
25 สิงหาคม 2566 ความคืบหน้าคดีหนุ่มกร่าง ชักปืนขู่ และทำร้ายวิน จยย. กลางซอยทองหล่อ ล่าสุด พ.ต.อ.พันษา อมราพิทักษ์ ผู้กำกับการ สน.ทองหล่อ เดินทางมาสอบปากคำกลุ่มคนที่โดยสารอยู่ภายในรถเบนซ์และผู้เสียหายที่เป็นวิน จยย. ก่อนเปิดเผยว่า เบื้องต้นพบว่าเป็นการทะเลาะวิวาทจากการขับรถปาดหน้าจนมีปากเสียง จากนั้นมีการชักอาวุธปืนขึ้นมาข่มขู่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
พ.ต.อ.พันษา ระบุอีกว่า หลังจากที่ตำรวจเข้าควบคุมตัว กลุ่มคนที่อยู่ในรถเบนซ์ ก็ได้นำตัวทั้งหมดมาสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สน.ทองหล่อ ประกอบด้วย
นายชาวิญญ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี คนขับรถเบนซ์
นายยุทธนา (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี คนนั่งเบาะซ้ายหน้าข้างคนขับ
นายอิทธิพัทธ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี
นายปัญจรัตน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี (สองคนนี้เป็นสาวประเภทสอง)
น.ส.ธามน (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี และ
น.ส.จิรันธนิน (สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี
ทั้งหมดเป็นเพื่อนในกลุ่มเดียวกันและตรวจพบสารเสพติดในร่างกาย
ทั้งนี้ จากการตรวจค้นรถพบอาวุธปืน 1 กระบอก และ ไอซ์ น้ำหนักเกือบ 2 ขีด ซุกซ่อนไว้บริเวณยางอะไหล่ ด้านฝากระโปรงด้านหลังรถ
พ.ต.อ.พันษา กล่าวด้วยว่า จากการสอบปากคำ นายชาวิญญ์ ตอนนี้ยังให้การวกวน เจ้าตัว ระบุว่า ทำธุรกิจเสื้อผ้า ส่วนรถเบนซ์คันดังกล่าวเป็นของลูกค้าที่นำมาแต่งที่อู่ แต่เมื่อซักไซร้ไล่เลียง นายชาวิญญ์ ไม่มีธุรกิจเปิดอู่ซ่อมรถแต่อย่างใด แต่ชอบแต่งรถเท่านั้น
จากการตรวจสอบทะเบียนรถ พบว่าเป็นทะเบียนปลอม ซึ่งชื่อเจ้าของรถตัวจริง เป็นบุคคลใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยยังอยู่ในระยะการผ่อนส่งและไม่ทราบว่า เจ้าของรถตัวจริงทราบเรื่องแล้วหรือไม่ อย่างไรก็ตาม นายชาวิญญ์ ยังให้การอีกว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้นำรถคันดังกล่าวที่อ้างว่าเป็นของลูกค้า มาขับทดสอบ เนื่องจากยังซ่อมไม่แล้วเสร็จ
พ.ต.อ.พันษา เผยอีกว่า จากนี้จะพิจารณาอายัดรถเบนซ์คันดังกล่าวเพื่อตรวจสอบว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีหรือไม่ หากพบว่าไม่เกี่ยวข้อง ก็จะมีการพิจารณาส่งคืนเจ้าของ แต่หากพบว่าเกี่ยวข้อง ก็ต้องยึดไว้ตรวจสอบตามกฎหมาย
สำหรับนายชาวิญญ์ เคยมีประวัติทางคดีอาญามาอย่างโชกโชน เคยต้องโทษในข้อหาบุกรุก สภ.ถลาง ปี 2553 , คดีทำร้ายร่างกาย สภ.บ้านโป่ง ปี 2555, คดี ทำให้เสียทรัพย์และทำให้กลัวในพื้นที่ สน.สุทธิสาร ปี 2556
ขณะเดียวกันที่มีการแอบอ้างจาก นายชาวิญญ์ว่า รู้จักบุคคลมีบารมีรายหนึ่งนั้น เจ้าตัวให้การปฏิเสธว่า ไม่ได้พูดอย่างที่กล่าวอ้าง และจากการตรวจสอบพบว่า นายยุทธนา มีบิดาเป็น นายตำรวจยศ ดาบตำรวจ ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา แต่เออรี่จากราชการไปแล้ว
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา นายชาวิญญ์ "ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ (ครอบครองปืนไม่มีทะเบียนฯ และ พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะฯ) , ใช้ป้ายทะเบียนปลอมฯ , ร่วมครอบครองยาเสพติดประเภท 1(ไอซ์) ไว้เพื่อจำหน่าย , เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 โดยผิดกฎหมาย
ขณะที่นายยุทธนา ถูกแจ้งข้อหา “ครอบครองไอซ์เพื่อจำหน่าย และ ร่วมกันครอบครองยาเสพติดประเภท 1 (ไอซ์) เพื่อจำหน่าย” ส่วนนายอิทธิพัทธ์ ถูกแจ้งข้อหา “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย , ครอบครองยาเสพติดประเภท 1 (เคตามีน) โดยผิดกฎหมาย” รวมทั้ง นายปัญจรัตน์ , น.ส.ธามน และ น.ส.จิรันธนิน ถูกแจ้งข้อหา “เสพยาเสพติด” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม ช่วงเย็น ตำรวจ สน.ทองหล่อได้คุมตัวผู้ต้องหา 4 ราย (หญิง 2 คนและสาวประเภทสอง อีก 2 คน)ที่โดยสารมาในรถเบนซ์ออกมาจากห้องปฏิบัติการสายตรวจเพื่อนำตัวไปคุมตัวในห้องขัง โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งหนึ่งในผู้ต้องหาที่มีอาการคล้ายมึนเมาอ้างว่า ตอนเกิดเหตุฝั่งวินจักรยานยนต์ มีการชักอาวุธมีดออกมาข่มขู่ พร้อมอ้างว่าถูกทำร้ายร่างกาย ทำให้ตนต้องลงรถไปกราบขอโทษ