
11 สิงหาคม 2566 ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ(บก.ปปป.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจทางหลวง(รรท.ผบก.ทล.) พ.ต.อ.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ รอง ผบก.ฯ.รรท.ผบก.ปปป. สั่งการให้ พ.ต.อ.แมน เม่นแย้ม รอง ผบก.ปปป. พ.ต.อ.อภิชาติ เรนชนะ ผกก.4.บก.ปปป. นำชุดปฏิบัติการพิเศษ “หนุมาน กองปราบ” ร่วมกับนายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้อำนวยการกองปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ 2 จับกุม ด.ต.ประกอบ นกลอย อายุ 54 ปี อดีตตำรวจ สภ.ตาคลี ได้ที่หน้าศาลาวัดห้วยร่วม หมู่ 3 ต.ห้วยร่วม อ.หนวงบัว จ.นครสวรรค์ ตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 ลงวันที่ 10 สิงหาคม 2566
สืบเนื่องจาก ด.ต.ฉัตรเพชร รัตนโศภิต ตรวจพบประตูห้องคลังอาวุธปืนภายใน สภ.ตาคลี มีร่องรอยการถูกงัด เหตุเมื่อ 2 มิถุนายน 2557 อีก 1 สัปดาห์ คณะกรรมการตรวจสอบอาวุธยุทธภัณฑ์ฯ มีหนังสือแจ้ง ด.ต.ประกอบ นกลอย เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลฯ ให้จัดทำบัญชีและจัดเตรียมสิ่งของหลวงเพื่อรอรับการตรวจ แต่ปรากฏว่าไม่สามารถติดต่อได้
กระทั่ง วันที่ 9 กรกฎาคม ปีเดียวกัน คณะกรรมการตรวจสอบอาวุธยุทธภัณฑ์ฯ ตรวจสอบพบว่ามีอาวุธปืนและรถจักรยานยนต์หายไป ประกอบด้วย อาวุธปืนพกลูกโม่แบบ 91 ขนาด .38 นิ้ว S&W 13 กระบอก 2.อาวุธปืนพกแบบ 97 ขนาด 9 มม. บราวนิงค์ไฮเพาเวอร์ 1 กระบอก 3 อาวุธปืนพกแบบ 86 ขนาด 11 มม. ยูเอสอาร์มี่ 1 กระบอก 4.รถจักรยานยนต์แบบชาย รุ่น วิคเตอร์ เอส สีน้ำตาล 3 คัน
ตำรวจ สภ.ตาคลี จึงได้แจ้งความดำเนินคดีกับ ด.ต.ประกอบ นกลอย เนื่องจาก ด.ต.ประกอบ มีหน้าที่ดูแลรักษาทรัพย์ของหลวง และเมื่อไม่สามารถติดต่อได้ เชื่อว่า ด.ต.ประกอบ ได้ลักทรัพย์อาวุธปืน และรถจักรยานยนต์ทำให้เกิดความเสียหายแก่ราชการ
สุดท้าย กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัด(บก.ภ.จว.)นครสวรรค์ มีคำสั่งลงโทษไล่ออกแล้วส่งเรื่องให้คณะกรรมการ ป.ป.ท. ก่อนสรุปส่งเรื่องให้อัยการพิเศษ ฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 1 ภาค 6 สั่งฟ้องคดี พร้อมแจ้งให้ ด.ต.ประกอบ แต่ไม่สามารถติดต่อได้ จึงขออำนาจศาลออกหมาจับไว้
กระทั่ง เจ้าหน้าที่สืบทราบว่า ด.ต.ประกอบ หลบหนีอยู่ในพื้นที่ อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ จึงนำกำลังจับกุมได้ดังกล่าว เบื้องต้น ด.ต.ประกอบ ให้การภาคเสธ เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสียฯ เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตฯ พร้อมนำตัวส่งอัยการฯดำเนินการต่อไป