16 พฤษภาคม 2566 ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พร้อมด้วย นายสัตวแพทย์ สุทัศน์ ตั้งธโนปจัย กรรมการสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ พาตัวแทนเกษตรกร ผู้เลี้ยงหมู ประมาณ 50 คน เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีดีเอสไอ และนายธานินทร์ เปรมปรีดิ์ ผอ.กองภาษีอากร ดีเอสไอ
หลังได้รับความเดือดร้อนจากการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนที่ติดโรคและสำแดงเอกสารเท็จผ่านระบบคอมพิวเตอร์โดยเลี่ยงภาษี ทั้งยังปล่อยให้มีการลักลอบนำเข้าสารตั้งต้นผลิตยาเสพติด ผ่านด่านท่าเรือแหลมฉบังและอื่นๆ มูลค่าความเสียหายนับหมื่นล้านบาท เพื่อให้รับเป็นคดีพิเศษ
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ช่วงตั้งแต่ปี 65 ถึงปัจจุบัน พบว่ามีบริษัทเอกชนร่วมกับเจ้าหน้าที่รัฐและนายทุน ทำเอกสารเท็จลักลอบการนำเข้าเนื้อหมูเถื่อนไม่ผ่านการตรวจสอบโรคระบาดจากกรมปศุสัตว์ เข้ามาในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 7 ต.ค.65 ตำรวจ ปคบ. พร้อม กรมปศุสัตว์ สามารถจับกุมบริษัทชิปปิ้งแห่งหนึ่งที่ จ.สมุทรสาคร ยึดอายัดตู้คอนเทนเนอร์ทั้งหมด 11 ตู้เป็นเจ้าของเดียวกัน และแจ้งข้อหาเอาผิดได้เพียง 1 ตู้
นอกจากนี้ ตู้คอนเทนเนอร์ 3 ตู้ใน 11 ตู้ มีเอกสารเท็จเลี่ยงภาษีกรมศุลกากรและกรมสรรพากร ขณะนี้กำลังขยายผลเอาผิดบริษัทชิปปิ้งหลายอื่น ซึ่งผ่านเข้ามาทางด่านท่าเรือแหลมฉบัง
นายอัจฉริยะ กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบใบเอกสารที่ยึดได้ของบริษัทชิปปิ้งดังกล่าว อ้างว่าเป็นการนำเข้าอาหารแช่แข็งประเภทเนื้อหมูจากเมืองร็อตเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ แต่บริษัทชิปปิ้ง สำแดงเอกสารเท็จ เป็นนำเข้าจากฮ่องกง และเปลี่ยนเป็นนำเข้าประเภทพลาสติก (โพลิเมอร์ของโพรพิลีน) ทำให้มูลค่าเสียภาษีลดลง
เบื้องต้นพบว่ายังมีการนำเข้าผ่าน 4 ด่านกรมศุลกากรที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
“อย่างไรก็ตาม มีตู้คอนเทนเนอร์ตกค้างอยู่ที่ด่านกรมศุลกากรอีก 161 ตู้ พบเนื้อหมูลักลอบนำเข้ามา 4.5 กิโลกรัม คิดเป็นความเสียหายราคาตลาดกิโลกรัมละ 100 บาท และค่าภาษีตู้ละ 2 แสนบาท ความเสียหายกว่า 4 พันล้านบาท โดยวันนี้มาร้องเรียนดีเอสไอเพื่อเอาผิดกับเจ้าหน้าที่รัฐ บริษัทชิปปิ้ง และนายทุนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด”
ด้าน นายสัตวแพทย์ สุทัศน์ เผยว่า การลักลอบนำเข้าเนื้อหมูเถื่อนดังกล่าวสร้างความเสียหายทั้ง ผู้ประกอบการ เกษตรผู้เลี้ยงสุกรทั่วประเทศ และชาวไร่ชาวนาผู้ปลูกข้าวโพดหรือมัน เป็นผลิตอาหารสัตว์ เป็นปัญหาระดับชาติ ส่งผลกระทบต่อราคาขายตามท้องตลาดไม่สามารถขายได้ตามปกติ
นอกจากนี้ พบว่ามีการลักลอบนำเข้าเนื้อหมูจากต่างประเทศมาขายในท้องตลาดเมืองไทยที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ เดือนละประมาณ 1,000 ตู้ หรือเฉลี่ย 6-7 ล้านตัว เมื่อปี 65 ซึ่งเกรงว่าอาจไม่ปลอดภัยเพราะไม่ผ่านการตรวจโรคจากกรมปศุสัตว์
ขณะที่ พ.ต.ต.สุริยา ระบุว่า เบื้องต้นพบว่ามูลค่าความเสียหายหลักหมื่นบาท โดยดีเอสไอจะสืบสวนสอบสวน พร้อมรวมรวมพยานหลักฐานว่ามีบุคคลใดเกี่ยวข้องบ้าง จากนั้นจะพิจารณารับเป็นคดีพิเศษตามขั้นตอนต่อไป