22 มกราคม 2566 พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม และในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน เปิดเผยว่า การเข้ามอบตัวเพื่อขอต่อสู้คดีของเฮียเก้า เป็นการประสานงานผ่านทนายความ หลังเจ้าตัวเดินทางไปประเทศจีนเพื่อดูธุรกิจ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2566 ก่อนที่จะมาทราบว่าถูกออกหมายจับ
โดยเบื้องต้นให้การยอมรับว่า ทำธุรกิจการส่งออกไก่ไปประเทศจีนจริง โดยเป็นการรวบรวมไก่จากไทยส่งออกไป ส่วนประเด็นอื่นๆยังอยู่ระหว่างการสอบสวนซึ่งตั้งประเด็นที่จะสอบปากคำไว้ 30 ประเด็น เป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องตามข้อกล่าวหาที่มีการแจ้งกับเฮียเก้าและพวก รวม 5 คน ร่วมการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ร.บ. โรคระบาดสัตว์ พ.ร.บ.ฟอกเงิน และอั้งยี่
ส่วนนายกรินทร์ ปิยพรไพบูลย์ ลูกชายเฮียเก้า ยังไม่สามารถติดต่อได้
สำหรับประเด็นความเกี่ยวโยงกับนักการเมืองชื่อดัง ซึ่งก่อนหน้านี้มีกระแสคำว่าเป็นพี่น้องกัน เฮียเก้าให้การในประเด็นนี้ว่า มีความเกี่ยวข้องกัน โดยมีต้นตระกูล คือปู่อยู่ที่เมืองจีนด้วยกัน และอยู่หมู่บ้านเดียวกัน ซึ่งยังต้องสอบปากคำเพิ่มเติมว่ามีความเกี่ยวข้องกันหรือไม่
ส่วนจะมีการให้ประกันตัวหรือไม่นั้นจะต้องดูว่าพฤติกรรมและคำให้การ ว่าเป็นประโยชน์ต่อคดีหรือไม่ หลังจากนั้นจะเสนอต่อผู้บังคับบัญชามีความเห็นต่อไป
อย่างไรก็ตามในวันพรุ่งนี้(23 ม.ค.) 09.00 น. จะมีการประชุมคณะพนักงานสอบสวน เพื่อที่จะสรุปรายละเอียดของการออกหมายจับทั้ง 5 คนและพยานหลักฐานต่างๆที่รวบรวมมา ว่าหลังจากนี้จะเชิญข้าราชการระดับสูงของกรมปศุสัตว์ รวมถึงหน่วยงานอื่นๆของรัฐ หน่วยงานใดบ้าง ที่เกี่ยวข้อง มาให้ข้อมูลและข้อเท็จจริง ซึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาได้พูดคุยกับข้าราชการของกระทรวงเกษตรฯ ในเบื้องต้นไปแล้ว ทั้งหมดขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของพนักงานสอบสวน แต่คาดว่าจะได้รับความชัดเจนในหลายๆประเด็นที่สำคัญของคดีนี้