
1 มีนาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 29 ก.พ. ที่ผ่านมา พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล. สั่งการ พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง.ผบก.ป ช่วยราชการ รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.เอกนิรุจฒิ์ วันสิริภักดิ์ ผกก.1 บก.ทล.พ.ต.ท.ปภินวิทย์ อุดมพร สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล. จับกุมตัวนายชัยวัฒน์ อายุ 55 ปี ตามหมายจับศาลแขวงปทุมวัน ลงวันที่ 13 พ.ย. 2566 ข้อหา "ร่วมกันฉ้อโกง, ร่วมกันหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ,ร่วมกันปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอม,หมิ่นประมาท" ได้ที่บริเวณริมถนนสายเอเชีย กม.2-3 ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา
สืบเนื่องจากได้รับแจ้งว่ามีรถยนต์เก๋งยี่ห้อ BMW สีดำ ต้องสงสัยสวมทะเบียน ขับผ่านมาบนถนนสายเอเชีย จึงจัดกำลังเฝ้าสังเกตการณ์ กระทั่งเมื่อพบรถคันดังกล่าว จึงเรียกตรวจสอบ พบนายชัยวัฒน์ เป็นผู้ขับขี่ ทั้งนี้ เมื่อตรวจสอบเลขตัวถังรถกับข้อมูลในระบบขนส่ง พบว่า เป็นรถที่สวมหรือติดแผ่นป้ายทะเบียนไม่ตรงตามที่แจ้ง จึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐานก่อนนำส่ง สภ.พระอินทร์ราชา จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
แต่ด้วยความที่พฤติกรรมของนายชัยวัฒน์ ที่มีการนำแผ่นป้ายทะเบียนรถคันอื่นมาสวม คล้ายกับปิดบังอำพรางตัวตนดูต้องสงสัย จึงทำการตรวจสอบประวัติของนายชัยวัฒน์ ก่อนพบว่ามีหมายจับศาลแขวงปทุมวัน ในคดีร่วมกับพวกรวม 3 คน หลอกเงินผู้เสียหาย กว่า 20 ล้านบาท อ้างว่า สามารถพาเข้าไปทำงานเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทยได้
โดยแผนประทุษกรรมในคดีดังกล่าว เริ่มจาก ผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ได้ทำทีตีสนิทอดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย ว่ามีตำแหน่ง สส.บัญชีราชื่อลำดับที่ 20 ของพรรคเพื่อไทย ว่างอยู่ แต่ต้องเสียค่าสมัครเป็นเงิน 40 ล้านบาท อีกทั้งกลุ่มผู้ต้องหายังแอบอ้างชื่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรือ อุ๊งอิ๊งค์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย จนทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ และไปลาออกจาก สส.บัญชีรายชื่อของพรรคเสรีรวมไทย เพื่อมาสมัครเป็น สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ตามที่มีการกล่าวอ้าง
จากนั้นก็ได้นัดหมายเจรจาและจ่ายเงินค่าสมัคร ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง โดยจ่ายเงินสดงวดแรกให้ก่อนจำนวน 20 ล้านบาทแก่กลุ่มผู้ต้องหา ก่อนที่กลุ่มผู้ต้องหาจะพาไปถ่ายรูปและสมัครเป็น สส.บัญชีรายชื่อที่พรรคเพื่อไทย ก่อนจะพากลับมาที่โรงแรมอีกครั้ง แล้วพยายามพูดคุยให้จ่ายเงินส่วนที่เหลืออีก 20 ล้านบาท แต่ผู้เสียหาย ขอไปจ่ายให้กับ น.ส.แพทองธาร ที่พรรคเพื่อไทย ด้วยตัวเอง แต่เมื่อไม่ได้พบ น.ส.แพทองธาร จึงไม่มีการจ่ายเงินส่วนที่เหลืออีก 20 ล้านบาท
กระทั่งเมื่อพรรคเพื่อไทยประกาศรายชื่อ สส.บัญชีรายชื่อ ปรากฏว่าไม่มีชื่อของผู้เสียหายแต่อย่างใด จึงเชื่อว่าถูกหลอกลวง เข้าแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่ สน.ลุมพินี
ต่อมาเมื่อ น.ส.แพทองธาร ทราบเรื่องว่ามีการแอบอ้างชื่อเพื่อไปหลอกเงิน จึงตัดสินใจมาเข้าแจ้งความเอาผิดกับผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย เพิ่มอีกคดีดังกล่าว จนมีการออกหมายจับ กระทั่ง ตำรวจทางหลวงสามารถจับกุมนายชัยวัฒน์ ที่ยังอยู่ระหว่างหลบหนีได้ดังกล่าว
จากการสอบนายชัยวัฒน์ ให้การปฏิเสธ แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อจึงนำตัวส่ง สน.ลุมพินี ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า จากการตรวจสอบประวัตินายชัยวัฒน์ ทราบว่า เคยเป็นทีมที่ปรึกษาด้านกฎหมายของแม่แตงโม ดาราสาวชื่อดัง และมักมีพฤติกรรมอ้างตัวว่า เป็นทนาย ทั้งที่ตัวเองนั้น ไม่ได้จบการศึกษาด้านกฎหมายแต่อย่างใด