
ความคืบหน้ากรณีคนร้าย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ประกบยิงนายศตวรรษ (สงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน กระสุนเข้าตามร่างกายรวม 6 นัด เสียชีวิตใกล้ซอยจรัญสนิทวงศ์ 30/1 แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
3 เมษายน 2566 นางอุไรวรรณ (สงวนนนามสกุล) อายุ 49 ปี มารดา พร้อมด้วยเพื่อน ๆ ได้เดินทางมารับศพนายศตวรรษ ที่สถาบันนิติเวช รพ.ศิริราช กลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านใน อ.เชียงคาน จ.เลย เป็นเวลา 3 วัน โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า
แม่ผู้เสียชีวิต ร่ำไห้เปิดเผยว่า มีลูกทั้งหมด 3 คน โดยผู้ตายเป็นลูกคน 2 ลูกชายเป็นคนดีไม่เคยมีปัญหา หรือมีเรื่องกับใคร รวมถึงลูกชายอยากเรียนเก่ง และสอบเข้าสถาบันแห่งนี้ด้วยตัวเอง ตั้งใจจะประกอบอาชีพวิศวกร เพื่อจะเลี้ยงดูแลครอบครัว
ที่ผ่านมาก็เคยเตือนลูกชายให้ระมัดระวังตัว เพราะทราบดีว่าสถาบันที่ลูกเรียนมักจะมีปัญหา แต่ลูกชายบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วง ก่อนหน้านี้ได้มีการโทรศัพท์คุยกับลูก ซึ่งลูกชายบอกว่าจะเดินทางกลับบ้านที่จังหวัดเลย เพื่อกลับไปหาแม่ในเทศกาลสงกรานต์ ก็ไม่คาดคิดว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายที่คุยกัน
นางอุไรวรรณ กล่าวอีกว่า ก่อนเกิดเหตุลูกชายบอกว่าจะไปซื้อกับข้าว ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พัก ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุร้ายกับลูก อยากให้ผู้ก่อเหตุมอบตัว และอยากถามว่า ทำไมถึงมาทำร้ายลูกตนเช่นนี้ ทั้งที่ลูกชายไม่เคยมีปัญหา หรือ โกรธเคืองกับใครมาก่อน รวมถึงเป็นที่รักของเพื่อนๆทุกคน นอกจากนี้หลังเกิดเหตุทางสถาบัน รวมถึงครูอาจารย์ก็ไม่มีการติดต่อมาสอบถามเหตุการณ์แต่อย่างใด
ทีมข่าวลงพื้นที่สอบถามวินรถจักรยานยนต์รับจ้าง (วินศาลาน้ำเย็น) ซึ่งตั้งอยู่บริเวณริมทางรถไฟบางขุนนนท์ ห่างจากจุดเกิดเหตุ 100 เมตร ระบุว่า ตอนเกิดเหตุเป็นเวลาช่วงหัวค่ำ ซึ่งตอนนั้นพบว่าสภาพการจราจรรถหนาแน่นตามปกติ และเท่าที่่สังเกุตเห็นรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิต และคนร้าย ขับขี่กันมาตามปกติ ไม่มีการเร่งเครื่อง หรือขับขี่ไล่กวดกันมาแต่อย่างใด
ต่อมาได้ยินเสียงปืนดังขึ้นเป็นชุด จำนวน 7-8 นัด และเงียบหายไปไม่นาน จากนั้นเพียงไม่กี่นาทีได้ยินเสียงปืนดังอีก 4-5 นัด จากนั้นทุกอย่างก็สงบลง จนกระทั่งเห็นว่ามีพลเมืองดีที่อยู่ใกล้เคียงลงไปช่วยเหลือ พร้อมกับรถเจ้าหน้าที่กู้ชีพได้เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็ว
วิน จยย. รับจ้าง ระบุอีกว่า ที่ผ่านมาไม่เคยเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ อีกทั้งยังเป็นการกระทำที่โหดเหี้ยมเนื่องจากมีการกลับมายิงซ้ำ อย่างไรก็ตามก็ต้องเพิ่มความระมัดระวังตัวให้มากขึ้น เพราะเกรงจะโดนลูกหลง เมื่อเกิดเหตุแบบนี้ อยากให้ตำรวจเพิ่มความเข้มงวดในการดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ให้มากขึ้น เนื่องจากจุดดังกล่าวมีประชาชนเลิกงานดึก และส่วนใหญ่จะ เป็นผู้หญิง จึงเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย
ทั้งนี้ ตำรวจได้ภาพวงจรปิดในช่วงเกิดเหตุ สามารถบันทึกภาพคนร้ายขับรถประกบยิงผู้ตายจนจักรยานยนต์ล้มลง จนประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงวิ่งหนี เพราะตกใจเสียงปืนในชุดแรก จากนั้นคนร้ายได้วกรถกลับไปเพื่อยิงผู้ตายซ้ำจนเสียชีวิต และขี่รถต่อไปตามถนนจรัญสนิทวงศ์ และกลับรถที่หน้าซอยจรัญสนิทวงศ์ 30/1 ไปฝั่งตรงข้าม และขับขี่หนีมุ่งหน้าปิ่นเกล้า
ส่วนภาพวงจรปิดอีกมุมหนึ่งบริเวณก่อนข้ามทางรถไฟ เผยให้เห็นรถคนร้ายที่ขับตามรถผู้ตายมาตั้งแต่ซอยจรัญสนิทวงศ์ 42 ในลักษณะการขับขี่ที่ใจเย็น ไม่มีการเร่งเครื่องหรือขับขี่หวาดเสียวแต่อย่างใด ก่อนจะไปก่อเหตุอุกอาจขึ้น
แม่เชิญดวงวิญญาณลูก กลับบ้านจังหวัดเลย
ต่อมาเวลา 18.00 น. หลังจากที่นางอุไรวรรณ มารดาของ นายศตวรรษ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.บางกอกน้อย เพื่อสอบปากคำประกอบสำนวนแล้วเสร็จ ก็ได้เดินเท้าออกมาที่จุดเกิดเหตุ ซึ่งห่างไปประมาณ 300 เมตร เพื่อทำพิธีอัญเชิญวิญญาณของลูกชายตามความเชื่อ โดยเอาธูป 1 ดอก เทียน 1 เล่ม ผ้า 1 ผืน พร้อมดอกไม้ มาประกอบพิธีช้อนดวงวิญญาณใส่ห่อผ้าเพื่อนำกลับ จ.เลย ก่อนจะเดินทางกลับภูมิลำเนาพร้อมร่างลูกชายทันที