บิ๊กโจ๊ก-ปวีณา ทลายขบวนการหลอกเหยื่อ 16 ปี ค้ากามเมียนมา

จากกรณีเมื่อวันที่ 12 กันยายน นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรีพาผู้เสียหาย อายุ 16 ปีเข้าร้องเรียนต่อ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และรอง ผอ.ศพดส.ตร.ว่าเหยื่อถูกหลอกลวงให้เดินทางไปยังประเทศเมียนมา และถูกบังคับให้ค้าประเวณี จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 3 รายนั้น

ล่าสุด เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี เดินทางมาที่ห้องประชุมสมาคมพนักงานสอบสวน สโมสรตำรวจ จากนั้นได้ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมขบวนการหลอกเหยื่อสาวค้าประเวณีประเทศเมียนมา น.ส.ณัฐฐิตา หรือออม บุญญประภา อายุ 29 ปี ทำหน้าที่เป็นคนหลอกลวงให้เหยื่อไปทำงานที่ประเทศเมียนมา จับกุมได้ที่ท่าข้ามธรรมชาติ ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก 

นายอาหลู่ผะ หรือไวน์ เบียะสี อายุ 44 ปี เป็นสามีของ น.ส.ณัฐฐิตา ทำหน้าที่เป็นคนนำพาเหยื่อลักลอบข้ามแดนไปยังประเทศเมียนมาร์ จับได้ที่โรงแรมต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ในข้อหาถูกดำเนินคดีในความผิดฐาน

ร่วมกันพรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปี ไปเสียจากบิดามารดาผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อหากำไร หรือเพื่อการอนาจาร โดยผู้เยาว์นั้น เต็มใจไปด้วย , ค้ามนุษย์ด้วยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี โดยเป็นธุระจัดหา พามาจากหรือส่งไปยังที่ใด จัดให้อยู่อาศัย หรือรับไว้ซึ่งเด็ก หรือซึ่งได้กระทำแก่บุคคลผู้มีอายุต่ำกว่าสิบแปดปี ,บังคับใช้แรงงานหรือบริการ โดยข่มขืนใจผู้อื่นให้ทำงานหรือให้บริการโดยวิธีการนำภาระหนี้ของบุคคลอื่นส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร หรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิด และ ชักจูง ส่งเสริมยินยอม หรือกระทำด้วยประการใดอันเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากเด็ก

และน.ส.สุพัฒตา หรือกิ่ง บุระเนตร อายุ 23 ปี เป็นเจ้าของร้าน ที่ประเทศเมียนมา บังคับเหยื่อค้าประเวณี จับกุมได้ที่ท่าข้ามธรรมชาติ ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก ในข้อหา ซื้อ จำหนำย หรือรับตัวผู้เยาว์ อายุกว่าสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปี ซึ่งถูกพราก ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อหากำไรหรือเพื่อการอนาจารโดยผู้เยาว์นั้นใจไปด้วย , 

ค้ามนุษย์ด้วยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี โดยเป็นธุระจัดหา พามาจากหรือส่งไปยังที่ใด จัดให้อยู่อาศัย หรือรับไว้ซึ่งเด็ก หรือซึ่งได้กระทำแก่บุคคลผู้มีอายุต่ำกว่าสิบแปดปี , บังคับใช้แรงงานหรือบริการ โดยชมขืนใจผู้อื่นให้ทำงานหรือให้บริการโดยวิธีการนำภาระหนี้ของบุคคลอื่น ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร หรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิด และ ชักจูง ส่งเสริม ยินยอม หรือกระทำด้วยประการใดอันเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากเด็ก

ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า พฤติกรรมของขบวนการ น.ส.ณัฐฐิตา หรือออม ผู้ต้องหา ได้ชักชวน น.ส.เอ ผ่านแอพพลิเคชั่น Line และ Facebook ให้ไปทำงานร้านอาหารแห่งหนึ่งในประเทศเมียนมา โดยอ้างว่าจะได้เงินสัปดาห์ละ 50,000 บาท ทำมา 2 เดือนจะมีเงินเก็บ 200,000 - 400,000 บาท ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ 

จากนั้น น.ส.ณัฐฐิตา ให้นายอาหลู่ผะ ซึ่งเป็นสามี พา น.ส.เอ ลักลอบข้ามชายแดนในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก โดยใช้ช่องทางธรรมชาติ และนำไปส่งให้กับน.ส.สุพัฒตา เจ้าของร้านอาหาร หลังบ่อนการพนัน แจ็คดรากอนไ

ต่อมา น.ส.เอ จึงได้ขอความช่วยเหลือมายังมูลนิธิปวีณา และได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่กลับมายังประเทศไทย ทั้งนี้ผู้ต้องหารับสารภาพว่า ทำมาแล้วประมาน 6 เดือน โดยจะได้หัวคิวการหลอก รายละ 20,000 - 100,000 บาท

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า หลังจากที่ได้รับการร้องเรียนจากมูลนิธิปวีณา ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ ศพดส.ตร. ร่วมกับสหวิชาชีพในการสอบถามข้อมูลจากเหยื่อ และรวบรวมพยานหลักฐานในการสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดในขบวนการดังกล่าว จนสามารถระบุตัวผู้ต้องหาได้ครบทั้งคนหลอกชักชวนเหยื่อ คนลักลอบพาข้ามแดน และเจ้าของร้านคนไทยในประเทศเมียนมาที่อยู่รับตัวเหยื่อปลายทาง 

โดยใช้เวลา 2 สัปดาห์ในการสืบสวน ติดตาม จับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด ซึ่งหลังจากนี้จะมีการตรวจสอบเพิ่มเติม ว่าเจ้าของร้านตัวจริงที่เป็นคนจีน คือใคร เพื่อทำการออกหมายจับ ประสานอินเตอร์โพล ออกหมายแดง หรือ Red Notice และประสานประเทศเมียนมาเพื่อจับกุมต่อไป

ทั้งนี้ ขอประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชน ให้ช่วยกันดูแลบุตรหลานของท่าน รวมทั้งให้ระมัดระวังในการหางานผ่านช่องทางอินเตอร์เน็ตและโซเชียลมีเดีย โดยหากพบเบาะแสเกี่ยวกับขบวนการหลอกลวงเหยื่อไปค้าประเวณี หรือค้ามนุษย์ สามารถแจ้งได้ทุกช่องทางของ ศพดส.ตร. หรือสายด่วน 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง