
27 มิถุนายน 2566 พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) แถลงสรุปผลปฏิบัติการ Trust No One ปฏิบัติการล่าขุมทรัพย์ทุนจีนคริปโต EP.2 หลังขยายผลตรวจค้นยึดทรัพย์คอนโดมิเนียมและบ้านพักหรู 8 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ และอีก 2 จุด บ้านพักที่ใช้เป็นที่อยู่จดทะเบียนบริษัท มูลค่ารวมกว่า 600 ล้านบาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
สืบเนื่อง คดีหลอกลงทุนไฮบริดสแกม ซึ่งคนร้ายใช้โปรไฟล์ปลอมเข้าตีสนิทผู้เสียหาย ก่อนจะชักชวนลงทุนแพลตฟอร์มปลอมสำหรับเทรดเงินสกุลดิจิทัลหรือสินทรัพย์ต่างๆ ซึ่งมีผู้เสียหายทั้งในไทยและต่างประเทศ มากกว่า 20,000 คดี มูลค่าความเสียหายมากกว่า 10,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นคดีอาชญากรรมข้ามชาติ คดีฉ้อโกงประชาชน และการฟอกเงิน
ตำรวจไซเบอร์จึงประสานหน่วยงานกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐ หรือ HSI และหน่วยงานต่างประเทศ จนนำไปสู่การจับกุมตัวคนร้ายตัวจริง คือ นายเซาเซียน ซู และ นางคียิ ยี เพื่อนสาวคนสนิท คาบ้านพักหรูมูบค่ากว่า 67 ล้านบาท ซึ่งเป็นปฏิบัติการใน EP.1
จากนั้น มีขยายผลยึดทรัพย์ โฉนดที่ดิน 3 ฉบับและเอกสารจดทะเบียนบริษัท ซึ่งใช้นอมินีคนไทยจดทะเบียนบริษัทและถือหุ้นแทนหลายบริษัท แล้วนำเงินที่ได้จากการหลอกลวง นำไปฟอกผ่านสกุลเงินคริปโต ก่อนถูกโอนกลับเข้ามาซื้ออสังหาริมทรัพย์หรูหลายแห่งในไทย นำไปสู่การเข้าค้นยึดทรัพย์บ้านหรู 7 หลัง ใน 2 หมู่บ้าน และคอนโดมิเนียมหรูใจกลางสาทร เมื่อวานนี้(26 มิ.ย.)
ผลการตรวจค้น ไม่พบผู้กระทำความผิดเพิ่ม แต่การตรวจสอบบริษัทที่อ้างว่าเป็นที่ทำการ ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ และ ชลบุรี ปรากฎว่า เป็นเพียงบ้านเช่า ลักษณะโทรมๆเ ท่านั้น แต่การอายัดเอกสารหลักฐานจำนวนมากที่จะใช้ในการขยายผลเส้นทางการเงิน ซึ่งตำรวจเตรียมเปิดปฏิบัติการเข้าค้นและยึดทรัพย์ต่อใน EP.3 ภายใน 2-3 สัปดาห์
เบื้องต้น มีบ้านพัก 23 หลังที่ข้อมูลค่อนข้างชัดเจนและเตรียมเข้าตรวจค้น รวมถึงจะขยายผลจับกุมคนไทยและคนจีนอีกจำนวนหนึ่งที่มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับนายซู
สำหรับนายซู ที่จับกุมไปก่อนหน้านี้ใน EP.1 ถือเป็นผู้ต้องหารายสำคัญ เป็นบุคคลที่ทางการจีนต้องการตัว พบความเสียหายทั่วโลกจนถูกตำรวจสากลออกหมายแดงในคดีฉ้อโกง มูลค่าความเสียหายมากกว่า 180 ล้านหยวน โดยในประเทศไทยมีผู้เสียหายแจ้งความแล้ว 3 ราย , ผู้เสียหายในสหรัฐ แจ้งความแล้ว 1 ราย ,อังกฤษอีก 1 ราย และมีการอายัดกระเป๋าเงินดิจิทัลหลายบัญชี
อย่างไรก็ตาม นายซู ให้การปฏิเสธ แต่ตำรวจไซเบอร์มีหลักฐานชัดเจน รวมถึงโทรศัพท์มือถือที่นายซูพยายามลบข้อมูลแล้วแอบโยนทิ้งระหว่างเข้าจับกุม ซึ่งเชื่อว่าเป็นข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับเครือข่ายและเส้นทางการเงินทั้งหมด ซึ่งได้ประสานกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐ ช่วยกู้คืนข้อมูลในโทรศัพท์ดังกล่าวแล้ว