พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(ผบช.สอท.) หรือ ผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์ พร้อมด้วย นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง แถลงผลจับกุม นายหู เฉินปิง อายุ 32 ปี และ นายนี่ ชวง ชุน อายุ 23 ปี สองผู้ต้องหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์สัญชาติจีน-ไต้หวัน ส่วน นายจาง หยาง อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาสัญชาติจีนโอเวอร์สเตย์
หลังตำรวจตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้รับการร้องทุกข์จากผู้เสียหาย ว่าถูกคนร้ายแอบอ้างแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ปลอมแปลงหมายจับ ข่มขู่เหยื่อว่าจะถูกดำเนินคดีก่อนเรียกเงินเพื่อจบคดี จากเหยื่อ จนทำให้มีคนหลงเชื่อ โอนเงินไปยังบัญชีที่มีการเตรียมเอาไว้ รวมเป็นเงินกว่า 6,900,000 บาท
จากนั้น ตำรวจจึงทำการสืบสวนสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายค้นสถานที่ต้องสงสัย 2 จุด คือ คอนโด ย่านอโศก-รัชดา และคอนโดย่านรัชดา-สุทธิสาร ก่อนจะควบคุมตัวผู้ต้องหาได้ทั้ง 3 ราย พร้อมของกลาง โทรศัพท์มือถือ จำนวน 31 เครื่อง คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค และบัญชีเงินฝากธนาคาร (บัญชีม้า) จำนวน 13 บัญชี
พล.ต.ท.กรไชย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบกลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้ มักมีพฤติกรรมในการแอบอ้างหน่วยงานราชการ และสร้างเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชั่น เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ก่อนหลอกลวงให้เหยื่อหลงเชื่อ ซึ่งอยากฝากเตือนประชาชนให้มีสติ และสอบถามข้อมูลไปยังต้นสังกัดของหน่วยงานแอบอ้าง เพื่อจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ
ทั้งนี้ จากการขยายผลแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลุ่มดังกล่าว พบว่าหลอกลวงเหยื่อมาแล้วจำนวนมาก รวมมูลค่าความเสียหาย ประมาณ 60 ล้านบาท ทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการขยายผลสืบสวนจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง
เบื้องต้น พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหานายหู เฉินปิง และ นายนี่ ชวง ชุน ในข้อหามีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ส่วนนายจาง หยาง ถูกแจ้งข้อหา เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามา และอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป