ตร.คลองตัน เร่งชี้ตัว 3- 4 วินจยย.ไล่ฟันมือยิง แยกดำเนินคดี 2 สำนวน
ผกก.คลองตัน เผย คดีไล่ล้างแค้นมือยิงวิน จยย. ใกล้ศาลเจ้าแม่พลับพลึง แยกออก 2 สำนวน ตามข้อเท็จจริงของเหตุวิวาทครั้งนี้ เบื้องต้นทราบตัวแก๊งเพื่อนวินจยย. 3-4 คน ที่ไล่ล้างแค้นมือยิงวินฯ อยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบตัวคนฟัน
4 มีนาคม 2566 จากเหตุยิงวินรถจักรยานยนต์รับจ้าง( วิน จยย.) ซอยภูมิจิตร หน้าศาลเจ้าแม่พลับพลึง ถ"พระราม 4 แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพฯ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
ล่าสุด ทีมข่าวได้ลงพื้นที่เกิดเหตุ พบนายสุรเชษฎ์ แฉร้มไธสง อายุ 36 ปี ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของนายไพฑูรย์ ผลอุดม หรือ โอ๊ต อายุ 32 ปี ผู้ก่อเหตุยิงวิน จยย. เล่าว่า จากการพูดคุยแฟนสาวของนายโอ๊ต และกลุ่มเพื่อน ทราบว่า นายโอ๊ต((มือยิงวินฯ แล้วถูกพวกวินฯ ตามทำร้ายจนเสียชีวิต) รู้จักกับนายโอม วินรถจักรยานยนต์ เบอร์ 34 มานานหลายปีแล้ว แต่ไม่ทราบว่าเคยมีปัญหาอะไรกันหรือไม่ รู้เพียงว่า ก่อนเกิดเหตุ นายโอ๊ต(มือยิงวินฯ) ได้ดื่มสุราเข้าไป แล้วไปเติมน้ำมันที่ปั๊มใกล้ที่เกิดเหตุ และไปมีปากเสียงกับนายโอม ที่เข้ามาเติมน้ำมันพอดี มีการบีบแตรใส่กัน ด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย และอาจมีการยื้อแย่งอาวุธมีดกันด้วย ท้าทายว่า เดี๋ยวเจอกัน
จากนั้น นายโอ๊ต ได้นำปืนตามไปยิงนายโอมที่ซอยประจำวินจยย. แต่กระสุนถูก วินจยย.คนอื่นได้รับบาดเจ็บที่บริเวณขา จนทำให้กลุ่มเพื่อนวินฯ โกรธแค้น และน่าจะไล่ตามนายโอ๊ต ที่วิ่งเข้าไปในซอย ก่อนจะหลบเข้าไปยังบ้านเรือนของประชาชน
นายสุรเชษฎ์ เล่าอีกว่า ซอยที่นายโอ๊ต วิ่งเข้าไปหลบหนี มีกล้องวงจรปิด บันทึกเหตุการณ์ วินรถจักรยานยนต์ 2 คนไล่ตามนายโอ๊ต(มือยิงวินฯ) คนหนึ่งได้ถีบรถจักรยานยนต์ของรุ่นน้องนายโอ๊ต(มือยิงวินฯ) ซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ ส่วนอีกคนก็ขี่รถจักรยานยนต์ตามนายโอ๊ตเข้าไปภายในซอย
ตนเอง เชื่อว่าคนที่ฟันนายโอ๊ต มีมากกว่า 1 คน เนื่องจากนายโอ๊ตได้รับบาดเจ็บแขนขาด หูซ้ายขาด ถูกฟันที่หน้าอกบาดฉกรรจ์ และบาดแผลที่คอลึกถึงหลอดลม เป็นเหตุให้ นายโอ๊ต เสียชีวิตขณะเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ จึงอยากเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้กับน้องชาย
นางผ่องศรี แซ่อึ้ง เจ้าของร้านขายของชำ ซึ่งเป็นจุดซ่อนตัวของนายโอ๊ต เล่าว่า ขณะทำความสะอาดหน้าร้าน ชายถือปืนวิ่งเข้าไปในร้าน วิ่งขึ้นไปชั้น 3 ซึ่งเป็นห้องนอนของลูกสาว ตนเองพยายามถามว่าเข้าไปทำไม แต่ชายคนดังกล่าวไม่ตอบแล้ววิ่งเข้าไป จากนั้นด้วยความกลัวตนเองจึงให้ลูกสาวล็อคห้อง ส่วนตนเองก็วิ่งออกมานอกร้าน และได้ยินเสียงกลุ่มชายฉกรรจ์ ซึ่งไม่ทราบว่าขึ้นไปชั้น 3 ของบ้านทางไหน เพราะที่พักของตนเป็นอาคารพาณิชย์ติดกัน สามารถปีนข้ามไปมาได้
ชายกลุ่มดังกล่าวตะโกนบอกว่า “เอามันให้ตายๆ” ก่อนที่จะเห็นชาย 3-4 คน วิ่งออกมา ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมาก จึงไม่ทันสังเกตว่า ชายกลุ่มนี้มีลักษณะแต่งกายอย่างไร กระทั่งมาทราบภายหลังว่า ชายที่ถือปืนนั้นถูกฟันและมาเสียชีวิตในเวลาต่อมา
หนึ่งในวิน จยย.ที่ปรากฎในคลิปวงจรปิด เล่าเหตุการณ์ว่า ตนไม่ทราบสาเหตุที่ มีชายขี่รถจักรยานยนต์เข้ามายิงคนในวินจยย. แต่มันทำให้เพื่อนทั้งหมดในวิน ออกไล่ติดตามรวมทั้งตนเองด้วย แต่ไม่พบผู้ที่ลงมือยิง กระทั่งมาทราบว่า รถมูลนิธิฯ มารับมือยิงที่ได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากถูกฟันแขนขาด และไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล พร้อมยันว่าไม่ทราบว่าใครเป็นคนก่อเหตุฟัน เพราะที่ตามไปก็ไม่พบตัวผู้ก่อเหตุยิง ก็เลยพากันกลับออกมา
"ตนยอมรับว่า ที่ติดตามไป ก็เพื่อไปควบคุมตัวผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นคนที่อยู่ในพื้นที่ และเคยเห็นหน้ากันมาก่อน ส่วนเรื่องคู่กรณีจะมีเรื่องบาดหมางอะไรกันนั้น ตนไม่ทราบ"
ด้านพ.ต.อ.วชิรากรณ์ วงศ์บุญ ผกก.สน.คลองตัน เปิดเผยว่า เบื้องต้นชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด และสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องทุกคน โดยสามารถระบุตัวกลุ่มเพื่อนวินรถจักรยานยนต์ที่ไล่ติดตามนายโอ๊ตได้ 3-4 คนแล้ว แต่อยู่ระหว่างหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมว่าใครคือคนที่ก่อเหตุฟันนายโอ๊ตจนเสียชีวิต ส่วนสาเหตุนั้น ตำรวจเชื่อว่าน่าจะมีปัญหากันมาก่อน ส่วนนายโอ๊ตผู้เสียชีวิต เคยมีประวัติต้องโทษคดียาเสพติด
พ.ต.อ.วชิรากรณ์ กล่าวถึงคดีดังกล่าว พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน จะทำสำนวนแยกออกเป็น 2 สำนวน คือสำนวนคดียิงที่มีนายโอ๊ตเป็นผู้ต้องหา ถึงแม้ว่านายโอ๊ตจะเสียชีวิตแล้ว แต่ตำรวจก็จะต้องทำสำนวนและมีความเห็นส่งอัยการ ส่วนอีกสำนวนคือคดีที่มีการทำร้ายและฟันนายโอ๊ตจนเสียชีวิต ซึ่งตำรวจก็จะเร่งติดตามจับกุมตัวคนร้ายทั้งหมดมาดำเนินคดีต่อไป
