"นอท กองสลากพลัส" เมิน ไกล่เกลี่ย "สันธนะ" คดีบุกรุก จ่อแจ้ง หมิ่นประมาท เพิ่ม

29 พฤศจิกายน 2565 นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ นอท CEO กองสลากพลัส เปิดเผยว่า เตรียมแจ้งความดำเนินคดีข้อหาหมิ่นประมาทกับ นายสันธนะ ประยูรรัตน์ จากคำให้สัมภาษณ์และการให้ข้อมูลพาดพิงมาถึงตนและบริษัท จนทำให้ได้รับความเสียหาย ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด เพื่อเข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.ทองหล่อ เนื่องจาก ที่ผ่านมาผู้ก่อเหตุ ยังคงให้สัมภาษณ์พาดพิงมาถึงตนเองและบริษัทบ่อยๆ จนรู้สึกว่า ยอมไม่ได้กับการกระทำของผู้ก่อเหตุ

หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ได้แจ้งความดำเนินคดีนายสันธนะ จากกรณีที่พาพวก 4-5 คน บุกรุกสำนักงานย่านทองหล่อ เมื่อหลายสัปดาห์ก่อน ซึ่งพนักงานสอบสวน ได้ทำการสอบปากคำและตรวจสอบพยานหลักฐานเสร็จสิ้นแล้ว จึงได้เรียกตัวผู้ต้องหามารับทราบข้อกล่าวหา โดยนายสันธนะปฏิสธตลอดข้อกล่าวหา ซึ่งตำรวจเตรียมนำตัวส่งฟ้องต่อศาลในเร็วๆนี้



ทั้งนี้ หลังจากเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น ก็ไม่ได้รับการติดต่อจากผู้ก่อเหตุและพวก เพื่อขอเจรจาหรือไกล่เกลี่ยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และตนเองก็จะไม่ยอมเจรจาหรือยอมความ เนื่องจากพฤติการณ์ของผู้ก่อเหตุ เป็นการกระทำที่อุกอาจและทำให้ชื่อเสียงของบริษัทเสียหาย อีกทั้งยังเป็นการกระทำพละการ โดยไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง เข้ามาร่วมตรวจสอบตามขั้นตอนของกฎหมายและเป็นลักษณะของการใส่ร้าย ว่าตนเองหรือบริษัททำผิดกฎหมาย

นอกจากนี้ นายพันธ์ธวัช พร้อม นายศุภชัย ทิพย์สิทธิ์ทนาย ได้นำหลักฐานเข้าพบพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิด เกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อกล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด 2 คดีดังนี้

คดีแรกเป็นการหลอกขาย “ลอตเตอรี่ทิพย์” ให้กับประชาชน ภายใต้เว็บที่ใช้ชื่อว่า “ดีโชติช่วง” มีการขายสลากในราคา 80 บาท โดยไม่มีการคิดค่าบริการใดๆ ทั้งยังเชิญชวนดาวไลน์ว่า จะให้ส่วนแบ่ง 8 บาท ซึ่งราคาต้นทุน  72 บาท ดังนั้นไม่น่าจ่ายส่วนแบ่งได้เลย จากราคา 72 บาท ที่เป็นราคากลางมาจากกองสลาก

อีกทั้งสลากบางส่วนที่มีการขาย ยังมีตัวเลขซ้ำกับกองสลากพลัส จำนวน 3 เล่ม หรือ 300 ใบ มูลค่าประมาณ 2 หมื่นกว่าบาท บางส่วนมีการปลอมตัวเลข แต่ใช้ลายน้ำเดิม หรือแอบอ้างว่า ได้การรับรองจาก สคบ.

นายพันธ์ธวัช กล่าวอีกว่า แพลตฟอร์มนี้ มีมานานแล้ว ลักษณะเป็นการขายตรง หรือแบบแชร์ลูกโซ่แน่นอน แต่ช่วงหลังๆ เริ่มมีชื่อเสียเพราะมีดาวไลน์มากขึ้น จากความเสียหายในการปลอมแปลงเอกสาร หรือขายลอตเตอรี่ทิพย์ อาจจะไม่เยอะ แต่หากสลากที่หลอกขายไปเป็นรางวัลที่ 1 มันจะมีมูลค่าความเสียหายสูงมาก เบื้องต้น ตนจะแจ้งข้อหา ฉ้อโกงประชาชน และปลอมแปลงเอกสาร

ส่วนในคดีที่ 2 เป็นกลุ่มมิจฉาชีพปลอมเพจกองสลากพลัส บนแพลตฟอร์มเฟซบุ๊ก มีการหลอกขายลอตเตอรี่ให้กับประชาชน อ้างเป็นของตน จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบกว่า 50 บัญชีที่มีการโอน มูลค่าความเสียหาย 10 ล้านบาท มีผู้เสียหายหลงเชื่อ 2 ราย รายแรกเสียหาย 2 ล้านบาท รายที่ 2 เสียหาย 1.6 ล้านบาท ซึ่งการกระทำในลักษณะนี้ มีการแจ้งความไว้ที่ สน.ทองหล่อ

หลังจากนั้น มีการรายงานการแอบอ้างจนถูกเฟซบุ๊กแบนหรือปิดไป แต่หลังๆ มีการโฆษณาเยอะมาก รายงานไม่ไหว ต้องมาพึ่งตำรวจ เรื่องนี้ ทางเฟซบุ๊กเอง ควรให้ความสำคัญ กับการฉ้อโกงในลักษณะนี้อย่างมาก เพราะเป็นเรื่องที่สร้างความเสียหายให้กับประชาชนจำนวนมาก

ทั้งนี้ อยากเตือนประชาชนว่า หากมีการซื้อล็อตเตอรี่ให้สังเกตุง่ายๆ ว่า ยอดผู้ติดตามของสลากพลัสมีสูงถึง 4.4  แสนราย ถ้าน้อยกว่านี้ไม่ใช่เพจของสลากพลัก นอกจากนี้ เวลาโอนเงินชำระค่าสลาก ต้องสังเกตชื่อผู้รับโอน ต้องเป็นในนามบริษัทเท่านั้น ไม่ใช่ในนามบุคคลอย่างแน่นอน

สำหรับผู้เสียหายท่านใดที่ซื้อสลากและได้รับความเสียหายจากการถูกแอบอ้างสลากพลัส ตนจะตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียน ผู้เสียหายสามารถมอบอำนาจให้ทนายความของบริษัท ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดได้