svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

ศาลอนุญาตปล่อยชั่วคราว "ชัยวัฒน์" คดี 157 ตีราคาประกัน 8 แสนบาท

28 กันยายน 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ศาลให้ประกัน "ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร" คดี 157 จับกุม "บิลลี่" พร้อมน้ำผึ้งป่า แต่ไม่นำตัวส่งตำรวจ ตีราคาประกัน 8 แสนบาท พร้อมสั่งห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร ขณะที่ทนายความภรรยาบิลลี่ เตรียมยื่นอุทธรณ์

28 กันยายน 2566 เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง วันนี้นัดฟังคำพิพากษา ในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อท 166/65 ระหว่าง พนักงานอัยการ สํานักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ฟ้องนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร จำเลยที่ 1 กับพวกรวม 4 คน

โจทก์ฟ้องว่า จําเลยทั้งสี่ร่วมกันจับกุมตัวนายพอละจี หรือบิลลี่ ที่หน่วยพิทักษ์อุทยาน แห่งชาติแก่งกระจานที่ 6 (ด่านเขามะเร็ว) ในความผิดฐานนำของป่า (น้ำผึ้ง) ออกจากเขตอุทยาน แห่งชาติ จําเลยทั้งสี่ไม่ได้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ไม่ได้ควบคุมตัวนายพอละจี พร้อมของกลางส่ง สภ.แก่งกระจานหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจเปรียบเทียบดำเนินการตามกฎหมาย

แต่ควบคุมตัวนายพอละจี พร้อมของกลางไปยังสถานที่ใดไม่ปรากฏ โดยใช้อาวุธปืนควบคุมตัวนายพอละจี ไว้ในรถยนต์กระบะ เป็นการข่มขืนใจนายพอละจี ให้ต้องยอมไปกับจำเลยทั้งสี่ ทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สิน และอยู่ในภาวะไม่สามารถขัดขืนได้ เป็นการหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังนายพอละจี ให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกาย

ศาลอนุญาตปล่อยชั่วคราว \"ชัยวัฒน์\" คดี 157 ตีราคาประกัน 8 แสนบาท

ต่อมาจําเลยทั้งสี่ร่วมกันฆ่านายพอละจี โดยไตร่ตรองไว้ก่อน เพราะจําเลย ที่ 1 มีเหตุขัดแย้งและมีสาเหตุโกรธเคืองกับนายพอละจี มาก่อน เป็นเหตุให้นายพอละจี ถึงแก่ความตาย จากนั้นจำเลยทั้งสี่ร่วมกันเผาทำลายศพนายพอละจี แล้วเก็บชิ้นส่วนศพ ที่เหลือจากการเผาเศษเถ้าถ่านและที่เหลือใส่ถังน้ำมัน 200 ลิตร ไปทิ้งลงน้ำบริเวณสะพานแขวน เขื่อนแก่งกระจาน เพื่อทำลายหลักฐานอำพรางคดีแก่ศพ หรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพ ก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น

เหตุเกิดที่ตำบลห้วยแม่เพรียง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี และ ตำบลสองพี่น้อง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี เกี่ยวพันกัน

ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83,86,81,157,289,309,310 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 150 ทวิ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 123/1 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172 จำเลยทั้งสี่ให้การปฏิเสธ

ระหว่างพิจารณาบุตรของนายพอละจี หรือบิลลี่ และมารดาของนายพอละจีหรือบิลลีขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมกับพนักงานอัยการ

ศาลอนุญาตปล่อยชั่วคราว \"ชัยวัฒน์\" คดี 157 ตีราคาประกัน 8 แสนบาท

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานของโจทก์และจําเลยตามทางไต่สวนแล้วเห็นว่า สำหรับความผิดข้อหาปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ไม่ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ไม่นำตัวนายพอละจี หรือบิลลี่ พร้อมของกลางส่งให้เจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจดำเนินการตามกฎหมาย เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต

พยานหลักฐานโจทก์ และโจทก์ร่วมรับฟังได้ว่า จำเลยที่ 1 ไม่ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ไม่นำตัวนายพอละจี พร้อมของกลางนํ้าผึ้งส่งให้เจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจดำเนินการตามกฎหมาย การกระทำของจำเลยที่ 1 มีความผิดตามฟ้อง ส่วนจำเลยที่ 2-3 ไม่มีเจตนาพิเศษร่วมกระทำผิด จำเลยที่ 4 ไม่มีเจตนาสนับสนุนการกระทำผิด จึงไม่มีความผิดข้อหาร่วมกันข่มขืนใจ หน่วงเหนี่ยวหรือกักขัง นายพอละจี ให้จำยอมโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายแก่ชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สิน ทำให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกายโดยมีอาวุธ เป็นเหตุให้นายพอละจี ผู้ถูกเหนี่ยวกักขัง หรือต้องปราศจากเสรีภาพนั้นถึงแก่ความตาย

ศาลอนุญาตปล่อยชั่วคราว \"ชัยวัฒน์\" คดี 157 ตีราคาประกัน 8 แสนบาท

การพิจารณาพบว่าคำให้การและพฤติการณ์ของจำเลยทั้งสี่มีพิรุธ หลายประการ เช่น จุดที่อ้างว่าปล่อยตัวนายพอละจี แต่ไม่มีพยานยืนยัน พยานจำเลยทั้งสี่ที่อ้างว่า เห็นนายพอละจี หลังจากได้รับการปล่อยตัวก็เบิกความกลับไปมาและไม่สอดคล้องกับเวลาที่ ปรากฏในกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงจุดปล่อยตัว มีน้ำหนักน้อย และเส้นทางที่จำเลยทั้งสี่อ้างว่าใช้ เดินทางกลับหลังปล่อยตัวนายพอละจี กล้องวงจรปิดในเส้นทางที่ต้องผ่านไม่พบรถยนต์ที่ จำเลยทั้งสี่ขับผ่านแต่กลับไปพบรถยนต์ที่จำเลยทั้งสี่ใช้วิ่งไปด่านเขาสามยอดอีกเส้นทาง แต่จะนำเฉพาะคำให้การของจำเลยทั้งสี่เป็นพิรุธมาลงโทษไม่ได้

การพิสูจน์ความผิดต้องมีพยานหลักฐานที่มีน้ำหนัก มั่นคงมาพิสูจน์ว่ามีการกระทำผิดและจำเลยทั้งสี่เป็นผู้กระทำผิด หลักฐานของโจทก์และโจทก์ร่วมมีเพียงภาพที่ได้จากกล้องวงจรปิดที่ชี้ให้เห็นว่าคำให้การจำเลยทั้งสี่มีพิรุธ แต่ภาพที่ได้จากกล้องวงจรปิด ในเส้นทางไปด่านเขาสามยอดไม่ชัดเจนพอที่จะยืนยันการกระทำผิดประกอบไม่มีหลักฐานทั้งพยาน บุคคล วัตถุพยาน หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ยืนยันได้ว่าจำเลยทั้งสี่พานายพอละจี ไปด่านเขาสามยอด ตามที่คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนทั้งประเด็นหรือไปยังสถานที่ใด พยานจึงไม่มีน้ำหนักเพียงพอรับฟังว่า มีการกระทำผิดโดยจำเลยทั้งสี่

ความผิดข้อหาร่วมกันฆ่านายพอละจี โดยไตร่ตรอง ผลการตรวจไมโทคอนเดรียดีเอ็นเอชิ้นส่วนกระดูก Temporal (กระดูกขมับ) ข้างซ้าย วัตถุพยานที่พบใต้น้ำใน เขื่อนแก่งกระจานเป็นของบุคคลที่เป็นบุตรของนางโพเราะจี หรือเป็นหลานของ นางนอกะเต มารดา นางโพเราะจี เนื่องจากสารพันธุกรรมในไมโทคอนเดรียเป็นพันธุกรรมที่ถ่ายทอดจากมารดาสู่บุตร แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นของบุคคลใด

ส่วนการวิเคราะห์กระดูกวัตถุพยาน พบว่าเป็นของบุคคลอายุ 20 ปี ขึ้นไปไม่สามารถบอกเพศ ความสูงและเชื้อชาติซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในการพิสูจน์เอกลักษณ์ของ บุคคลได้ การนําแผนผังเครือญาติมาใช้ประกอบผลการตรวจหาดีเอ็นเอแบบไมโทคอนเดรีย คดีนี้ยังมีข้อเท็จจริงที่ไม่เป็นการจำกัดวงอาจทำให้เกิดความคลาดเคลื่อนได้ และไม่มีแพทย์หรือผู้ตรวจพิสูจน์ ทางนิติวิทยาศาสตร์ยืนยันผลได้ว่าชิ้นส่วนกระดูกวัตถุพยานเป็นของนายพอละจี จึงฟังไม่ได้แน่ ชัดว่ากระดูก Tempora (กระดูกขมับ) ข้างซ้าย วัตถุพยานเป็นของนายพอละจี มีผลให้ฟังไม่ได้ว่า นายพอละจีถึงแก่ความตายแล้วหรือไม่

ทำให้ไม่ครบองค์ประกอบความผิดฐานฆ่าผู้อื่น ความผิดข้อหาร่วมกันเผาทำลายศพนายพอละจี และเก็บชิ้นส่วนศพที่เหลือจากการเผา เศษเถ้า ถ่านและเศษสิ่งของอื่น ๆ ที่เหลือบรรจุใส่ถังน้ำมัน 200 ลิตร ไปทิ้งใต้น้ำบริเวณสะพานแขวน เขื่อนแก่ง กระจาน เพื่อทำลายหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดของตน เพื่ออำพรางคดีแก่ศพหรือ สภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น

เมื่อพิสูจน์ไม่ได้ว่ากระดูก Temporal (กระดูกขมับ) ข้างซ้าย วัตถุพยานเป็นของนายพอละจีหรือบิลลี่ ประกอบกับโจทก์และโจทก์ร่วมทั้งสาม ไม่มีประจักษ์พยานและพยานแวดล้อมใกล้ชิดเห็นหรือเชื่อมโยงได้ว่า จำเลยทั้งสี่นำถังน้ำมันของกลางไปทิ้งในเขื่อน จึงไม่มีพยานรับฟังลงโทษจำเลยทั้งสี่เช่นกัน

พิพากษาว่า จําเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157(เดิม) พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 123/1 การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ลงโทษตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 123/1 ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุก 3ปี ข้อหาอื่นนอกจากนี้ให้ยก และยกฟ้องจำเลยที่ 2-4

ด้าน น.ส.พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ทนายความภรรยาบิลลี่ กล่าวว่า หลังจากนี้จะยื่นอุทธรณ์คดีอย่างแน่นอน เนื่องจากศาลลงโทษเฉพาะความผิด มาตรา 157 กรณีจับกุมตัวนายบิลลี่ พร้อมน้ำผึ้งป่า และไม่นำตัวส่งพนักงานสอบสวน ตามขั้นตอนของกฎหมาย คดีนี้เท่ากับย้อนไปสู่จุดเริ่มต้นว่า นายบิลลี่ ยังคงเป็นบุคคลสูญหาย จึงจะเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้ามี่รัฐ ในการพิสูจน์การหายตัวไปของนายบิลลี่

ด้าน พิณนภา พฤกษาพรรณ ภรรยานายบิลลี่ ร้องไห้หลังทราบคำพิพากษา พร้อมยืนยันว่า อยากตามหาบิลลี่ให้พบเพื่อให้หายข้องใจว่า สามีหายตัวไปไหน

ศาลอนุญาตปล่อยชั่วคราว \"ชัยวัฒน์\" คดี 157 ตีราคาประกัน 8 แสนบาท

ภายหลังศาลอาญาคดีทุจริตฯ พิพากษาลงโทษจำคุก นายชัยวัฒน์ 3 ปี คดี 157 จับกุม “บิลลี่” พร้อมน้ำผึ้งป่า แต่ไม่นำตัวส่งตำรวจ ยกฟ้องคดีอุ้มฆ่าทำลายศพ เหตุยังพิสูจน์ไม่ได้ว่าบิลลี่ เสียชีวิตแล้วหรือไม่ กระดูกที่พบระบุไม่ได้ว่าเป็นใครแล้ว
   
ต่อมานายชัยวัฒน์ ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอประกันตัวระหว่างอุทธรณ์ ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว โดยตีราคาประกัน 800,000 บาท ห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร

logoline