svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

สืบความจริง ตอน ฟ้อง 20 ล้าน เยียวยาเหยื่อ"ถุงดำ"

25 ธันวาคม 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ฤทธิรงค์ ชื่นจิตร เหยื่อคลุมถุงดำ เมื่อปี 2552 พร้อมด้วยคุณพ่อ สมศักดิ์ ชื่นจิตร และทนายความจากมูลนิธิผสานวัฒนธรรม ผิว เดินทางมาศาลแพ่งกรุงเทพใต้ เพื่อนัดพร้อมกำหนดวันสืบพยาน ฟ้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรียกค่าเสียหาย 20 ล้าน 8 แสนบาท กรณีใช้ถุงดำทำร้ายร่างกาย

ฤทธิรงค์ ชื่นจิตร เหยื่อคลุมถุงดำ เมื่อปี 2552 พร้อมด้วยคุณพ่อ สมศักดิ์ ชื่นจิตร และทนายความจากมูลนิธิผสานวัฒนธรรม ปรีดา นาคผิว เดินทางมาศาลแพ่งกรุงเทพใต้ เพื่อนัดพร้อมกำหนดวันสืบพยาน ในคดีที่ ฤทธิรงค์ ชื่นจิตร ฟ้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรียกค่าเสียหาย 20 ล้าน 8 แสนบาท จากกรณีเมื่อวันที่ 28 ม.ค.2552 หรือ 12 ปีที่แล้ว ฤทธิรงค์ ถูกตำรวจกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธร จังหวัดปราจีนบุรี ใช้ถุงดำคลุมศรีษะ ทำร้าย และทรมาน เพื่อบังคับให้รับสารภาพในคดีชิงทองหญิงคนหนึ่ง

ครอบครัวชื่นจิตร พิสูจน์ในศาลจนคดีถึงที่สุดว่า ฤทธิรงค์ ไม่ได้เป็นผู้กระทำความผิด  

สืบความจริง ตอน ฟ้อง 20 ล้าน เยียวยาเหยื่อ"ถุงดำ"

คดีหลักที่สมศักดิ์ ชื่นจิตร กล่าวถึงก็คือ คดีที่ฤทธิรงค์ ชื่นจิตร ยื่นฟ้องตำรวจ 7 นาย โดยคำฟ้องสรุปความว่า เมื่อส่งมอบตัวโจทก์ให้จำเลยที่ 3 กับพวกคุมตัวโจทก์ไปที่ห้องของกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี แล้วลงมือทำร้ายโจทก์ โดยมีจำเลยที่ 5 ใช้เท้าเหยียบสีข้าง ลำตัวโจทก์ กับมีจำเลยที่ 4 และจำเลยที่ 6 รู้เห็นเหตุการณ์ตลอด เมื่อโจทก์ถูกทรมานจนทนไม่ไหว จึงยอมรับสารภาพเพื่อเอาชีวิตรอด

 

คดีนี้ศาลอุทธรณ์ ภาค 2 พิพากษา ว่า คดีฟังได้โดยปราศจากสงสัยว่าจำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นตำรวจยศพันตำรวจตรี ทำร้ายโจทก์ และเมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยที่ 3 เป็นเจ้าพนักงานมีอำนาจหน้าที่สืบสวนสอบสวนคดีอาญา ในระหว่างสอบสวนโจทก์ ได้หน่วงเหนี่ยว กักขังโจทก์ ทำร้ายโจทก์เพื่อให้โจทก์ยอมรับสารภาพ จึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์

 

 

พิพากษาว่า จำเลยที่ 3 มีความผิด ให้ลงโทษฐานเป็นเจ้าพนักงานมีอำนาจหน้าที่สืบสวนสอบสวนคดีอาญากระทำการเพื่อจะแกล้งให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดต้องรับโทษ อันเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 9 จำคุก 2 ปี และปรับ 12,000 บาท คำให้การของจำเลยที่ 3 เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ จึงลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุก 1 ปี 4 เดือน และปรับ 8,000 บาท 

สืบความจริง ตอน ฟ้อง 20 ล้าน เยียวยาเหยื่อ"ถุงดำ"

เมื่อคำนึงถึงประวัติ อาชีพ และสภาพความผิดแล้ว ทั้งไม่ปรากฎว่าจำเลยที่ 3 ได้รับโทษจำคุกมาก่อน จึงให้รอการลงโทษเพื่อให้โอกาสจำเลยที่ 3 กลับตัวภายในระยะเวลา 2 ปี นับแต่วันที่ศาลพิพากษา

 

ปรีดา นาคผิว ทนายความของมูลนิธิผสานวัฒนธรรม ต้องการให้คดีนี้เป็นบรรทัดฐานทางสังคมว่า ไม่ควรมีการซ้อมทรมานโดยเฉพาะตำรวจ ผู้รักษากฎหมาย ไม่ควรเป็นอาชญากรเอง จึงถือว่าเป็นเรื่องที่ร้ายแรงมาก คดีหรือกรณีลักษณะนี้ยังมีจำนวนมาก

 

ส่วนค่าเสียหาย 20 กว่าล้านบาทในคดีนี้แล้วแต่ศาลจะพิจารณา แต่ข้อเท็จจริงปรากฏชัดแล้วว่า ตำรวจคลุมถุงดำ ซ้อมทรมานจริง หลังคำพิพากษา คดีอาญาถึงที่สุด

สืบความจริง ตอน ฟ้อง 20 ล้าน เยียวยาเหยื่อ"ถุงดำ"

คดีซ้อมทรมาน การอุ้มหาย สังคม ต้องช่วยกันจับตาการผลักดัน ร่างพ.ร.บ.ป้องกันการทรมานและอุ้มหาย ซึ่งจะมีกลไก ทั้งการป้องกัน ปราบปราม และฟื้นฟูเยียวยา โดยขณะนี้ อยู่ในการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร

 

สาระสำคัญ ของร่างพ.ร.บ.ป้องกันการทรมานและอุ้มหาย คือ ระบุการกระทำที่เข้าข่ายความผิดฐานทรมาน ต้องเป็นการกระทำให้ผู้อื่นเกิดความเจ็บปวดหรือทุกข์ทรมานอย่างร้ายแรงแก่ร่างกายหรือจิตใจ และต้องมีวัตถุประสงค์อย่างอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้

1) เพื่อให้ได้ข้อมูลหรือคำรับสารภาพจากบุคคลที่ถูกทรมานหรือบุคคลที่สาม

2) เพื่อลงโทษบุคคลที่ถูกทรมานอันเนื่องมาจากการกระทำของบุคคลนั้นหรือสงสัยว่าบุคคลนั้นได้กระทำการสิ่งใด

3) เพื่อข่มขู่หรือขู่เข็ญผู้ถูกทรมานหรือบุคคลที่สาม

4) เพราะเหตุผลอื่นๆ บนพื้นฐานของการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม

สืบความจริง ตอน ฟ้อง 20 ล้าน เยียวยาเหยื่อ"ถุงดำ"

logoline