svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

“นครบาล-อาชีวะ" ร่วมถอดบทเรียน "มีนบุรีโมเดล" แก้ปัญหานักเรียนตีกัน

24 พฤศจิกายน 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

พล.ต.ต.ชรินทร์ เชิญตำรวจ 14 สน.- วิทยาลัยอาชีวะ 3 สถาบัน ร่วมหารือ “ปัญหาเด็กช่างตีกัน” พร้อมชู “มีนบุรีโมเดล” ความร่วมมือป้องกันของ “บก.น.3 - เทคนิคมีนบุรี” ต้นแบบความสำเร็จให้กับพื้นที่อื่นๆ

24 พฤศจิกายน 2566 พล.ต.ต.ชรินทร์ โกพัฒน์ตา รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รอง ผบช.น.) ดูแลด้านงานปราบปราบ เป็นประธานประชุม ร่วมกับหัวหน้าสถานีตำรวจนครบาล 14 โรงพักในพื้นที่เสี่ยง พร้อมด้วยผู้บริหาร วิทยาลัยอาชีวะศึกษาอีก 3 สถาบัน ที่ศูนย์ความปลอดภัยการอาชีวศึกษา วิทยาลัยเทคนิคมีนบุรี เพื่อหาข้อสรุปในแนวทางแก้ไขปัญหาความรุนแรงจากกลุ่มเด็กอาชีวะ รวมถึงเตรียมการตั้งรับกระแสหนัง “โฟร์คิง” ที่จะเข้าฉ่ายในช่วงสิ้นเดือนนี้

โดย สน.ที่เข้าประชุม 14 โรงพัก ประกอบด้วย
1.สน.มีนบุรี, 2.สน.ปทุมวัน, 3.สน.หัวหมาก, 4.สน.ดุสิต, 5.สน.สามเสน, 6.สน.พระโขนง, 7.สน.ทองหล่อ, 8.สน.บางนา, 9.สน.บางกอกใหญ่, 10.สน.หลักสอง, 11.สน.หนองค้างพลู, 12.สน.บางบอน, 13.สน.ธรรมศาลา และ14สน.แสมดำ

ส่วนวิทยาลัย 3 สถาบันที่เข้าประชุมได้แก่ 1.วิทยาลัยเทคนิคมีนบุรี, 2.วิทยาลัยเทคโนโลยีมีนบุรีโปลีเทคนิค และ3.วิทยาลัยเทคนิคกาญจนาภิเษกมหานคร

โดย พล.ต.ต.ชรินทร์ เผยก่อนการประชุมว่า ที่ผ่านมา วิทยาลัยเทคนิคมีนบุรี ร่วมกับผู้บังคับการตำรวจนครบาล 3 (ผบก.น.3) และ ตำรวจ สน.มีนบุรี ได้วางมาตรการเพื่อป้องกันเหตุนักเรียนช่างตีกัน และความรุนแรงในกลุ่มเด็กอาชีวะ ซึ่งผลปรากฎว่าความรุนแรงที่เคยเกิดขึ้นลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด 

นอกจากนี้ ยังเห็นได้ว่า น้องๆ นักเรียนมีความตั้งใจในการเล่าเรียนมากขึ้น ไม่มีความสนใจที่จะไปก่อเหตุตีกันเหมือนที่ผ่านมา จึงอยากให้ “มีนบุรีโมเดล” เป็นต้นแบบให้กับสถาบันอาชีวะในพื้นที่อื่นๆ ที่เป็นพื้นที่เสี่ยงด้วย (ซึ่งการประชุมที่เกิดขึ้นไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ จึงเชิญสื่อออกด้านนอก)

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้ลองไปพูดคุยกับน้องๆ ในวิทยาลัยเทคนิคมีนบุรี ซึ่งความรู้สึกแรกที่เห็นความแตกต่าง เมื่อผู้สื่อข่าวเข้าไปในวิทยาลัยฯ คือ น้องๆ มีการแต่งเครื่องแบบนักเรียน ตามที่โรงเรียนบังคับใส่ และที่เห็นได้ชัด คือ ทรงผมที่มีการตัดผมคล้ายกับนักเรียนมัธยมปลาย หรือที่รู้จักกันคือ “รองทรงสูง” ซึ่งน้องๆ ที่ได้พูดคุยด้วยเป็นเด็กที่ค่อนข้างน่ารักและเป็นกันเอง ไม่ได้มีความก้าวร้าว แต่อย่างใด

โดยน้องๆ ให้ความคิดเห็นถึงประเด็นที่มีการประชุมแก้ไขปัญหาเด็กอาชีวะตีกัน บางส่วนบอกว่า ก็อาจจะแก้ไขปัญหาไม่ได้ เพราะหากเกิดการเผชิญหน้าก็อาจจะเกิดความหมั่นไส้กันและเกิดความรุนแรง แต่ส่วนหนึ่งก็บอกว่า แก้ปัญหาได้ แต่อาจจะเริ่มจากแนวโครงสร้างก่อน อย่างเช่น เทคนิคมีนบุรี ที่มีปรับเปลี่ยนการแต่งตัว ทรงผม ที่ส่งผลอย่างมากที่ไม่ทำให้เกิดความรุนแรง เพราะ อาชีวะสถาบันอื่นก็มองไม่ออกว่า เราเป็นนักเรียนปกติ หรือเด็กอาชีวะ ทำให้ไม่เกิดความรุนแรงขึ้น

แม้ว่าเวลาเดินออกไปนอกวิทยาลัยอาจมีระแวงบาง แนวทางที่ปฏิบัติ มันทำให้การก่อเหตุตีกันลดลงจริงๆ นอกจากนี้ การตรวจตราของคณาจารย์ก๋สำคัญ การตรวจภายในวิทยาลัยก็คือ การตรวจเครื่องแต่งกายและอาวุธต่างๆ ส่วนการตรวจด้านนอกก็จะดูในช่วงเวลาที่นักเรียนกลับบ้าน พยายามดูแลให้กลับบ้านโดยสวัสดิภาพ ไม่ร่วมเป็นกลุ่ม

เมื่อถามว่า จะไปดูภาพยนต์ “4 king ภาค 2” หรือไม่ ทุกคนตอบเหมือนกันว่า จะไปดูอย่างแน่นอน เพราะบางครั้งหนังก็ให้ข้อคิด และเราจะมองเห็นภาพตัวเองตอนโตมากขึ้น

logoline