เพื่อนบ้านร้อง วัยรุ่นอุ้มคู่อริไม่สำเร็จ ยิงกราด 5 หลัง ตร.เมินทำคดี (คลิป)

14 มีนาคม 2566 กล้องวงจรปิดหน้าบ้านหลังหนึ่งจับภาพเหตุการณ์กราดยิง ในซอยสุวินทวงศ์ 22 บันทึกภาพของรถยนต์ต้องสงสัยขับผ่านมา ระหว่างนั้นมีเสียงปืนดังจำนวน 12 นัด ก่อนที่รถคันนี้จะขับออกไปจากซอย เหตุการณ์เกิดขึ้นราวตี 2 วันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุพบมีบ้าน 5 หลังถูกกระสุนยิงเข้าใส่ผนังบ้านหลังละ 1 นัด

ล่าสุดเมื่อเวลา 10.30 น. หนึ่งในผู้เสียหาย นำหลักฐานมาร้องเรียนผ่านเพจ"สายไหมต้องรอด" เนื่องจากไม่มีความคืบหน้าทางคดี เพราะเมื่อไปแจ้งความแล้ว ตำรวจ สน.มีนบุรี บอกให้กลุ่มผู้เสียหายค้นหาหัวกระสุนและปลอกกระสุนไปส่งให้พนักงานสอบสวน โดยที่ไม่มีตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้ามาร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ เนื่องจากเหตุการณ์นี้ไม่มีคนบาดเจ็บ แต่ก็สร้างความตกใจและหวาดกลัวให้กับชาวบ้านที่อยู่ในที่เกิดเหตุ

นางปนัดดา (สงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี ผู้เสียหาย เล่าว่า มีบ้านหลังหนึ่งเยื้องๆ กับบ้านของตัวเองมักตั้งวงมั่วสุมกัน โดยช่วงกลางวันจะตีไก่ชน และกลางคืนก็รวมตัวกันเป็นประจำ คืนวันที่เกิดเหตุพบรถยนต์ต้องสงสัยเข้ามาและลงมามีปากเสียงกับวัยรุ่นที่อยู่ในบ้าน ใช้ปืนจ่อจะอุ้มตัวคนที่บ้านหลังดังกล่าวขึ้นรถ แต่ชายวัยรุ่นวิ่งหนีออกมาได้ จะวิ่งเข้าไปเอาปืน 

จากนั้นคนที่อยู่ในรถยนต์ก็เปิดกระจกรถใช้ปืนกราดยิงโดนบ้านของเพื่อนบ้านใกล้เคียงทั้ง 5 หลัง โดยรูกระสุนที่ทะลุผ่านกำแพงคอนกรีตของบ้าน บางรอยมีความกว้างถึง 7 เซนติเมตร ส่วนปอกกระสุนที่พบก็มีทั้งขนาด 9 มิลลิเมตร และ 11 มิลลิเมตร

“มีรถข้างนอกเข้ามาชุมชนเนื่องจากว่าเป็นช่วงท้ายซอยจึงสังเกตได้ว่าผิดปกติ  ก็เงียบๆไปก็ไม่มีอะไร สักพักหนึ่งสัก 5 นาทีก็มีเสียงปืนดัง ดัง 12 นัด ก็สอบถามบ้านที่ได้ก่อเหตุเขาบอกว่าเขาถูกอุ้ม เอาปืนจ่อหัวแล้วเขาสะบัดหลุด เขาก็วิ่งไปเอาปืนออกมา ทางนี้ก็เลยกลับรถได้ก็ออกไป แล้วพร้อมกับยิงแจกลูกปืน”

ผู้เสียหายบอกอีกว่า สำหรับเหตุการณ์ในลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นมาครั้งหนึ่งแล้วเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2565 แต่ก็เงียบหายไป โดยที่เจ้าของบ้านหลังดังกล่าวได้เพียงมาขอโทษเพื่อนบ้าน แต่ก็เกิดเหตุการณ์ขึ้นอีกครั้ง 

หลังเกิดเหตุชาวบ้านในละแวกนี้ก็รู้สึกไม่ปลอดภัย เพราะไม่รู้คู่กรณีจะกลับเข้ามาก่อเหตุอีกหรือไม่ และไม่รู้ว่าหากมาก่อเหตุอีก จะมีใครได้รับบาดเจ็บอีกหรือไม่ เพราะที่ผ่านมา ก็มีกระสุนเข้าไปถึงห้องนอนของเพื่อนบ้านมาแล้ว ทำให้บ้านที่อยู่ใกล้กับบ้านที่เกิดเหตุต้องยอมขายบ้านในราคาถูก เพื่อย้ายออกจากชุมชนไปแล้ว