ตร.ค้นบ้านใกล้จุดพบศพอุ้มฆ่าสาวพัทลุงโยงปมหนี้แชร์ลูกโซ่

     4 ก.ค. 2564 ความคืบหน้าเหตุคนร้ายอุ้มฆ่าโหดนางสาว จิราพร หรือน้องก้อย เพ็ชรรัตน์ อายุ 29 ปี ห่อศพด้วยผ้าห่มก่อนห่อทับด้วยผ้าปูที่นอนอีกชั้น แล้วนำไปทิ้งข้างคลองชลประทาน ในพื้นที่บ้านหนองเป็ดน้ำ หมู่ 6 ตำบลนาโหนด อ.เมือง จ.พัทลุง สภาพศพมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาด เข้าที่บริเวณลำตัว 5 แผล นอกจากนั้นที่บริเวณท้ายทอยมีร่องรอยถูกทุบของด้วยแข็ง โดยมีผู้มาพบศพเมื่อเย็นวันที่ 2 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา

     หลังจากที่นางสาวก้อย ถูกชายสองคนฉุดกระชากพาขึ้นรถกระบะไปเมื่อตอนเย็นของวันที่ 30 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมาล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจกองสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง และเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร ภาค 9 เร่งสอบสวนขยายผลเพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน ติดตามจับกุมกลุ่มผู้ก่อเหตุ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่า น่าจะมีกันมากกว่า 2 คนตามที่พยานเห็นในวันเกิดเหตุฉุดกระชากขึ้นรถ ในขณะที่พนักงานสอบสวน เจ้าของคดี ได้เร่งสอบปากคำพยาน โดยเฉพาะญาติ ๆ ของนางสาวก้อย และพยานที่เห็นเหตุการณ์ในวันที่นางสาวก้อย ถูกฉุดขึ้นรถไป

     โดยเบื้องต้นสอบปากคำไปแล้ว 4 ปาก ประกอบด้วย แม่ของผู้ตาย สามีผู้ตาย แม่สามีผู้ตาย และชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์เบื้องต้นให้น้ำหนักปมเหตุที่เป็นชนวนการฆ่าโหดในครั้งนี้ที่เรื่องปัญหาความขัดแย้งเรื่องหนี้แชร์ลูกโซ่ ที่ นางสาวก้อย ไปเล่นกับท้าวแชร์หญิงรายหนึ่ง ในพื้นที่จังหวัดพัทลุง จนมีปัญหาขัดแย้ง ตามทวงหนี้กันหลายครั้งแต่ก็ไม่ทิ้งประเด็นความขัดแย้งเรื่องส่วนตัวอื่น ๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังเร่งสอบสวนขยายผลว่ามีปมเหตุใดอีกหรือไม่ ที่มีน้ำหนักมากพอ จนทำให้คนร้ายลงมือได้โหดเหี้ยมขนาดนี้

     ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจแบ่งชุดทำงานออกเก็บภาพจากกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม ขยายพื้นที่กว้างออกไป ซึ่งเป็นเส้นทางที่เชื่อมโยงไปยังจุดพบศพ สามารถได้ภาพรถต้องสงสัยจำนวน 1 คัน ซึ่งสอดคล้องกับคำให้การของพยาน

     นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจภาค 9 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายสืบพัทลุง บุกค้นบ้านพักในพื้นที่ ม.6 ห่างจุดพบศพประมาณ 300 เมตร พบหลักฐานสำคัญที่อาจเป็นชนวนในการก่อเหตุในครั้งนี้และอาจสาวไปถึงตัวคนร้ายแต่ไม่สามารถให้รายละเอียดได้

     อย่างไรก็ตาม สำหรับการพบศพนางสาวก้อย ผลการตรวจยืนยันไม่พบเชื้อโควิด 19 แต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ได้ส่งศพต่อไปที่ รพ มอ.หาดใหญ่ เพื่อตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์อย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อเป็นหลักฐานประกอบสำนวนคดี ก่อนจะส่งร่างผู้เสียชีวิตให้ญาติบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป

ภาพ/ข่าว...ลัดดา มณีรัตน์ / พัทลุง