24 กุมภาพันธ์ 2567 พ่อของ ตะวัน ตัวตุลานนท์ เดินทางไป ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เพื่อขอประกันตัวลูกสาวและเพื่อน ซึ่งผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าในคดีที่ พนักงานสอบสวน สน.ดินแดน ได้ยื่นคำร้อง ฝากขัง นางสาว ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ "ตะวัน" นักเคลื่อนไหวกลุ่มทะลุวัง และนาย ณัฐนนท์ ไชยมหาบุตร หรือ"แฟรงค์" ผู้ต้องหาที่ 1-2
ในข้อหา "ร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใด อันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญหรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริตเพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน มาตรา 116, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร หรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญาและร่วมกันกระทำด้วยประการใดอันเป็นการก่อความเดือดร้อนรำคาญในที่สาธารณะ, ทราบคำสั่งของเจ้าพนักงานซึ่งสั่งการตามอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายให้ไว้ ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งโดยไม่มีเหตุหรือข้อแก้ตัวอันสมควร"
จากกรณีเหตุการณ์ที่ น.ส.ทานตะวัน ร่วมกับ นายณัฐนนท์ นักเคลื่อนไหวกลุ่มทะลุวัง พยายามขับรถแซงขบวนเสด็จบนทางด่วน พร้อมบีบแตรรถยนต์ลากยาวระหว่างขบวนเสด็จผ่าน และใช้ถ้อยคำดูหมิ่นเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ถวายความปลอดภัย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งต่อมาศาลได้มีคำสั่งให้ฝากขังและไม่ให้ประกันในคดี
ล่าสุดช่วงเช้าวันนี้ นายสมหมาย ตัวตุลานนท์ พ่อของ น.ส.ทานตะวัน ได้มายื่นขอให้ศาลอาญาพิจารณาปล่อยตัวชั่วคราวทั้ง 2 คน
นายสมหมาย เปิดเผยว่า เมื่อวานได้ไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ พบว่า นายณัฐนนท์ มีร่างกายที่แย่มาก ร่างกายขาดน้ำและขาดอาหาร เบลอไปหมด พูดไม่ได้ ส่วนอาการของน.ส. ทานตะวัน ร่างกายเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก การพูดจาสามารถทำได้เพียงแค่กระซิบ แทบจะไม่ได้ยินเลย
ถ้าปล่อยต่อไปให้เป็นเช่นนี้ อีกไม่กี่วันไม่แน่ใจว่าจะรักษาชีวิตไว้ได้หรือไม่ ทั้งสองคนไม่มีแรงแม้กระทั่งจะฝากบอกอะไรมา เลยมาขอความเมตตาจากศาล ให้ปล่อยตัวชั่วคราว เพื่อออกมารับการรักษา โดยครั้งนี้เป็นการยื่นขอประกันครั้งที่ 3 จึงหวังว่าศาลจะเมตตา
นอกจากนี้ยังกล่าวว่า ในวันเกิดเหตุทั้ง 2 คนไปร่วมงานศพของนักเคลื่อนไหวทางการเมืองกลุ่มทะลุฟ้าคนหนึ่ง ซึ่งขากลับได้ขึ้นทางด่วนแล้วไปเจอขบวนเสด็จโดยบังเอิญ ไม่ได้มีเจตนา หรือวางแผนเพื่อไปก่อเหตุป่วนขบวนเสด็จแต่อย่างใด เพราะคนทั่วไปไม่มีทางรู้ได้เลยว่า เส้นทางเสด็จจะใช้เส้นทางใดบ้าง เป็นเรื่องธรรมดาที่ระหว่างเดินทางอยู่จะไปเจอขบวนเสด็จ อีกทั้งขบวนเสด็จใช้ความเร็ว ไม่มีทางที่จะขับรถตามไปป่วนขบวนเสด็จได้ทัน
แต่ก็ยอมรับว่า เด็กทั้งสองคนมีพฤติกรรมและใช้วาจาไม่เหมาะสมกับเจ้าหน้าที่ แต่การการกล่าวหาดังกล่าวนั้นเป็นเรื่องที่เกินความเป็นจริง ลำพังเด็กทั้งสองคนจะไปทำอะไรได้ เพราะถ้ามีการใช้ความรุนแรงจริง เจ้าหน้าที่ก็สามารถดำเนินการขั้นเด็ดขาดขณะเกิดเหตุได้ทันที
อีกที้งยังให้คำมั่นว่า หากศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว จะดูแลลูกไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องการเมืองอีก จะให้ใช้ชีวิตตามประสาวัยรุ่น และเรียนให้จบต่อไป
ด้านนายนภสินธุ์ ตรีรยาภิวัฒน์ หรือ สายน้ำ กลุ่มทะลุวัง ซึ่งมาให้กำลังใจ เปิดเผยว่า คดีที่อยู่ในชั้นพนักงานสอบสวนซึ่งจะครบฝากขังผัดแรกเป็นเวลา 12 วัน ในเร็วๆนี้ ต้องดูว่าพนักงานสอบสวนจะยื่นฝากขังผลัดที่ 2 ต่อหรือไม่
ในคดีนี้พนักงานสอบสวนให้เหตุผลคัดค้านประกันตัวว่า ผู้ต้องหาอาจไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือหลบหนีได้ ซึ่งที่ผ่านมาทั้งสองไม่ได้มีเจตนาหลบหนี และไม่เคยไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานแต่อย่างใด จึงไม่เห็นความจำเป็นที่พนักงานสอบสวนจะต้องออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งสองคน วันนี้จึงมาให้กำลังใจให้นายสมหมาย เพราะรู้สึกเป็นห่วงเพื่อน จึงอยากให้ศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว
ชมคลิป