13 ตุลาคม 2565 จากกรณีพ่อเด็กหญิงโร่ร้องสื่อจากเหตุการณ์ที่มีสุนัขพันธุ์ไทยสีดำกระโดดขย้ำลูกสาววัย 7 ขวบได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้าอาการสาหัส คาดว่าหมาตัวที่กัดเป็นหมาของเพื่อนบ้านซึ่งมีบ้านอยู่ตรงข้ามกัน แต่เพื่อนบ้านกลับยืนยันเสียงแข็งว่าไม่ใช่หมาของตน โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 ต.ค.65 เวลา 17:30 น. โดยประมาณ
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าเป็นหมู่บ้านแห่งหนึ่งตั้งอยู่ในหมู่ 5 ต.ประจันตคาม อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี และได้พบกับชาวบ้านที่อยู่ในหมู่บ้านจับกลุ่มพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งบริเวณที่เกิดเหตุห่างจากบ้านของเด็กหญิงวัย 7 ขวบที่โดนหมาขย้ำประมาณ 30 เมตร โดยยังพบคราบเลือดกระจัดกระจายบริเวณที่โดนหมากัด ขณะที่บ้านคู่กรณีทั้งสองอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้และบ้านอยู่ตรงข้ามกัน
ส่วนทางหนูน้อยที่ได้รับบาดเจ็บนั้น เบื้องต้นจากการตรวจสอบสภาพบาดแผลที่ทางพ่อของหนูน้อยเอามาให้ผู้สื่อข่าวดู เห็นว่าถูกสุนัขกัดเป็นบาดแผลระหว่างดั้งจมูกกับดวงตา หวิดถูกดวงตาไปนิดเดียว ส่วนที่แก้มซ้่ายมีแผลกว้างมาก จนหนังของแก้มหายไป เบื้องต้นยังต้องอยู่ในการดูแลของทางทีมแพทย์อย่างใกล้ชิด
จากการสอบถามนายกิตติศักดิ์ อายุ 34 ปี ผู้เป็นพ่อเด็ก กล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 17.30 น.ตนกำลังนั่งกินข้าวอยู่กับลูก หลังจากที่ลูกกินข้าวเสร็จก็ได้เดินออกมาเล่นบริเวณหน้าบ้านเป็นประจำ หลังจากนั้นประมาณ 5 นาที จากนั้นลูกชายคนเล็กของตนได้วิ่งเข้ามาบอกตนว่าพี่โดนหมากัด และก็ได้ยินเสียงร้องของเพื่อนบ้านว่าหมากัดเด็ก ตนจึงวิ่งมาดูพบลูกสาวของตนถูกหมากัด โดยมีบาดแผลบริเวณใบหน้าฉีกขาดแก้มด้านซ้ายเป็นแผลเหวอะขนาดใหญ่ หลังจากที่หมากัดลูกสาวของตนก็วิ่งเตลิดหนีเข้าป่าไปบริเวณหลังหมู่บ้าน
จากนั้นทางตนและเพื่อนบ้านได้พาลูกสาวนำส่งยังโรงพยาบาลประจันตคาม ก่อนที่จะส่งไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ซึ่งลูกสาวของตนเพิ่งออกจากห้องผ่าตัดเมื่อช่วงบ่ายของวันนี้ โดยยังมีอาการสะลึมสะลือและอาเจียน
โดยหลังจากเกิดเหตุ ตนได้เดินทางไปสอบถามเพื่อนบ้านซึ่งคาดว่าจะเป็นเจ้าของหมา แต่ได้รับการยืนยันว่าเขาไม่ใช่เจ้าของหมาและไม่ได้เลี้ยงหมาตัวนี้ ทั้งที่ตนและเพื่อนบ้านคนอื่นๆต่างก็เห็นว่า เพื่อนบ้านคู่กรณีได้ให้อาหารหมาตัวนั้นเป็นประจำ
ซึ่งหลังจากที่พูดคุยแล้วทางคู่กรณีซึ่งเป็นเพื่อนบ้านยืนยันว่าจะไม่รับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น โดยทางตนได้เดินทางไปแจ้งความยัง สภ.ประจันตคาม ซึ่งทางตำรวจแจ้งว่าจะเรียกคู่กรณีเข้าไปสอบสวนถึงสาเหตุที่เกิดขึ้นอีกครั้งในวันที่ 20 ต.ค.นี้
จากนั้นทางผู้สื่อข่าวจึงได้สอบถามนายทองสิทธ์ อายุ 49 ปี เพื่อนบ้านคนที่ให้อาหารสุนัข ได้กล่าวว่า หมาตัวดังกล่าวไม่ใช่หมาของตนโดยตนเลี้ยงหมาอยู่ที่บ้านเพียง 1 ตัวชื่อเจ้าแดง ส่วนหมาตัวสีดำจะชอบมาเดินเล่นบริเวณหมู่บ้านของตนประมาณปีหนึ่งแล้ว บางครั้งตนเกิดความสงสารจึงให้อาหารหมาตัวดังกล่าวบ้างเป็นบางเวลาเท่านั้น
ภาพ-ข่าว : สายชล หนูแดง, ดิเรกฤทธิ์ แสงสุวรรณ จ.ปราจีนบุรี