ความคืบหน้าคดี แอม ไซยาไนด์ ล่าสุดทางด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ในวันจันทร์ที่ 29 พฤษภาคม เวลา 10.00 น. ได้นัดหมาย นายธสรณ์อัฑฒ์ ธนิทธิพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ศูนย์ราชการฯ อาคาร บี ชั้น 5 เพื่อร่วมกันหารือในประเด็นพิจารณาเอาผิดโรงงานและบริษัทที่จำหน่ายสารไซยาไนด์ ของโรงงานอุตสาหกรรม
นอกจากความผิดฐานร่วมกันจำหน่ายแล้ว ก็ยังมีความผิดในส่วนของ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภคฯ อีกด้วย โดยถ้าพบว่าหากโรงงานหรือบริษัทใดก็ตาม มีความผิดเข้าองค์ประกอบดังกล่าว ทางสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค จะต้องเป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ จากนั้นทางโรงงานหรือบริษัทดังกล่าว จะต้องเข้ามารับทราบข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวนที่สโมสรตำรวจ
สำหรับสำนวนคดีทั้ง 15 สำนวนเพื่อเตรียมสรุปส่งพนักงานอัยการนั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า การร้อยเรียงจะไม่ได้เริ่มจากเคสไหนเป็นเคสแรก เนื่องจากทั้ง 15 เคส มีส่วนที่เหมือนกันคือผู้ต้องหาคนเดียวกัน โดยสำนวนจะเริ่มต้นจากการแยกทั้ง 15 สำนวนก่อน จากนั้นพยานหลักฐานอื่นใดก็ตาม ที่พบจาก 1 ใน 15 สำนวน ก็จะนำมาประกอบเข้ากับสำนวนอื่นๆร่วมด้วย และเมื่อเข้าสู่ขั้นตอนสุดท้าย คณะทำงานก็จะสรุปสำนวนเพื่อนำส่งพนักงานอัยการ
ทั้งนี้ สำนวนดังกล่าวจะรวมในกรณีของการแจ้งข้อหาทำลาย ซ่อนเร้นพยานหลักฐาน หรือ ม.184 ทั้งของ น.ส.ธันย์นิชา หรือ ทนายพัช และ พ.ต.ท.วิฑูรย์ หรือ รองอ๊อฟ อดีตสามีแอม เข้าไว้ด้วย อีกทั้งขณะนี้ยังคงมีจำนวนผู้เสียหายจากแอม จำนวน 15 รายเท่านั้น ส่วนจะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับบุคคลอื่นหรือไม่ ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาจากพยานหลักฐานอย่างต่อเนื่อง
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุอีกว่า ในระหว่างที่เร่งรัดทำสำนวน คณะพนักงานสอบสวนได้มีการประสานพูดคุยกับพนักงานอัยการอยู่เสมอ แต่รายละเอียดนั้น ขอละเว้นการเปิดเผยเนื่องจากเป็นเนื้อหาสำคัญภายในสำนวน แต่ยืนยันได้ว่าจะมีการส่งสำนวนให้อัยการภายในระยะเวลาการฝากขังผัดที่ 3 แน่นอน ซึ่งปัจจุบันการฝากขังแอมยังอยู่ในผัดที่ 2 ขอให้สังคมมั่นใจ พนักงานสอบสวนทำงานเต็มที่ทุกวัน