า นอกจากจะทำบุญแล้ว ก็อยากจะมาสอบถามข้อมูล กับเจ้าอาวาสและบุคคลที่เกี่ยวข้องแต่ทุกคนปิดปากเงียบ จึงมองว่าคงถูกสั่งมา อย่าให้ข้อมูล ซึ่งตนเข้าใจว่าขณะนี้ทางสำนักพระพุทธศาสนาก็กำลังที่จะมาตรวจสอบ เส้นทางการเงินด้วยเช่นกัน ในฐานะที่กำกับดูแลวัด 

ทนายตั้ม ยืนยันว่าหลักฐานที่รวบรวมได้ทั้งหมด เป็นของจริง ซึ่งก็จะเดินทางไปแจ้งความเอาผิด ในวันจันทร์นี้อย่างแน่นอน โดยจะต้องดันให้สุด เพราะอีกหนึ่งก็คือต้องพิสูจน์ตัวเอง เนื่องจากครั้งนี้ออกมาทำเพื่อประชาชน ไม่ได้ต้องการต่อรองและตบทรัพย์ 

ขณะนี้ยืนยันว่าไม่มีใครติดต่อมาเพื่อที่จะขอให้ยุตติเรื่องดังกล่าว แต่ยอมรับว่าทุกวันนี้ตนนอนไม่ค่อยหลับอยู่ด้วยความหวาดระแวง แม้กระทั่งเช้านี้ก่อนที่จะมาทำบุญก็ถูกรถจักรยานยนต์ปริศนาขับตาม แต่ตนก็ขับหนีทัน

logoline